อัมสเตอร์ดัม, 13 ธันวาคม 2556— รัฐบาลรัสเซียได้แจ้งกับนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนว่า พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกรัสเซียได้ โดยไม่สนใจว่าเป็นการท้าทายอำนาจของศาลระหว่างประเทศซึ่งมีคำสั่งให้นักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนสมควรได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศและกลับบ้านโดยทันที
คณะกรรมการสอบสวนอันทรงอิทธิพลของรัสเซียได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรถึง แอนน์ มี เจนเซ่น ชาวเดนมาร์ก หนึ่งในนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติก โดยระบุว่า ทุกคนจะไม่มีโอกาสได้ออกนอกประเทศ คณะทนายของกรีนพีซคาดว่า จำเลยทุกคนที่ไม่ใช่คนรัสเซียจะได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งหมายถึงพวกเขาอาจจะถูกบังคับให้ต้องอยู่ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กตลอดช่วงคริสตมาสและเป็นไปได้ที่อาจจะนานกว่านั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะทนายที่ว่าความให้นักรณงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนได้ร้องขอให้คณะกรรมการสอบสวนติดต่อกองตรวจคนเข้าเมืองและร้องขอวีซ่าให้กับนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกที่ไม่ใช่คนรัสเซีย เพื่อที่พวกเขาจะได้เดินทางออกจากรัสเซียและกลับเข้ามาอีกได้หากมีหมายศาลเรียก แต่ข้อความในจดหมายที่ส่งถึงแอนน์ มี นั้น คณะกรรมการฯระบุไว้ว่า จะไม่มีการขอให้กองตรวจคนเข้าเมืองออกวีซ่าให้ กองตรวจคนเข้าเมืองได้เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้เช่นกันว่า จะไม่มีการออกวีซ่าให้จนกว่าจะได้รับการร้องขอโดยตรงจากคณะกรรมการสอบสวน
คณะทนายของนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนต้องการความเชื่อมั่นจากคณะกรรมการสอบสวนว่า จะได้รับแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือนหากต้องการซักถามจำเลยของกรีนพีซระหว่างที่พวกเขาเดินทางกลับบ้านไปพบครอบครัว มิฉะนั้นพวกเขาอาจเสี่ยงกับการละเมิดเงื่อนไขประกันโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งในจดหมายที่ส่งถึงแอนน์ มี คณะกรรมการฯยังบอกด้วยว่า จะไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
ปีเตอร์ วิลล์คอกซ์ เป็นกัปตันเรืออาร์กติก ซันไรซ์ ซึ่งถูกรัฐบาลรัสเซียยึดระหว่างทำกิจกรรมประท้วงอย่างสันติที่ฐานขุดเจาะน้ำมันใน ทะเลเปโชรา โดยปีเตอร์เป็นหนึ่งในนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกสามสิบคนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ปีเตอร์กล่าวว่า
“ผมพร้อมจะกลับบ้านไปพบครอบครัวของผม เราถูกจับในน่านน้ำสากลและถูกนำตัวมายังรัสเซียซึ่งไม่ใช่ความปรารถนาของเรา และยังถูกตั้งข้อหาอาชญากรรมซึ่งเราไม่ได้ก่อ และจับเราขังคุกอีกสองเดือน ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศซึ่งเป็นที่เคารพยังได้กล่าวว่า เราควรได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เช่นเดียวกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีหลายต่อหลายคนก็บอกเช่นนั้น แต่เรากลับไม่ได้วีซ่าให้กลับประเทศได้ และราวกับว่าไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าคณะกรรมการสอบสวนจะไม่เรียกซักถามในวันที่ผมกลับบ้าน ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้ผมต้องละเมิดเงื่อนไขประกันตัว นี่คือกระบวนการที่ผิดพลาดและเราถูกจับยัดอยู่ในวงจรของระบบราชการที่ชั่วร้ายและยังเป็นการตั้งใจดูแคลนกฏหมายระหว่างประเทศ มันเป็นละครตลกอีกด้วย”
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลกฏหมายทะเลระหว่างประเทศ หรือ ITLOS ได้ตัดสินโดยคณะผู้พิพากษาซึ่งมีชื่อเสียงจำนวน 21 คน โดยสั่งให้รัฐบาลรรัสเซียอนุญาตให้นักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนออกจากรัสเซียได้โดยทันทีและคืนเรืออาร์กติกซันไรซ์ให้กับกรีนพีซในทันทีที่มีการจ่ายเงินประกันจำนวน 3.6 ล้านยูโร โดยธนาคารเป็นผู้ออกหนังสือค้ำประกันให้ และรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เป็นผู้บันทึกลงในบัญชีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เนื่องจากเรืออาร์กติกซันไรซ์จดทะเบียนในเนเธอร์แลนด์ ขณะนี้รัฐบาลรัสเซียกำลังท้าทายคำสั่งศาลที่ว่านี้
แดเนียล ไซมอนส์ ที่ปรึกษากฎหมาย กรีนพีซสากล กล่าวว่า :
“เป็นที่แน่ชัดว่า ขณะนี้ สหพันธรัฐรัสเซียฝ่าฝืนคำสั่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเคยมีถ้อยแถลงในจดหมายเปิดผนึกที่ทุกคนรู้กันดีส่งถึงชาวอเมริกันในซีเรียที่ระบุว่า “กฎหมายยังคงเป็นกฎหมาย และเราต้องทำตามกฎหมายไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม” ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้ในกรุงมอสโก เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราจะไม่พยายามสั่งสอนใครแต่จะสนับสนุนกฎหมายระหว่างประเทศ” มันถึงเวลาแล้วสำหรับผู้บังคับใช้กฎหมายที่จะต้องลงมือกระทำตามเจตนานั้นและอนุญาตให้นักรณณงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนได้กลับบ้านไปพบครอบครัวของพวกเขาโดยทันที”
ในจดหมายที่ส่งถึงแอนน์ มี คณะกรรมการสอบสวนยังได้กล่าวว่า จะไม่มีการคืนเรืออาร์กติกซันไรซ์ เพราะยังอยู่ระหว่างการยึดตามคำสั่งศาลรัสเซีย
มีความเป็นไปได้ว่า สภาดูม่า (รัฐสภาของรัสเซีย) จะลงคะแนนเสียงผ่านกฤษฎีกานิรโทษกรรมภายในเดือนนี้ ซึ่งกระบวนการทางกฎหมายต่อกรณีนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนน่าจะถูกโหวตให้ตกไป ประธานาธิบดีปูตินได้เสนอร่างกฤษฎีกาฉบับที่ไม่ได้กล่าวอ้างถึงกรณีของนักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนแล้ว ทั้งที่สภาดูม่าได้ทำการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนที่นักรณรงค์ปกป้องอาร์กติกทั้งสามสิบคนน่าจะได้รับการคุ้มครองจากนิรโทษกรรมฉบับนี้
author
