จับตาปมยิงดับ ลูกชายเจ้าของเหมืองตะกั่วคลิตี้ หลังเกิดเหตุวิวาทกับผู้ใหญ่บ้าน

จับตาปมยิงดับ ลูกชายเจ้าของเหมืองตะกั่วคลิตี้ หลังเกิดเหตุวิวาทกับผู้ใหญ่บ้าน

นายคงสิทธิ์ กลีบบัว อายุ 46 ปี ชาวบ้านคลิตี้ ทายาทเจ้าของเหมืองแร่ตะกั่วคลิตี้ ที่ถูกยิงเสียชีวิต

30 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุสะเทือนขวัญในชุมชนบ้านคลิตี้ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี กรณีนายคงสิทธิ์ กลีบบัว อายุ 46 ปี ชาวบ้านคลิตี้ ทายาทเจ้าของเหมืองแร่ตะกั่วคลิตี้ซึ่งปิดทำการมากว่า 20 ปี จากการประกอบกิจการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ถูกยิงเสียชีวิต ร้านขายของชำในหมู่บ้าน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา

พันตำรวจเอก บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุนายคงสิทธิ์ เกิดเหตุการณ์มีปากเสียงกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านทุ่งเสือโทน ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่ลูกชายผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้ลงมือยิงนายคงสิทธิ์จนเสียชีวิตและหลบหนีไป ขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะมาจากเหตุทะเลาะวิวาท

ทั้งนี้ นายคงสิทธิ์ เป็นชาวบ้าน 1 ใน 50 ราย ที่ลงชื่อคัดค้านไม่ให้มีการขุดตะกอนดินริมห้วยคลิตี้ ในกระบวนการฟื้นฟูที่ดำเนินการโดยกรมควบคุมมลพิษว่าจ้างบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ก่อนหน้านี้ และที่ผ่านมาได้แสดงความเห็นคัดค้านการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ที่อาจไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการดำเนินการโครงการฯ และส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในชุมชนในหลายครั้ง ทั้งในการประชุมไตรภาคี และในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เมื่อวันที่ 29 – 30 พ.ย. 2563

คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ลงพื้นที่เปิดเวทีพูดคุยในชุมชนคลิตี้ เมื่อวันที่ 29 – 30 พ.ย. 2563

นายคงสิทธิ์เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทเหมืองแล้ว (บริษัท ตะกั่ว คอนเซนเตรทส์ ประเทศไทย จำกัด) และเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับชุมชน และส่วนตัวเห็นด้วยกับการฟื้นฟู แต่กระบวนการควรส่งผลกระทบน้อยที่สุดและไม่สิ้นเปลือง

ล่าสุด ในการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อติดตามการดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายคงสิทธิ์ ได้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมหลายเรื่อง โดยเฉพาะผลกระทบจากกระบวนการฟื้นฟูที่ใช้งบประมาณจำนวนมากแต่กลับไม่ได้ผลเท่าที่ควร โดยระบุว่าพูดแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องที่ดินที่ทำกิน การดูดตะกอนที่อาจส่งผลให้สารพิษตะกั่วกลับมาฟุ้งกระจายในลำห้วย รวมถึงประเด็นที่มีชาวบ้านถูกข่มขู่ คุกคาม แหล่งข่าวระบุว่า การแสดงความเห็นของนายคงสิทธิ์ในที่ประชุมดังกล่าวทำให้กรรมการไตรภาคีหลายคนไม่พอใจ

สำหรับโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว จ.กาญจนบุรี กรมควบคุมมลพิษ ว่าจ้าง บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้รับเหมาดำเนินการโครงการฟื้นฟู และมีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นที่ปรึกษา ด้วยงบ 454 ล้านบาท ตามคำพิพากษาของศาล เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2560 ถึงปัจจุบันยังไม่จบการฟื้นฟูระยะที่ 1 และกรมควบคุมมลพิษมีการยื่นของบดำเนินโครงการฟื้นฟูระยะที่ 2 อีกจำนวน 222 ล้านบาท สำหรับดำเนินการต่อในปี พ.ศ. 2564

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

https://www.facebook.com/ThaiPBSFan/videos/221268289410675

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ