หลังจากมาตรการควบคุมการระบาด ที่เข้มงวดเพิ่มขึ้นไม่เฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดเท่านั้น แต่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ก็มีการยกระดับมาตรการคุมเข้มด้วยเช่นกัน แน่นอนว่า มาตรการที่เข้มงวด ส่งผลกระทบต่อปากท้องประชาชนแน่นอนโดยเฉพาะ คนหาเช้ากินค่ำ คนยากคนจน แต่ที่จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มประชาสังคมที่นั่นพยายามคิดรูปแบบการจัดการ เพื่อลดผลกระทบปากท้องให้กับคนยากคนจนในชุมชน ที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานที่อยู่ในชุมชนเขตเมืองเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง
โดยทางทีม Chiang Mai Food Bank จะเข้าไปช่วยเหลือใน 3 กลุ่ม คนจนเมือง แรงงานข้ามชาติ และแรงงานที่ตกงานหน้าใหม่ ทำให้มีคนที่ยังคงต้องการความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก
Chiangmai Food Bank ทำหน้าที่ เปิดระดมรับอาหารเหลือ ทั้งอาหารสด หรืออาหารแห้ง, ผัก ผลไม้ที่ไม่สวย ข้าวสาร ไข่ ขนมปัง อาหารแห้งต่างๆ ที่ใกล้หมดอายุแต่ (ยังไม่เสีย) กับข้าว ฯลฯ เรียกว่าอาหารทุกอย่างที่กินได้ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็สามารถนำอาหารเหล่านี้ไปช่วงเหลือพี่น้องคนที่เดือดร้อน
Chiangmai FoodBank ตั้งจุดระดมของกันที่ร้าน นอร์ทเกต ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมาโดยมีนักดนตรีอาสาเข้ามาเป็นนายธนาคารอาหารแห่งนี้ ก็คือกลุ่มของนักดนตรีแจ๊สในจังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ก็จะรับบริจาคอาหารของกิน ทำการแยก ประเภทและระยะเวลาของอาหารที่เหลืออยู่ อะไรที่ต้องรีบกระจายออกก่อน เช่นอาหารปรุงสุก ที่เขาต้องจะกระจายก่อน
การมารับของที่นี่ จะต่างจากการแจกทั่วไปที่คนจะต้องมาต่อแถวกันเยอะ รอบนี้เราก็เปลี่ยนจะเป็นตัวแทนชุมชน มารับแล้วเอาไปช่วยกระจายต่อ เช่นตัวแทนจากจุดที่แคมป์งานที่เดือดร้อน หรือชุมชนที่เดือดร้อน จะมารับของ เพื่อไม่ให้จุดธนาคารนี้แออัด โดยอาหารทั้งหมดที่ถูกคัดแยกโดยทีมงาน ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังผู้เดือดร้อนในสามกลุ่มในเบื้องต้น ได้แก่
- กลุ่มคนจนเมือง ชุมชนสามัคคีพัฒนา มีพี่น้องที่กำลังเดือดร้อนร่วม (60 หลังคาเรือน) และชุมชนคลองเงิน (21 หลังคาเรือน)
- กลุ่มพี่น้องแรงงานข้ามชาติ แคมป์คนงานกองทรายสารภี (30 คน) และ
- แคมป์คนงานภูคำ (40 คน)
หากดูจากแผนที่ตอนการนี้ช่วยเหลือกลุ่มคนที่เดือดร้อนราว 200 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดในครั้งนี้ กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่
การผลักดันหลังจากนี้ทางโครงการ Chiang Mai Food bank ที่นอกจากอาหารที่ได้รับจากบ้านเรือนที่พอจะแบ่งปันได้แล้ว ทางโครงการยังคิดถึงการเข้าไปเชื่อมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่มีอยู่หลายแห่ง แล้วก็แน่นอนว่าจะมีของที่อยู่บนชั้นวาง ที่อาจจะลดคุณภาพลงบางอย่างอาจจะต้องขัดแยกออกมาเพราะขายต่อไม่ได้แล้ว แต่ยังสามารถที่จะส่งต่อเอาไปปรุงอาหารได้อีกครั้ง รวมถึงร้านค้าท้องถิ่นรายย่อย ที่จะพอมีของเหลือไม่ต้องทิ้งที่นี่จะรับเอามาบริหารและจัดการเตรียมส่งต่อให้
แนวคิดเปลี่ยนอาหารที่มีเหลืออยู่ในตู้เย็น ให้กลายเป็นอาหารอีกมื้อสำหรับผู้ที่กำลังขาดแคลนที่สุดในตอนนี้ น่าจะพอที่จะโมเดลหนึ่งที่จะทำให้เรารอดไปด้วยกันภายในข้อจำกัดการใช้ชีวิตที่ไม่ปกติ.
