“แหนแดง” พืชมหัศจรรย์ ตัวช่วยเกษตรกรลดใช้ปุ๋ยเคมี

“แหนแดง” พืชมหัศจรรย์ ตัวช่วยเกษตรกรลดใช้ปุ๋ยเคมี

หลายท่านคงได้ยินเกษตรกรโอดครวญปุ๋ยราคาแพง วิตกกังวลเรื่องต้นทุนการผลิตที่ไม่สอดคล้องกับผลผลิตและรายได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ต้นทุนการผลิตที่ไม่สอดคล้องกับผลผลิตและรายได้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่มันหนักขึ้นทุกวันจวบจนปัจจุบันเป็นชะตากรรมที่เกษตรกรต้องแบกรับด้วยความจำใจ จะทำอย่างไรได้ในเมื่อต้องดิ้นรนเพื่อปากท้อง เพื่อครอบครัว เพื่อลูก แม้จะต้องขาดทุนก็ไม่มีทางเลือก ก้มหน้าก้มตาทำอย่างไร้ความหวังว่าชีวิตจะหลุดพ้นจากวังวนแห่งความทุกข์นี้

อย่างไรก็ตาม หากเราจะพินิจพิจารณาให้ถ้วนถี่ มันก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเสียทีเดียว เพียงแต่เราจะมองเห็น และฉกฉวยโอกาสที่มีอยู่ไม่มากนัก นำมาพลิกวิกฤติและสร้างโอกาสขึ้นมาให้ได้ด้วยตัวเอง

วันนี้สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ เราจะพาทุกท่านไปพบกับวิธีการลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และใช้ได้ผลดีเป็นที่ประจักษ์มาแล้วกับเกษตรกรหลายราย แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าที่ควร และถือเป็นอีกทางออกหนึ่ง นั่นคือ การใช้แหนแดงเป็นปุ๋ยพืชสดในการปรับปรุงบำรุงดินและสามารถใช้เลี้ยงปลาเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ เลี้ยงวัวก็ได้อีกด้วย ด้วยคุณสมบัติที่ให้คุณประโยชน์ของแหนแดงนั่นเอง โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องใช้ปุ๋ยในการทำนา สามารถใช้แหนแดงเป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าวได้ โดยการหว่านแหนแดงขณะที่ไถ ก่อนปักดำกล้าข้าว แหนแดงสามารถขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศได้อย่างรวดเร็ว  แยกส่วนของลำต้นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือเมื่อแหนแดงเจริญเติบโตเต็มที่ กิ่งแขนงที่แก่จัดของมันจะมีสีเขียวเข้ม แล้วจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นก็จะขาดออกมาเป็นต้นใหม่

แหนแดงเปรียบเสมือนโรงผลิตปุ๋ยไนโตรเจนทางชีวภาพ โดยผ่านกระบวนการตรึงไนโตรเจนจากอากาศของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่อาศัยอยู่ในโรงใบของแหนแดง ซึ่งประโยชน์ของแหนแดง คือ ทดแทนหรือลดการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน เพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน ใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์สำหรับพืชผักและไม้ผล ใช้เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับสัตว์เลี้ยง และที่สำคัญลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์ ไม่ต้องโอดครวญเรื่องปุ๋ยราคาแพงอีกต่อไป

การใช้แหนแดงในนาข้าว

แหนแดง เหมาะสำหรับใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าว โดยการหว่านแหนแดงขณะที่ไถ ทำเทือกก่อนปักดำกล้าข้าว วิธีนี้ใช้แหนแดงประมาณ 10-15 กิโลกรัม/ไร่ จากนั้นปล่อยให้แหนแดงเจริญเติบโตไปพร้อมข้าว หรืออาจจะใช้วิธีเพิ่มปริมาณให้เต็มพื้นที่แล้วไถกลบก่อนหว่านหรือปักดำ วิธีนี้จะต้องใช้แหนแดงประมาณ 100-300 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อความรวดเร็วในการเพิ่มปริมาณ

วิธีขยายพันธุ์แหนแดง

แหนแดง สามารถขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศได้อย่างรวดเร็ว โดยแยกส่วนของลำต้นเป็นชิ้นเล็กๆหรือเมื่อแหนแดงเจริญเติบโตเต็มที่ กิ่งแขนงที่แก่จัดของมันจะมีสีเขียวเข้ม แล้วจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นก็จะขาดออกมาเป็นต้นใหม่ การขยายพันธุ์ของแหนแดงทั้งสองวิธี สามารถเพิ่มปริมาณของแหนแดงเป็นสองเท่าภายใน 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การเพิ่มปริมาณแหนแดงสามารถทำได้โดยขังน้ำในนาให้ลึกประมาณ 5-10 ซม. ใส่แม่พันธุ์แหนแดงประมาณ 100 กรัม/ตร.ม. เมื่อแหนแดงเติบโตเต็มที่จะได้น้ำหนักสด 2 กิโลกรัม/ตร.ม. จากนั้นจึงนำลงในพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มปริมาณตามความต้องการ

วิถีขยายแม่พันธุ์แหนแดง

1.เตรียมบ่อปูนเจาะรูสูงจากก้นบ่อ 10 เซนติเมตร เพื่อควบคุมระดับน้ำ

2.ใส่ดินนาเท่ากับระดับด้านล่างของรู เติมปุ๋ยคอก 1 กิโลกรัม และน้ำให้สูงจากระดับผิวดิน ประมาณ 10 เซนติเมตร

3.ใส่แม่พันธุ์แหนแดงประมาณ 50 กรัม ลงในบ่อที่เตรียมไว้แล้วใช้มือกระจายให้ทั่วบ่อ

4.เมื่อแหนแดงเจริญเติบโตเต็มบ่อจนแน่น ปล่อยน้ำออกจากบ่อหรือนำไปขยายต่อตามต้องการ

5.นำแหนแดงที่ได้จากบ่อแม่พันธุ์ลงในบ่อขนาดใหญ่หรือกระชังเพิ่มปริมาณต่อไป

สาหร่ายเขียวแกมน้ำเงินในโพรงใบแหนแดง

แหนแดง เปรียบเสมือนโรงงานผลิตปุ๋ยไนโตรเจนทางชีวภาพ โดยผ่านกระบวนการตรึงไนโตร เจนจากอากาศของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (cyanobacteria) ที่อาศัยอยู่ในโพรงใบของแหนแดง เนื่องจากแหนแดงเป็นเฟิร์นชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็ก พบอยู่ตามบริเวณน้ำนิ่ง เช่น บ่อ หรือคูน้ำ แหนแดงพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตรที่แนะนำให้แก่เกษตรกรนั้น ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองถึง 10 เท่า เมื่อแหนแดงเจริญเติบโตเต็มที่บนผิวน้ำในนาข้าว 1 ไร่ จะให้ผลผลิตสดถึง 3 ตัน (150 กิโลกรัมแห้ง) ซึ่งเป็นปริมาณไนโตรเจนได้ประมาณ 6.0-7.5 กิโลกรัม

ประโยชน์ของแหนแดง

1.ทดแทนหรือลดการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน

2.เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน

3.ใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์สำหรับพืชผักผลไม้

4.ช่วยปรับสภาพดิน

5.ใช้เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับสัตว์

6.มีต้นทุนการผลิตต่ำ

7.เหมาะสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์

ที่มา : ศวพ.สุรินทร์

แหนแดงมีความสำคัญและมีประโยชน์มากขนาดนี้ เกษตรกรควรหันมาใช้ประโยชน์ที่มีอยู่ในแหนแดงให้เต็มที่ ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหาให้สิ้นเปลืองเงิน ไม่ต้องเสียเงินซื้อปุ๋ยเคมีราคาสูงอีกต่อไป ลองดูและเริ่มต้นวันนี้ อาจจะเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่งของเกษตรกรบ้านเรา

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ