ต้นไม้ ป่าไม้กับการกักเก็บคาร์บอน

ต้นไม้ ป่าไม้กับการกักเก็บคาร์บอน

ต้นไม้และป่าไม้มีคุณสมบัติที่ดี คือ สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นพื้นที่ป่าลดน้อยลงปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น

บทความโดย สมชัย เบญจชย
นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ กลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่16 เชียงใหม่

20162508153230.jpg

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ที่มีอยู่ในชั้นบรรยากาศเกิดจากธรรมชาติและเกิดจากฝีมือของมนุยษย์เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆและการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือการเกษตรกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดไม้ทำลายป่านี้นับว่าเป็นตัวการสำคัญกว่า 20%  ในการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ขึ้นสู่บรรยากาศ  ทั้งนี้เนื่องจากต้นไม้และป่าไม้มีคุณสมบัติที่ดีคือสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นพื้นที่ป่าลดน้อยลงปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น

การกักเก็บคาร์บอน

ปัจจุบันการกักเก็บคาร์บอนมีอยู่ 2 วิธีด้วยกันคือทางตรงและทางอ้อม แต่วันนี้เราจะมาคุยถึงการเก็บทางอ้อมกัน คือการเก็บคาร์บอนที่ดีที่สุดคือการเก็บไว้ในต้นไม้และป่าไม้เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญที่สุด ดังนั้นป่าไม้จึงมีบทบาททั้งในด้านการกักเก็บและปลดปล่อยคาร์บอน การกักเก็บหรือดูดซับคาร์บอนไดอ๊อกไซค์จะผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งต้นไม้จะนำก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์มาใช้ในการสร้างอาหารและเพิ่มผลผลิตมวลชีวภาพ

20162508153810.jpg

การกักเก็บคาร์บอนในเนื้อไม้

สำหรับปริมาณการกักเก็บคาร์บอนจากก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ คือ เนื้อไม้ การสร้างเนื้อไม้ขึ้นมา 1 ตันจะสามารถดูดก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ได้ประมาณ 1.81 ตันและยังปล่อยก๊าซอ๊อกซิเจนประมาณ 1.32 ตัน เห็นหรือยังครับว่าต้นไม้ที่มีอยู่รอบๆบ้านเรามีคุณค่าเพียงใด ถ้าเราสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้นๆปัญหาโลกร้อนคงจะหมดไปในไม่ช้า

เปรียบเทียบการปล่อยคาร์บอนของรถเล็ก 1 คัน กับการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ 1 ต้น

ตารางแสดง การปล่อยปริมาณ CO2 และ C ของรถเล็กทั่วไป 1 คัน ที่วิ่งตามระยะทางและจำนวนวัน

 

       

จำนวนวันและจำนวนที่ปล่อย

 

   

 จำนวนที่ปล่อย

1 วัน

30 วัน

6 เดือน

1 ปี

 

ลำดับที่

ระยะทาง

 CO2

 C

 C

 C

 C

 C

 

(กิโลเมตร)

 (กรัม)

 (กรัม)

(กิโลกรัม)

(กิโลกรัม)

(กิโลกรัม)

(กิโลกรัม)

 

1

 

44

12

0.012

0.36

2

4

 

2

1

200

55

0.055

1.64

10

20

 

3

10

2,000

545

0.545

16.36

98

196

 

4

20

4,000

1,091

1.091

33

196

393

 

5

30

6,000

1,636

1.636

49

295

589

 

6

40

8,000

2,182

2.182

65

393

785

 

7

50

10,000

2,727

2.727

82

491

982

 

8

60

12,000

3,273

3.273

98

589

1,178

 

9

70

14,000

3,818

3.818

115

687

1,375

 

10

80

16,000

4,364

4.364

131

785

1,571

 

11

90

18,000

4,909

4.909

147

884

1,767

 

12

100

20,000

5,455

5.455

164

982

1,964

 

                   

หมายเหตุ

1. C) = 12  O) = 16 CO2) = 12 + (16×2) = 44

2. 1 CO2   200 (http://www.mop-bkc.com/articleDetail.asp?id=62)

20162508151721.png

ความหมาย/ตัวอย่าง ลำดับที่ 7

1 คัน วิ่งวันละ 50 กม จะปล่อยคาร์บอน 2.727 กก, 30 วันจะปล่อยคาร์บอน 82 กก, ครึ่งปีจะปล่อยคาร์บอน 491 กก, และ 1 ปีจะปล่อยคาร์บอน 982 กก หรือเกือบ 1 ตัน

เปรียบเทียบการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ของรถเล็ก

  • 1 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 1 ตัน เท่ากับต้นยางนา 1 คนโอบ 1 ต้น ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 1 ตัน
  • 4 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 4 ตัน เท่ากับต้นยางนา 2 คนโอบ 1 ต้น ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 4 ตัน
  • 9 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 9 ตัน เท่ากับต้นยางนา 3 คนโอบ 1 ต้น ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 9 ตัน

รถเล็กทั่วไป 16 คัน 1 ปี ปล่อยคาร์บอน 16 ตัน เท่ากับต้นยางนา 4 คนโอบ 1 ต้น (ใหญ่ที่สุดในถนนสายยางนาเชียงใหม่-สารภี) ซึ่งช่วยเก็บคาร์บอนไว้ 16 ตัน

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอ

-ประมาณการเครดิตคาร์บอน 7 ยูโรต่อตันคาร์บอน = 7×38 = 266 บาทต่อตันคาร์บอน
-ถ้าเจ้าของรถเล็กทั่วไป 1 คันวิ่งวันละ 50 กม ทุกปีจะปล่อยคาร์บอน 1 ตัน น่าจะจ่ายค่าปล่อยคาร์บอน 266 บาท เอาไปไหน? เอาไปช่วยปลูกหรือบำรุงรักษาต้นยางนา ขนาด 1 คนโอบ 1 ต้น ดีไหมครับ?
-มุมมองอีกด้านหนึ่ง การนำคาร์บอนกลับคืนมาจากบรรยากาศที่รถยนต์ปล่อยออกไปนั้นเป็นเรื่องยาก ซึ่งโลกนี้มีต้นไม้หรือพืชอื่นๆ เท่านั้นที่นำคาร์บอนในบรรยากาศกลับมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงซึ่งต้องใช้เวลา เช่นต้นยางนากว่าจะโตขนาด 1 คนโอบ ต้องใช้เวลาถึงประมาณ 30 ปี เป็นต้น (คาร์บอนไดออกไซด์ส่วนหนึ่งจะถูกน้ำฝนละลายลงสู่พื้นดินหรือท้องทะเลด้วย)
-ครับ ช่วยกันลดมลภาวะและปลูกบำรุงรักษาต้นไม้เพื่อโลกใบนี้ให้สวยและยั่งยืน

20162508152205.png

 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ