หากไม่นับรวมจำนวนคาเฟ่หลายแห่งที่ผมไปมาแล้วนับว่าที่นี่มีความแปลกใหม่ เหมาะกับการพักผ่อนยิ่งนัก เพราะมีการผสมผสานระหว่างศิลปะแขนงต่างๆ ด้านอาหาร เครื่องดื่ม และศิลปะเครื่องปั้นดินเผ่า ที่นี้ร้าน Have A Hug ซึ่งหมายถึง การได้กอดหรือโอบกอด เป็นการผสมผสานระหว่างภาษาเหนือและภาษาอังกฤษ เจ้าของร้านที่นี้คือคุณภูริดล พิมสาร หรือพี่ภู เจ้าของร้านผู้มองงานศิลปะทุกอย่างคือชีวิต
ผมรู้สึกว่าโชคดีทีได้มีโอกาสมานั่งสนทนากับศิลปินผู้สร้างสรรค์งานที่มีความเอกลักษณ์และน่าสนใจในยุคนี้ อีกด้านหนึ่งการแพร่ระบาดของโควิด – 19 กำลังเล่นงานธุรกิจหลายแห่ง บางบริษัทต้องปิดตัวไป บางแห่งต้องปรับตัวลดพนักงานลง ในสถานการณ์แบบนี้พี่ภูมองว่า การปรับตัวคือสิ่งสำคัญมากในปัจจุบัน เพราะบ้านเมืองไม่ได้เป็นแบบเดิมเหมือนในอดีต ผมเลยตั้งคำถามต่อว่า งานศิลปะนั้นยังมีความจำเป็นต่อผู้คนที่กำลังแสวงหาความอยู่รอดด้วยปัจจัย 4 หรือไม่
ชายหนุ่มเจ้าของร้านได้ให้มุมมองว่า ในช่วงแรกผู้คนในสังคมอาจจะช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าอีกซักระยะ พอคนต่างเริ่มชาชินกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่แล้ว เขาก็เริ่มที่จะมองหาความงามของชีวิต คนในปัจจุบันไม่สามารถที่เดินทางไปแสวงหาความงามนอกบ้านได้เช่นอดีต เพราะฉะนั้น ผู้คนจึงเริ่มสร้างศิลปะในบ้านของตัวเอง ในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายจากความเครียดต่าง ๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ การที่คนซื้อต้นไม้มาปลูกในบ้านมากขึ้น การแต่งบ้านให้น่าอยู่ มีงานศิลปะเล็กๆ วางตามซอกมุมต่างๆ เพราะชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับบ้าน ดังนั้นหากมองอีกด้านก็จะพบว่า ศิลปะเข้ามีบทบาทกับผู้คนในยุคนี้มากขึ้น แต่แทนที่เดินทางไปเสพยังสถานที่ต่างๆ เปลี่ยนเป็นสร้างศิลปะในแบบที่ตัวเองชอบ และสร้างสรรค์ด้วยตัวเองมากขึ้น
ด้วยความที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง โล่ง เหมาะกับการพักผ่อนของครอบครัว ที่นี้จึงไม่เคยปิดให้บริการ เพื่อให้ผู้คนที่อยู่ละแวกนี้ได้เข้ามาพักผ่อนในช่วงที่ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวไกลๆ ได้ เหมือนการได้มาเยี่ยมญาติพี่น้อง พื้นที่ตรงนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ บ้านที่อยู่อาศัยตรงกลาง โซนร้านอาหาร/คาเฟ่ และโซนที่เป็นสตูดิโองานปั้น
ไอเดียจากงานปั้นนั้นพี่ภูให้ฟังว่า มันเกิดจากสะสมประสบการณ์ และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาชื่นชอบนอกจากงานปั้นแล้วก็คือการวิ่ง ตรงนี้นำไปสู่การออกแบบเหรียญและรางวัลต่างๆ มากมาย สิ่งนี้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่มาเติมเต็มให้งานศิลปะมีความสมบูรณ์มากขึ้น ตลอดระยะเวลาการสนทนาผมพบว่า พี่ภูไม่ได้มองงานแต่ละอย่างแบบแปลกแยกแต่ทุกอย่างเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติมเต็มให้ตัวเองมีความสุข สมบูรณ์มากขึ้น หากใครที่ยังมองหาที่พักผ่อนเงียบสงบและไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ อยากแนะนำที่นี้ครับ พี่ภูเป็นคนสบายๆ อ่อนน้อมถ่อมตน ท่านจะอิ่มทั้งท้องและเกิดสุนทรียะจากงานศิลปะรูปปั้นตามจุดต่าง ๆ ในร้าน พี่ภูทิ้งท้ายก่อนที่จะแยกจากกันว่า ศิลปะอยู่คู่กับคนในยุคทุกสมัยไม่ว่าจะสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นแบบไหนก็ตาม ผู้คนก็ยังต้องการความงาม ความอิ่มเอมจากความรู้สึก เพื่อให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้น