6 ก.ค. 2558 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์ “ปล่อยนักศึกษาและนักกิจกรรม 14 คน โดยไม่มีเงื่อนไข การละเมิดสิทธิเสรีภาพและสิทธิพลเมือง ไม่สามารถนำพาประเทศไปสู่ความปรองดอง” จากกรณีการจับกุมนักศึกษานักกิจกรรมทางสังคมในนามกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ในข้อหาตามมาตรา 116 และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. 3/2558
แถลงการณ์ระบุ กป.อพช.ขอเรียกร้องรัฐบาล คสช. และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในทุกระดับให้ยอมรับว่าการเคลื่อนไหวโดยกลุ่มพลเมืองใดๆ ก็ตามที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือมาจากความปรารถนาที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมืองดังที่กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้กระทำไปแล้วนั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงได้รับการเคารพ
คสช. รัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐด้านความมั่นคง พึงยึดหลักขันติธรรม ระมัดระวังที่จะด่วนสรุปว่าการแสดงความเห็นต่างของกลุ่มพลเมืองใดๆ มีผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งอาจทำให้การดำเนินนโยบายผิดพลาดยิ่งขึ้นเพราะเข้าใจปัญหาไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลให้การนำพาประเทศไทยไปสู่ความปรองดองยิ่งห่างไกลจากความเป็นจริง
แถลงการณ์ กป.อพช. ระบุดังนี้
แถลงการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารนอกเครื่องแบบได้จับกุมนักศึกษานักกิจกรรมทางสังคมในนามกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. 3/2558 นั้น คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เห็นว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ อยู่ในกรอบสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่นานาอารยะประเทศให้การยอมรับ ดังที่ตราไว้ใน “กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) 2519” ที่ประเทศไทยเป็นภาคีตั้งแต่ปี 2539 ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจับกุม คุมขังนักศึกษานักกิจกรรมเหล่านี้ พร้อมตั้งข้อหาที่รุนแรง และดำเนินคดีโดยใช้อำนาจการไต่สวนโดยศาลทหาร จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เข้าข่ายละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และแทรกแซงกระบวนการบยุติธรรม กป.อพช.จึงขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไข ประเทศไทยในภาพรวมประกอบด้วยพลเมืองที่มีจิตสำนึกและความตื่นตัวทางการเมืองในระดับสูง อันเป็นผลพวงของพัฒนาการที่ต่อเนื่องของระบอบประชาธิปไตย ลังจากที่คสช.ยึดอำนาจการบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และได้ใช้มาตรการกดข่มความเห็นต่างทางการเมืองในลักษณะเหมารวม ซึ่งจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยุติลงเมื่อใด ย่อมทำให้ประชาชนหลายกลุ่มเกิดความรู้สึกถูกบีบคั้น กดดันเพราะไม่อาจแสดงความเห็นได้อย่างเป็นอิสระ โดยข้อเท็จจริง การเคลื่อนไหวของนักศึกษาในนามกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่มีเจตจำนงปกป้องราษฎรในชนบทห่างไกลที่ถูกข่มเหงรังแกโดยกลุ่มผู้มีอิทธิพล มีบุคคลในเครื่องแบบเกี่ยวข้อง และมุ่งตรวจสอบนโยบายภาครัฐที่ก่อให้เกิดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและฐานอาชีพของชุมชน อันได้ดำเนินมาตั้งแต่ก่อนพฤษภาคม 2557 กป.อพช.เห็นว่ากิจกรรมเช่นนี้ก่อประโยชน์โดยตรงต่อกลุ่มประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิ อีกทั้งยังเกื้อกูลภาครัฐที่จะต้องบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน กป.อพช.ขอเรียกร้องรัฐบาล คสช. และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในทุกระดับให้ยอมรับว่าการเคลื่อนไหวโดยกลุ่มพลเมืองใดๆก็ตามที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือมาจากความปรารถนาที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมืองดังที่กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้กระทำไปแล้วนั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงได้รับการเคารพ คสช. รัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐด้านความมั่นคง พึงยึดหลักขันติธรรม ระมัดระวังที่จะด่วนสรุปว่าการแสดงความเห็นต่างของกลุ่มพลเมืองใดๆมีผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งอาจทำให้การดำเนินนโยบายผิดพลาดยิ่งขึ้นเพราะเข้าใจปัญหาไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลให้การนำพาประเทศไทยไปสู่ความปรองดองยิ่งห่างไกลจากความเป็นจริง คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน |
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.2558) เวลาประมาณ 18.00 น.ที่บริเวณหน้าป้ายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีการจัดกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ชื่อว่า “โพสต์อิสรภาพ” ต่อเนื่องจาก “โพสต์อิสรภาพ” ที่สกายวอล์คบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2558 เพื่อเขียนข้อความถึง 14 นักศึกษานักกิจกรรม ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยมีนักวิชาการและบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วม อาทิ นิธิ เอียวศรีวงศ์, สมชาย ปรีชาศิลปกุล, อรรถจักร สัตยานุรักษ์, ‘เจ้ย’ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล และ ‘มะเดี่ยว’ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เป็นต้น
ที่มาคลิป: ACD Art Community for Development
นอกจากนั้น ภายในงานดังกล่าวยังมี การอ่านแถลงการณ์ซึ่งลงนามโดยกลุ่มนักศึกษา 4 กลุ่ม คือ สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มแม่โจ้เสรีเพื่อประชาธิปไตย, At North และเครือข่ายนักศึกษาภาคเหนือ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเพื่อนนักศึกษา 14 คน โดยไม่มีเงื่อนไข
แถลงการณ์ระบุว่ากลุ่มนักศึกษารู้สึกเจ็บปวด ที่เจ้าหน้าที่รัฐได้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อพลเมืองไทย ปล้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ใช้อำนาจเผด็จการกดขี่และสร้างความหวาดกลัวไปทั่วทุกพื้นที่ พร้อมยืนยันหลักการ 5 ข้อของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้แก่ ประชาธิปไตย ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม สิทธิมนุษยชน-สิทธิชุมชน และสันติวิธี
“แม้ร่างกายของเราจะไม่ได้ถูกกักขัง แต่ตราบใดที่เพื่อนเรายังคงอยู่ในเรือนจำ ก็เหมือนกับกักขังจิตใจเราไปด้วย” แถลงการณ์ระบุ
ที่มาภาพ: สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ในวันนี้ (6 ก.ค. 2558) เพจเฟซบุ๊ก พลเมืองโต้กลับ Resistant Citizen เผยแพร่กิจกรรม “ด้วยปีกแห่งเสรีภาพ” ณ กำแพงประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ระบุเป็นพื้นที่แสดงออกของสามัญชน โดยจะมีการแสดงดนตรี ศิลปะ ละคร สนทนา เสวนา นิทรรศการ ฯลฯ เพื่อแสดงการมีส่วนร่วมให้กำลังใจ 14 นักศึกษา
รวมพลังอีกครั้ง 6 กรกฎาคม 2558 วันสุกดิบก่อนวันนัดฝากขังผลัด 2 (7 กรกฎาคม 2558)ขอเชิญเพื่อนทุกคน นักดนตรี นักแสดงละคร …
Posted by พลเมืองโต้กลับ Resistant Citizen on Sunday, July 5, 2015