17 กรกฎาคม 2557, ชลบุรี เวลา 10.30 น. มีการรายงานข่าวจากทวิตเตอร์ของ จส.100 @JS100Radio แจ้งเหตุสารเคมีรั่วจากตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมกับแจ้งว่ามีการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลศรีราชา 10 คน และโรงพยาบาลอ่าวอุดม 16 คน หลังจากนั้นความคืบหน้าเวลา 13.30 น. มีการแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า เด็กนักเรียนบริเวณใกล้เคียงได้สูดดมสารเคมีแล้วมีอาการอาเจียน หมดสติกว่า 30 คน
ด้าน ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิจัยชุมชน ซึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้รายงานผ่านเฟซบุ๊กว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุแทงค์สารเคมีอันตรายที่นำเข้ามาเกิดเกี่ยวกันจนระเบิดรั่วไหล โดยสารเคมีดังกล่าวเป็นสารอันตราย ใช้ในการผลิตสี เมื่อสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ดร.สมนึก ได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่า มีคนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลแหลมฉบังกว่า 40 คน และยังไม่สามารถหยุดการรั่วไหลของสารเคมีได้
กระทั่งเวลา 15.30 น. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ทำหนังสือด่วนถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า เวลา 13.30 น.ของวันนี้ เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลจากเรือ Pearl River Bridge ซึ่งเป็นเรือสัญชาติจีน (ฮ่องกง) มาจากจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ขณะจอดอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง B3
โดยบริษัทเจดับเบิ้ลยูดี อินโลจิสติกส์ จำกัด (JWD) ได้ตรวจสอบสารเบื้องต้นและอุดรอยรั่ว พบว่าสารเคมีเป็นของเหลวไวไฟอันตราย Class 3 ชื่อ UN No.2348 (Butyl Acrylates, Stabilized) ซึ่งมีกลิ่นฉุนรุนแรง แต่ยังไม่พบการติดไฟ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 94 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
รายงานดังกล่าวระบุอีกว่า ได้มีการให้ความช่วยเหลือ โดยให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอศรีราชา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อพยพนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 และ โรงเรียนเทศบาล 3 ออกจากโรงเรียน และให้เดินทางกลับบ้านได้ เบื้องต้นนำผู้บาดเจ็บหายใจไม่สะดวก คลื่นไส้ ส่งโรงพยาบาลวิภาราม 8 ราย โรงพยาบาลแหลมฉบัง 40 ราย และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 46 ราย ขณะนี้อำเภอศรีราชาได้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลแหลมฉบังแล้ว