ภาวะสูงวัย มีความเปราะบาง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมนะครับ เพราะเป็นวัยที่ต้องพึ่งพาคนอื่นมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือด้านเศรษฐกิจ ถ้าเรานับว่าอายุ 60 ปี คือวันที่ควรเริ่มเกษียณเริ่มพักผ่อน ประเทศเรามีคนสูงวัยอีกจำนวนไม่น้อยเลยครับ ที่ยังต้องทำงานเลี้ยงชีวิตอยู่ ทั้ง ๆ ที่ สภาพร่างกายเริ่มถดถอยแล้ว
แต่ถ้ามีการสนับสนุน โดยการนำทักษะและประสบการณ์ของผู้สูงอายุมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการเพิ่มทักษะใหม่ ๆ บางอย่าง หรือจัดหางานให้เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มความสามารถในการหารายได้ และลดระยะการพึ่งพิงที่จะเกิดขึ้นให้สั้นลงได้ครับ
วันนี้ Localist ชีวิตนอกกรุง ชวนไปคุยกับ รศ.ดร.นัทธี สุรีย์ ผู้ดูแลโครงการเกษียณมีดี ที่เป็นส่วนหนึ่งของ วิทยาลัยการศึกษาตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ
ปัญหาอย่างหนึ่งเลยคือผู้สูงวัย ณ ตอนนี้เขาไม่ได้พร้อมที่จะเป็นผู้สูงวัย ทั้งทางด้านการเงิน รายได้ แล้วก็ยิ่งมีปัญหาสุขภาพเข้ามาอีก ดังนั้นก็จะมีหลายมิติครับ ทั้งทางด้าน เสถียรภาพทางการเงิน และรายได้ หลาย ๆ คนยังต้องทำงานอยู่เพื่อหาเลี้ยงชีพตนเอง แล้วก็สุขภาพวะเองก็ยังไม่ค่อยดี เท่าไร ในหลาย ๆ กลุ่มประชากรเอง ปัญหานี้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว
รศ.ดร.นัทธี สุรีย์
เรามีแนวคิดว่า ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่ยังมีศักยภาพสูงอยู่ค่อนข้างเยอะทีเดียว แล้วก็มีประสบการณ์มาตลอดทั้งชีวิต แล้วก็บางคนมีของดี เขามีของดี ทั้งตัวเอง แล้วก็มีของดีในชุมชน ที่สามารถนำออกมาใช้เป็นรายได้ ๆ แล้วก็นำเป็นอาชีพเสริมได้ แล้วก็ทำให้เขาลดภาวะพึ่งพิงต่อครอบครัว สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ เขาอาจขาดทัดษะบางอย่าง อย่างเช่นทางด้านเทคโนโลยี การที่จะเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ เขาอาจต้องเรียนรู้ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นแล้วเราเป็นสถาบันทางการศึกษา เป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญของเราที่จะสามารถสอน ให้กับคนทุกช่วงวัยสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ก็เลยเกิดโครงการเกษียณมีดีขึ้นมา ที่เราเรียกว่าเป็นระบบนิเวศการเรียนรู้ เพราะไม่ใช่แค่เรียนรู้อย่างเดียว แต่นำไปใช้จริงด้วย เพื่อให้เขาเกิดและฝึกฝน เป็นธุรกิจ ที่เขาสามารถดูแลได้ แล้วก็สร้างรายได้ขึ้นมา
บทเรียนของเราเริ่มต้นมาจากการสำรวจก่อนว่า ส่วนใหญ่ผู้สูงวัยต้องการอะไร หลาย ๆ คนต้องการความรู้ทางด้านเทคโนโลยี มือ ถือ สมาต์ทโฟนต่าง ๆ เราก็เลยทำบทเรียนออกมาตั้งแต่การใช้มือถือเลย การถ่ายภาพ การถ่ายวิดีโอ การติดต่อสื่อสารผ่านไลน์ การเข้า FB มาร์เกตเพส หรือแม้กระทั่งการเข้าเรียนในบทเรียน อีกส่วนหนึ่งก็คือการอยากพัฒนาธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อจะมาขายออนไลน์ ในการที่จะทำธุรกิจให้สำเร็จต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
วันนี้เราชวนมาที่นี่ครับ ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน วันนี้ทีมงานของเกษียณมีดี ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านไผ่ จัดอบรม เชิงปฎิบัติการ สอนพ่อ ๆ แม่ ๆ ที่นี่ นำสินค้าที่มี มาไลฟ์สดขายของกันครับ
รูปแบบกิจกรรม ก็จะมีการฝึกอบรมภาคทฤษฎีซึ่งประกอบไปด้วยหลักสูตรต่าง ๆ ที่เกษียณมีดีได้จัดทำไว้ แล้วก็เป็นการฝึกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์เฟสบุ๊ก การถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวเพื่อที่จะจำหน่ายสินค้าชุมชน แล้วอย่างเช่นลำไย ปรกติแล้วที่จะขายเข้าโรงอบแห้ง จะราคาค่อนข้างต่ำ แต่พอเราขายออนไลน์ ก็ปรากฎว่าคนต่างจังหวัดเขาก็อยากจะกินลำไยลี้เรา
เกษร แก้วรัตน์ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าไผ่
จากที่ได้ชมมา แม้ตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จะแตกต่างกัน แต่ผมพอจะจับเทคนิค ขั้นตอน สำหรับการไลฟ์สดขายของ สำหรับผู้สูงวัยได้ประมาณ 5 ขั้นตอนนะครับ
ขั้นตอนแรกเลย ก็คือการแนะนำตัวครับ ว่าเราเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าว่าเรามีตัวตนจริง ๆ
ขั้นตอนที่ 2 ก็คือ แนะนำสินค้า ว่าเราจะขายอะไร มันสวย มันดีกว่าที่อื่นอย่างไร ให้ลูกค้าตัดสินใจมาซื้อของกับเรา
ขั้นตอนที่ 3 ต้องบอกราคา บอกปริมาณให้ชัดครับ ว่าราคาเท่าไร ปริมาณแค่ไหน กี่ชิ้น กี่ก้อน กี่กรัม
ขั้นตอนที่ 4 ก็คือการแจ้งการจัดส่ง ว่าสินค้ารวมค่าส่งแล้วหรือไม่ ส่งทางไหน อย่างไร ค่าส่งเท่าไร
และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการบอกช่องทางการติดต่อครับ และที่สำคัญ ระหว่างขายของ ต้องพูดคุย กับลูกค้า อ่านคอมเมนท์ เพื่อสร้างความสนุก และตอบโต้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา
เราลองคุยกับแม่ ๆ แต่ละคนที่มาลองไลฟ์สดขายของกันครับ ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง
ถามว่าเขินไหม มันก็เขินอยู่นะ เพราะว่ามันเป็นอะไรใหม่ ๆ ที่ผู้สูงอายุไม่เคยเจอเลย อันนี้เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลย สำหรับองค์ความรู้ที่ใหม่ เพราะว่าสำหรับผู้สูงอายุหลายคนเลย ที่ยังไม่เข้าถึงเรื่องเหล่านี้ ขายได้ วันนี้ขายได้ วันนี้ขายได้ 5 ถุง
ผู้สูงอายุ ที่มาทดลองไลฟ์สดขายสินค้า
2 ตะกร้านี้หมดแล้ว ขายได้เงินเป็นพันอยู่ มีประโยชน์ตรงที่เราไม่เหนื่อย ที่ต้องหิ้วน้ำพริกไปขายในตลาด ไม่ต้องถามหาคนซื้อ มีคนมาสั่งเลย แม่ก็ภูมิใจในตัวเอง ได้ขนาดนี้ แล้วถ้ายิ่งขายออนไลน์ ที่ไปได้ทั่วประเทศ ก็สามารถส่งได้ ส่งได้ เพราะ Kerry กับ ไปรษณีย์ ก็ใกล้ ๆ บ้านเรา
ผู้สูงอายุ ที่มาทดลองไลฟ์สดขายสินค้า
เรามีภูมิปัญญาอะไรในตัวเรา เราก็ต้องเอาออกมา มันทำให้เรามีคุณค่า ไม่ใช่ว่าอายุ 60 ขึ้นไป แม่ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เลี้ยงหลานให้ผม เลี้ยงลูกให้ผม มันก็ทำให้คุณค่าเราเหมือนกับว่า เหมือนกับกลายเป็นสัญลักษณว่าอายุ 60 เราไม่ต้องทำอะไร เลี้ยงลูก เลี้ยงหลานไป แต่เราไม่อยากเป็นอย่างนั้น
ผู้สูงอายุ ที่มาทดลองไลฟ์สดขายสินค้า
เราพอจะได้เห็นแล้วนะครับ ว่าการเพิ่มเติมทักษะ เพียงแค่บางอย่าง ให้กับผู้สูงวัยซึ่งมีประสบการณ์ และมีของอยู่แล้วจะทำให้เกิดผลประโยชน์แก่ตัวคนสูงวัยไม่น้อยเลยครับ ทั้งเรื่องของรายได้ ที่จะต่อยอดไปยังคุณภาพชีวิตด้านต่าง ๆ และเรื่องของจิตใจที่ทำให้คนสูงวัยมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
ซึ่งกิจกรรมของโครงการเกษีนณมีดี ยังมีอีกหลายอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนดิจิตอล ที่มีหลักสูตรต่าง ๆ ให้คนสูงอายุเข้าไปเลือกเรียนได้ และยังมีตลาดสินค้าออนไลน์ รวมถึงกลุ่มสังคมออนไลน์ ไว้ให้พบปะกันครับ ตอนนี้มีคนเข้าร่วมโครงการในทุกช่วงวัย 22,000 คน แล้วก็เป็นผู้สูงวัยประมาณ 14,000 คน แล้วก็เพิ่มทุกวัน