บ่ายวันนี้ (25 พฤษภาคม 2557) ที่สโมสรค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 ได้เชิญผู้บริหารสถาบันการศึกษาจากมหาวิทยาลัย วิทยาลัย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับทราบแนวทางปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
พล.ต.ศรายุธ กว่าว่า คสช.ได้ออกประกาศทั้งสิ้น 36 ฉบับ ขอความร่วมมือผู้บริหารสถาบันการศึกษาติดตามและปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช.โดยเฉพาะในข้อที่ว่าด้วยการประกาศเคอร์ฟิว การห้ามชุมนุมาการเมือง 5 คนขึ้นไป การห้ามสร้างความขัดแย้ง โดยขอเวลาจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาประเทศชาติบ้านเมืองให้สงบโดยเร็ว เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ยังมีปัญหาอยู่ เพราะยังมีกลุ่มต้านการเข้าควบคุมอำนาการปกครองครั้งนี้อยู่ ซึ่งจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้น และหวังว่าผู้บริหารการศึกษาจะเข้าใจในสถานการณ์ที่ไร้ทางออกทางการเมืองมาเป็นเวลากว่า 6-7 เดือน
พล.ต.ศรายุธ ขอให้ผู้บริหารสถาบันดูแลนักศึกษา ที่หากมีการชุมนุมขอให้หลีกเลี่ยง ไม่เข้าไปปะปน เพราะการดำเนินการการตามมาตรการทางทหารแยกแยะยาก และขอความร่วมมือช่วยเฝ้าระวังภัย หากพบการกระทำที่ก่อให้เกิดความรุนแรงนำไปสู่การแตกแยกของการบ้านเมือง หรือการประดับธงสีที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองขอให้แจ้งกำลังทหารทราบทันที
พล.ต.ศรายุธ กล่าวด้วยว่า ในบางสถาบันการศึกษา หรือนักวิชาการบางคนที่ออกมาเคลื่อนไหวก็จะทำความเข้าใจที่ตรงกัน ยืนยันว่าหากมีใครมาปลุกปั่นและพยายามชุมนุมทหารยอมไม่ได้จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการ ในส่วนแกนนำที่ถูกรวบตัวมาทำประวัติหลังชุมนุมกันที่ประตูช้างเผือกค่ำวานนี้ มีรายงานว่าได้ปล่อยตัวไปแล้ว
หลังการหารือได้มีกลุ่มมวลชนชาวเชียงใหม่และลำพูนนำอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องอุปโภค-บริโภค มามอบเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารโดยกล่าวขอร้องให้ทำงานเพื่อชาติ บ้านเมืองจนกว่าจะสงบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าวันนี้ ได้มีกลุ่มมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารมารวมตัวกันที่หน้าสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ สถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานกงสุลญี่ปุ่น ชูป้ายไม่เอารัฐประหาร ต้องการการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และขอร้องให้ทหารคืนอำนาจให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ได้จัดกำลัง 1 กองร้อย ออกติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน พร้อมส่งตัวแทนเข้าไปเจรจาให้ยุติการชุมนุมเพราะผิดกฏอัยการศึกตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และประกาศเตือนว่าหากพบการเคลื่อนไหวซ้ำ เจ้าหน้าที่ทหารยืนยันจะจับกุม