นักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองเดินเท้าไปทำเนียบ เสนอรัฐหยุดขจัดผู้เห็นต่าง-หาทางออก

นักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองเดินเท้าไปทำเนียบ เสนอรัฐหยุดขจัดผู้เห็นต่าง-หาทางออก

“หยุดสลายการชุมนุมและขจัดผู้เห็นต่าง สร้างทางออกให้ประเทศไทย”

วันนี้ (20 ตุลาคม 2563) #เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เดินเท้าไปยัง #ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นแถลงการณ์ เรื่อง “หยุดสลายการชุมนุมและขจัดผู้เห็นต่าง สร้างทางออกให้ประเทศไทย” ซึ่งมีรายชื่อนักวิชาการแนบท้ายกว่า 1,000 รายชื่อ

เนื้อหาของแถลงการณ์ แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองเรื่องประเทศไทยต้องไม่ถึงทางตัน มีดังนี้

การชุมนุมของนักเรียนนิสิตนักศึกษารวมถึงประชาชนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีปัญหาหลายด้านที่ซับซ้อนและโยงใยกันอย่างแน่นหนา จำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขในระดับรากฐาน และกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้เสนอแนวทางแก้ไขมาโดยลำดับ บนฐานของข้อเท็จจริง หลักการ และเหตุผล โดยมีผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง อีกทั้งยังเป็นไปอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ทว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่ไม่รับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมไปพิจารณา หากแต่ยังขัดขวางในลักษณะต่างๆ ทั้งการตั้งข้อหาและจับกุมคุมขังแกนนำและผู้เข้าร่วม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บและสถานการณ์บานปลาย ไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลายลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ก็เพราะว่าปัญหาที่ประเทศไทยประสบเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม เป็นผลมาจากการที่กลุ่มคนที่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นชาติสกุล เชื้อชาติ ศาสนา อาชีพ เพศ อายุ ภูมิลำเนา ฯลฯ ไม่ได้รับการจัดสรรประโยชน์ ทรัพยากร สิทธิ และอำนาจกันอย่างเท่าเทียม จะแก้ปัญหาอย่างแท้จริงได้ก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงออกและต่อรองกันอย่างเสมอหน้า ไม่ใช่โดยการปกปิดหรือบิดเบือนผ่านการหว่านล้อมกล่อมเกลา หรือโดยการใช้กำลังเข้ากดปราบหากไม่สยบยอม ดังที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้เห็นต่างตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2550 เป็นต้นมา

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) พร้อมกับนักวิชาการรวมถึงผู้ห่วงใยที่มีรายชื่อแนบท้ายจึงขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้

1. ขอประณามการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนบริเวณแยกปทุมวันคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เพราะเป็นการจัดการกับการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามหลักการและขั้นตอนที่เป็นสากล และเป็นการใช้กำลังที่ไม่ได้สัดส่วนหรือเกินกว่าเหตุ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีอาวุธ ไม่ได้มีพฤติการณ์รุนแรง และจำนวนมากเป็นเยาวชน  

2. รัฐบาลต้องยุติการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการขจัดผู้เห็นต่าง ต้องยกเลิกการตั้งข้อหาและต้องปล่อยตัวผู้ชุมนุมทุกคนอย่างไม่เงื่อนไข เพราะผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศที่ประเทศไทยลงสัตยาบัน รวมถึงต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและการบังคับใช้กฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนเกินกว่าเหตุ

3. รัฐบาลต้องรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมไปพิจารณาอย่างจริงจัง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย โดยจัดตั้งคณะกรรมการร่วมศึกษาและให้ข้อเสนอแนะที่มาจากตัวแทนฝ่ายต่างๆ ในภาควิชาการ ประชาชน และนักเรียนนิสิตนักศึกษา เพราะปราศจากการเขียนกติกาหลักที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น และปราศจากการจัดระเบียบอำนาจและประโยชน์ในสังคมใหม่ที่เป็นธรรมกับทุกคน โอกาสที่ประเทศไทยจะพ้นจากวิกฤติที่ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อยาวนานได้นั้นแทบจะไม่มี

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง  

20 ตุลาคม 2563 

รายชื่อนักวิชาการที่ร่วมสนับสนุนแนบท้ายแถลงการณ์

รายชื่อแถลงการณ์ของนักวิชาการเครือข่ายสิทธิพลเมือง-191063-21.50hr

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ