ประมวลภาพ กลุ่มราษฎรนัดรวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเคลื่อนไปสำนักพระราชวัง หวังส่งต่อ “ราษฎรสาส์น” แต่เจอฉีดน้ำสะกัด สุดท้ายได้หย่อนจดหมายที่แยกศาลหลักเมือง
ภาพโดย : เชาว์ นาคอินทร์
การเดินขบวนครั้งยิ่งใหญ่ของ “กลุ่มราษฎร” หรือกลุ่มคณะราษฎร 2563 เดิม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีกลุ่มมวลชนบางส่วนได้เดินทางมาในพื้นที่นัดหมายตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อร่วมกิจกรรมก่อนเวลานัดหมาย 16.00 น. โดยมีกลุ่มการ์ดที่คอยดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ แฟนเพจ เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH เผยแพร่กิจกรรมหลักของการชุมนุมในวันนี้ คือ การร่วมกันเขียนจดหมาย “ราษฎรสาส์น” ในใจความว่า สถาบันกษัตริย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปส่งมอบร่วมกัน โดย 1 คน 1 ฉบับนี้ จะเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่ประชาชาชนจะสื่อสารข้อเรียกร้องโดยตรง
ในระหว่างรอการเคลื่อนขบวน และประกาศจุดหมายการเดินที่ชัดเจน ประชาชนที่มารวมตัวกันบางส่วนได้เตรียมป้ายกระดาษและสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อนำมาสื่อสารแสดงข้อเรียกร้องของตนเอง กระจายตัวอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีการตั้งจุดปราศรัยหลักที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์
ส่วนหัวขบวน อยู่บนถนนราชดำเนินบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมีการเตรียมตู้ไปรษณีย์จำลอง 4 ตู้ ป้ายไวนิลขนาดยักษ์ตกแต่งเป็นรูปซองจดหมายระบุชื่อผู้ส่ง “ราษฎร” และชื่อผู้รับ “วชิราลงกรณ์” และรถซาเล้งแดงติดลำโพงไว้นำขบวน
17.45 น. หัวขบวนที่อนุสรณ์สถาน 14ตุลา ขึ้นป้าย “เดินหน้าต่อไป” และเริ่มเคลื่อนขบวนไปยังสำนักพระราชวัง ณ พระบรมมหาราชวัง เพื่อยื่นจดหมายของราษฎร โดยเคลื่อนขบวนบนถนนราชดำเนิน ข้ามสะพานผ่านพิภพลีลาซึ่งจุดนี้มีการตั้งแถวกั้นทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็สามารถผ่านไปได้ และใช้เส้นทาง ถ.ราชดำเนินในเดินถึงสนามหลวง เพื่อมุ่งหน้าไปทางวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เวลาประมาณ 18.20 น. หัวขบวนเดินทางถึงที่บริเวณหน้าศาลฏีกา ซึ่งมีการตั้งแนวป้องกันอย่างแน่นหนาของเจ้าหน้าที่ โดยใช้รถเมล์ ลวดหีบเพลง รถตู้ตำรวจ และมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงประจำการอยู่ด้วย ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมมีการ์ดอาสาซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายไปยืนตั้งแถวเป็นแนวหน้าสุดของขบวน
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการบนรถพยายามสื่อสารว่าการชุมนุมผิดกฎหมาย และไม่ให้เดินหน้าเข้ามาใกล้เขตพระราชฐานในรัศมี 150 เมตร ขณะที่ผู้ชุมนุมมีความพยายามจะฝ่าแนวกั้นตำรวจเพื่อเดินทางต่อไปยังสำนักพระราชวัง โดยการเคลื่อนรถเมล์ที่กั้นทางอยู่ ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฉีดน้ำข้ามจากแนวรถเมล์ ทำให้ผู้ชุมนุมและนักข่าวที่อยู่ในแนวด้านหน้าต่างแตกตื่น และกระจายตัวกันออกมา เพราะไม่รู้ว่าจะมีการฉีดน้ำเนื่องจากไม่มีการประกาศเตือน
คลิกดูคลิป: https://www.facebook.com/citizenthaipbs/videos/395001721629955
เวลาประมาณ 18.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศจะไม่มีการฉีดน้ำอีก ให้ทุกคนใจเย็น ๆ และขอประชาชนถอย 20 เมตร แล้วจะดำเนินการเจรจา โดยมีการถอยรถฉีดน้ำแรงดันสูงออกไปจากแนวป้องกัน ต่อมาได้มีการประกาศขอโทษและระบุว่ามีความผิดพลาดในการฉีดน้ำ ทำให้ผู้ชุมนุมส่งเสียงตะโกนด้วยความไม่พอใจ
18.50 น. ลูกเกด – ชลธิชา แจ้งเร็ว และ ปอ-กรกช แสงเย็นพันธ์ เป็นตัวแทนผุ้ชุมนุมกลุ่มราษฎร เจรจากับ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) บริเวณหน้าศาลฎีกา และมีการประกาศให้ผู้ชุมนุมนั่งลงเพื่อรอผลเจรจา ทั้งการเปิดแนวลวดหนามให้ตู้ไปรษณีย์ไปตั้งใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวัง และการขอโทษที่มีการฉีดน้ำเข้าใส่ประชาชน ขณะที่มีการขึ้ป้าย “ใจเย็นๆ ใจร่มๆ”
19.10 น. ศูนย์เอราวัณ กทม. แจ้งว่า มีการนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล 3 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ 1 คน และผู้ชุมนุมอีก 2 คน
19.25 น. พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6.ชี้แจงว่า การฉีดน้ำใส่มวลชนเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมฝ่าฝืนแนวกั้นเข้าใกล้เขตพระราชฐาน หลังมีการเตือนให้ออกนอกแนว แต่พบว่าบางคนรื้อลวดหนาม จึงจำเป็นต้องฉีดน้ำตามขั้นตอน พร้อมกล่าวขอโทษผู้ชุมนุม
19.40 น. มีการประกาศเรียกระดมหมวก ร่ม แว่นตา เสื้อกันฝนให้การ์ดด้านหน้า และให้ประชาชนเรียงแถวหน้ากระดานเอาไว้ แต่ยังไม่เคลื่อนขบวน รอฟังสัญญาณ เนื่องจากมีการขยับรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้ามาใกล้แนวเผชิญหน้า ทำให้เกิดความตื่นตระหนก แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประกาศว่าไม่มีเจตนาใช้กำลัง
19.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจขยับแนวถอยหลังออกไป ส่วนการ์ดผู้ชุมนุมได้เลื่อนรถเมล์และรถตู้ออกจากแนวกั้นเพื่อเปิดทาง โดยมวลชนเคลื่อนขบวนต่อไปถึงบริเวณใกล้แยกศาลหลักเมือง ซึ่งมีแนวเจ้าหน้าที่และรถน้ำ 3 คัน ขวางอยู่
20.13 น. แกนนำราษฎรประกาศให้มวลชนเตรียมเขียนจดหมายของตัวเองเพื่อเตรียมส่ง และจะนำตู้ไปรษณีย์ให้ใกล้สำนักพระราชวังให้มากที่สุด
20.50 น. แกนนำได้อ่านแถลงการณ์ในนามราษฎร โดยมีใจความสำคัญว่า สามัญชนอาจเลือกได้ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้ที่รักและศรัทธา แต่ “กษัตริย์มิอาจทำเช่นนั้น ด้วยกษัตริย์มิอาจเลือกที่รักมักที่ชัง” และเมื่อกษัตริย์ฟังคำสรรเสริญเยินยอได้ ก็จำเป็นต้องสดับรับฟังคำเตือนและข้อเสนอแนะ พร้อมย้ำด้วยว่า 3 ข้อเรียกร้องเป็นการประนีประนอมที่สุดแล้ว หลังจากนั้นได้เปิดให้ประชาชนทยอยนำ “ราษฎรสาส์น” ไปหย่อนที่ตู้จดหมายจำลอง
20:55 น. ลูกตาล-สุวรรณา ตาลเหล็ก กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ประกาศให้มวลชนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ หลังอ่านแถลงการณ์ และทำกิจกรรมหย่อนจดหมายไปยังสำนักพระราชวัง แต่ประชาชนยังคงทยอยขยับมาถ่ายรูปกับแนวตำรวจ
ไทยพีบีเอส รายงานว่า เวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวถึงผลการดำเนินการหลังการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุม หลังกลุ่มราษฎรประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 20.55 น. ยืนยันการใช้น้ำฉีดสกัดผู้ชุมนุมเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังแจ้งเตือนแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ชุมนุมพยายามฝ่าฝืนเข้าพื้นที่หวงห้าม อีกทั้งเป็น “การฉีดตามยุทธวิธี” เป็นน้ำเปล่า ไม่ได้มุ่งประสงค์ให้เกิดอันตรายหรือให้เกิดความเสียหายให้กับทรัพย์สินเตรียม
นอกจากนั้นยังเตรียมดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ส่วนในเรื่องการออกมาขอโทษผู้ชุมนุมนั้น ก็เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
เวลาประมาณ 22.00 น. หลังผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดการจราจร และได้นำตู้ไปรษณีย์บรรจุจดหมายทั้ง 4 ตู้ขึ้นรถกระบะตำรวจไป โดยไม่ระบุว่าจะนำไปไหน ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีการนำไปไว้ที่ สน.ชนะสงคราม อย่างไรก็ตาม สถานที่ทำกิจกรรมอยู่ในท้องที่รับผิดชอบของ 4 สน. ได้แก่ สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ สน.นางเลิ้ง และสน.พระราชวัง ต้องติดตามต่อว่าจะมีการดำเนินการต่อไปอย่างไร
เวลาประมาณ 02.00 น. มีการนำแบริเออร์ออก เพื่อเปิดถนนข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ให้รถวิ่งได้แล้ว