วันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินร่วมขบวนธรรมยาตราของกลุ่มศาสนาเพื่อสันติภาพ โดยที่เริ่มเดินเท้าจากมูลนิธีเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยไปยังวัดยานนาวา และยังมีการเดินเท้าอีกสองวัน คือในวันที่25และวันที่26 การเดินธรรมยาตรานครั้งนี้ จะเป็นการเดินเท้าไปยังศาสนสถานต่างๆของแต่ละศาสนา ทั้งศานาพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดูและซิกส์
จากการที่ได้พูดคุยกับผู้ร่วมเดินขบวนดังกล่าว ทำให้ได้ความว่า เป้าหมายของการเดินเท้าในครั้งนี้ว่า เป็นการชักชวนให้ทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม ร่วมฉุดคิดขึ้นมามองถึงวิธีการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ที่แตกต่างจากวิธีการเดิมๆ เพื่อบรรเทาความขัดแย้งและนำไปสู่การประนีประนอมหรือคลี่คลายวิกกฤติละการปฏิรูปการเมืองลงได้นั้น
กลุ่มคนที่เข้าร่วมการเดินขบวนในครั้งนี้นั้น โดยทั่วไปจะเป็นอาจารย์และนักศึกษาบางส่วนจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล แต่จำนวนคนที่เข้าร่วมขบวนนั้นมีไม่มากนัก บรรยากาศในการเดินขบวนธรรมยาตราเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีการรบกวนจากกลุ่มบุคคลใดๆ โดยอาศัยทางเท้าในการเดินทาง และสะพานข้ามถนนตามปกติ โดยที่ไม่มีการรบกวนชาวบ้านในละแวกที่ได้เดินผ่าน
ตลอดเส้นทางการเดินขบวนนี้ ชาวบ้านทั่วไปในบริเวณที่ได้มีการเดินผ่าน ต่างให้ความสนใจ แต่บางส่วนก็ยังมีความคิดว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนเสื้อขาว ผู้ร่วมเดินขบวนจึงต้องบอกกล่าวถึงจุดประสงค์และอัตลักษณ์ของตนเองอยุ่บ่อยครั้ง บางคนก็สนใจข้อความที่เขียนไว้ที่ธงของผู้ร่วมขบวน รวมไปถึงข้อความที่ปรากฏอยู่ในแผ่นผ้าไวนิลที่ผู้ร่วมขบวนถือขณะที่ได้ร่วมการเดินเท้า
ไม่มีถูกและไม่มีผิด เพราะเป็นสิทธิที่ทุกคนสามารถแสดงออกได้ตามปกติ หากแต่ไม่ได้มีการทำร้ายใครและไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิของใคร และนับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่น่าใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนในสังคมก็ไม่ได้มีความเห็นที่คล้อยตามกันไปแค่สองแบบเท่านั้น
การแสดงออกทางสังคมเช่นนี้ นับเป็นอีกหนึ่งเสียงสำคัญ ที่พยายามบอกกับสังคมว่า การแก้ไขปัญหาทางการเมือง ณ ขณะนี้ เพียงแค่วิธีการเดิมๆหรือจากการระดมความคิดของกลุ่มคนเดิมๆ อาจจะไม่ใช่วิธีที่จะจบปัญหาลงได้ เสียงจากคนวงนอกก็มีความสำคัญที่จะคอยเติมเต็มความคิดที่ขาดหายไปของคนส่วนใหญ่ เพื่อให้เกิดวิธีแก้ไขที่อาจจะจบปัญหาต่างๆลงได้