ประมวลภาพ: ตลาดนนท์ ในวันที่ผู้คนเจอประกาศเคอร์ฟิว

บรรยากาศยามสายจรดบ่ายของตลาดสดเทศบาลนนทบุรีในวันที่ 1 เม.ย. 2563 ภายหลังจากนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ประกาศ “มาตรการพึงปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 2” เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2563 ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน งดการออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 น. – 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้น เป็นผู้ขนส่งสินค้า ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานใน ช่วงเวลาดังกล่าว หรือมีความจำเป็นเร่งด่วน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ระบุด้วยว่า จังหวัดนนทบุรี มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพมหานคร จำนวนประชากรแฝงที่ไม่ได้อยู่ในทะเบียนของจังหวัดนนทบุรีกว่า 700,000 คน นอกจากนี้ยังมีทางเข้า-ออกมากกว่า 20 เส้นทาง ประชากรที่เดินทางเข้า-ออกในแต่ละวันมากว่า 300,000 คน ทำให้ไม่สามารถที่จะปิดเส้นทางได้เนื่องจากจะทำให้ไม่ได้รับความสะดวก

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ยังมีประกาศ สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว โดยให้ร้านสะดวกซื้อเปิดจำหน่ายได้ในช่วงเวลาตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 23.00 น. รวมถึงขอความร่วมมือให้ผู้บริโภคสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้านทุกคน และงดให้บริการแก่ผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัย

นอกจากนี้ยังสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เม.ย. 2563 เช่น สถานศึกษาทุกระดับ รวมถึงสถาบันกวดวิชา ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ฯลฯ ตลาดและตลาดนัด (เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น) เป็นต้น

อดุลย์ เพ็งจันทร์ดี เจ้าของแผงผักตลาดนนท์ กล่าวว่า ปกติเริ่มขายตี 3 ก็ต้องมาขายตอนตี 5 แทน แล้วเก็บแผงตอน 9 โมง เพราะขายไม่ได้ ต้องกลับบ้านไวรายได้ลดลงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

ส่วนมาตรการเคอร์ฟิวก็รับได้ ให้ความร่วมมือ แต่การขายของช่วงนี้แย่มาก เป็นผลกระทบจากโควิด-19 เพราะทุกคนต้องระวังตัวเอง ไม่มีใครอยากออกจากบ้าน ก็ต้องปรับตัวซื้อของสำหรับมาขายลดลง เพราะคนซื้อน้อยลง

ตอนนี้ราคาผักยังไม่ขึ้น ราคายังปกติ แต่ขาดคนซื้อ วันหนึ่ง ๆ ขายได้ไม่กี่ร้อย จากปกติเคยขายหลักได้พัน

คานะ ลูกค้าที่มาเดินตลาด กล่าวว่า ตอนนี้ผลกระทบคือ ประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่กล้าออกไปไหนเพราะกลัวติดเชื้อ และยิ่งมีประกาศออกมาก็หลายคนเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการฝ่าฝืนคำสั่ง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าน่าจะได้รับผลกระทบมาก เพราะออกมาขายได้เหมือนเดิม แต่คนออกมาจ่ายตลาดคงน้อยลงกว่าเดิมเยอะ

ยิ่งเป็นของสดยิ่งมีผลกระทบมาก เพราะของที่ไปรับมาขายจะต้องคำนวณใหม่ว่าจะรับมาเท่าไร ถึงไม่ขาดทุน ไม่เหลือจนเน่าเสีย