“สืบชะตาลำน้ำเซบาย” งดงาม เรียบง่าย ภายใต้สถานการณ์โควิค-19

“สืบชะตาลำน้ำเซบาย” งดงาม เรียบง่าย ภายใต้สถานการณ์โควิค-19

ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายนำกระทงขนาดเล็กปล่อยลงแม่น้ำเพื่อ “สืบชะตาลำน้ำเซบาย ครั้งที่ 4” ณ ท่าเรือโบราณริมลำน้ำเซบาย บ้านเชียงเพ็ง ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ในวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา  โดยปีนี้ไม่มีขบวนแห่กระทงจากหมู่บ้าน ไม่ได้เชิญชวนพี่น้องและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมงาน แต่รูปแบบเป็นไปอย่างเรียบง่าย ภายใต้สภานการณ์การป้องกันโควิค-19 แต่กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายยังยืนยันปกป้องทรัพยากรอย่างหนักแน่นตามเจตนารมณ์   

นางมะลิจิตร เอกตาแสง อายุ 59 ปี กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย กล่าวว่า “ปีนี้เราไม่ได้จัดงานสืบชะตาลำน้ำเซบาย เหมือน 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเดิมมีเครือข่ายชาวบ้านและหน่วยงานราชการเข้าร่วม เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19 ทำให้ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายต้องปรับรูปแบบการสืบชะตาลำน้ำเซบายให้เป็นไปอย่างเรียบง่ายและคล่องตัวโดยมีรูปแบบงานที่เล็กลง ทั้งกระทงที่เราลอยน้ำและจำนวนคนที่เราจำกัดเพียง 8 คน เมื่อเปรียบกับปีที่ผ่านมามีคนเข้าร่วมกว่า 200 คน ซึ่งการปล่อยกระทงลอยไปตามลำน้ำเซบายเพื่อเป็นการแสดงถึงการเคารพแม่น้ำคงคา เพราะชุมชนเราได้อาศัยลำน้ำเซบายในการอุปโภคและบริโภค รวมทั้งภาคการเกษตร ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เราก็ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการในพื้นที่เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค 19 แต่ทางกลุ่มอนุรักษืลำน้ำเซบายก็ยังยืนยันที่จะปกป้องทรัพยากรและเรียกร้องให้รัฐประกาศเป็นพื้นที่ปลอดภัยด้านน้ำ ด้านอากาศ ด้านคุณภาพชีวิต ด้วย”

นางสาวนวพร เนินทราย อายุ 30 ปี เลขานุการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการดูแลทรัพยากรภายใต้สถานการณ์ที่ทุกคนต่างป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิค-19 แต่เราก็ควรให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่ชุมชนเราได้พึ่งพาด้วย “เนื่องจากสถานการณ์ของเชื้อโควิค-19 ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้หันกลับมาพึ่งพาทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า อากาศ ในการดำรงชีวิตมากขึ้นเพราะเป็นเรื่องปากท้อง ดังนั้นในวันนี้พวกเราต้องออกมาทำหน้าที่ร่วมกันในการปกป้องลำเซบาย ปกป้องสิทธิชุมชน ปกป้องบ้านเกิด และเราก็จะไม่ยอมรับกระบวนการที่ชุมชนเราไม่มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น แต่เราจะสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อให้รัฐได้เล็งเห็นถึงว่า เราจะสร้างพื้นที่การเรียนรู้ในการปกป้องชุมชนและการอนุรักษ์ทรัพยากรต่อไป เพื่อให้ชุมชนได้มีทรัพยากรได้พึ่งพาอาศัยแบบยั่งยืนต่อไป”

ลำเซบาย เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลในพื้นที่ภาคอีสาน มีความยาวตลอดลำน้ำ 233 กิโลเมตร ซึ่งตลอดสองฝั่งลุ่มน้ำชาวบ้านต่างมีวิถีความผูกพันจากการได้อาศัยหาอยู่หากิน “ลำเซบาย” จึงสายน้ำที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของชุมชนที่ไหลผ่านในหลายจังหวัด ทั้ง มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี รวมทั้งบ้านเชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ที่หลายคนมีข้อกังวลต่อความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อทรัพยากรหลังมีแผนดำเนินโครงการอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้ชุมชน

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ