ตอนนี้ใกล้จะสิ้นปีเก่า แล้วก็กำลังจะก้าวสู่ปีใหม่ สำหรับสังคมไทยหรือว่าบ้านเมืองของเราแล้วเนี่ย ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องราวมันเยอะมาก ดูเหมือนว่าสถานการณ์ มันหนักขึ้นหนักขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ ก็ดูฟังเสียงชาวบ้านทุก ๆ กลุ่มทุกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจเราแย่ลงลำบากขึ้น โดยเฉพาะคนยากคนจน คนหาเช้ากินค่ำอันนี้หนักมากๆเลยไปที่ไหนก็เจอ คนขับรถคนขายของ ชาวบ้าน
สิ่งแวดล้อม อันนี้ก็ต้องถือว่าหนักยิ่ง เข้าไปอีกโดยเฉพาะเรื่องฝุ่นควัน ก็ถือว่าเป็นวิกฤตของโลก หรือว่าสถานการณ์โดยภาพรวมที่ว่าด้วยเรื่องสภาพภูมิอากาศทั้งหลายที่กำลังเปลี่ยนแปลง ก็ดูเหมือนว่าสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหนักมาก ยกตัวอย่างทางเหนือของเราเคนที่อยู่ในป่าที่เราอยู่กับป่าต้นน้ำเราจะเป็นวิถีของคนต้นน้ำก็ลำบาก บางรายอยู่กับป่า ก็โดนทั้งทวงคืนผืนป่าบ้าง
เราเห็นภาพเหล่านี้เห็นชัดเลย หรือว่าเราได้ยินเรื่องความเหลื่อมล้ำที่บ้าน เรามาเป็นอันดับ 1 ของโลก อย่างนี้เราก็ฟังแล้วรู้สึกสะท้อนใจ อันนี้คือสิ่งที่เห็นซึ่งพูดวันนี้คงพูดไม่หมดเรื่องราวมันเรื่องราวมันเยอะมากแต่ว่านี่คือเรื่องหลักๆที่ได้ยินได้ฟังมาโดยตลอด
แต่ภาวะอย่างนี้เราคงจะต้องใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าแล้วนะครับก็คืออันแรกเลยก็คือ คงต้องดูแลร่างกายดูแล สุขภาพให้ดีเลยนะสำหรับที่เราจะมีชีวิตที่แข็งแรง มีอายุยืนยาวอะไรแบบนั้น และที่สำคัญก็คือสุขภาพใจหลายคนที่มีภาวะที่ไม่พอใจกับสังคมแล้วก็เกิดอาการเหนื่อย เบื่อหน่ายกับชีวิตอะไรอย่างนี้ ก็มีเยอะนะตอนนี้ ก็อยากให้ดูแลสุขภาพใจเราด้วย ว่าสิ่งเหล่านี้มันคือการเปลี่ยนแปลงเพียงแต่ว่า การเปลี่ยนแปลงของเรามันอาจจะเผชิญหน้ากับอะไรหลายๆอย่าง
ที่สำคัญก็คือว่าภายใต้สังคมที่มันมีความแตกต่างเยอะแบ่งขั้วแบ่งกลุ่มแบ่งซี่กทั้งหลายอะไรอย่างนี้ก็อยากให้พวกเราอดทนนะมีเหตุ มีผล แล้วก็ฟัง ข้อมูลรอบด้าน อย่าฟังอะไรด้านเดียวแล้วก็จบ และอย่าฟังข่าวด้านเดียวโดยเฉพาะเฟคนิวส์ฟังข่าวหลายๆมุมแล้วก็อยากให้เปิดใจกว้าง ๆ เพราะว่าการที่เราเปิดใจกว้าง มันจะทำให้เราไม่หงุดหงิดกับสิ่งที่ มันแตกต่างจากสิ่งที่เราคิดสิ่งที่เราเชื่อ ก็อันนี้แหละจะเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันที่ดี ในเบื้องต้น
และที่ที่สำคัญก็คือว่าอยากให้พวกเราช่วยกันดูแลซึ่งกันและกันเพราะตอนนี้ทุกคนคงต้องการกำลังใจเยอะมาก ที่ให้ทุกคนต้องต้องดูแลกัน ใช้สติปัญญา ใช้การวิเคราะห์ ใช้การใคร่ครวญ อยากฝากถึงทุกคนว่า เพิ่มความเป็นพลเมืองให้แก่กันและกันก็คือนอกจากดูแลตัวเองแล้ว ก็อยากให้ดูแลบ้าน ดูแลเมือง
ถ้าจะให้สังคมเราไม่มีความเหลื่อมล้ำให้สังคมเรามีความเป็นธรรมเราจำเป็นอย่างยิ่งเลย ที่จะต้องเปิดโอกาสให้พลเมืองทุกกลุ่มได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ในการดูแลบ้าน ดูแลเมือง ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ สังคมเราจะต้องเป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตย เราจะต้องมีการกระจายอำนาจ คือขณะนี้เรายังรวมศุนย์อำนาจไว้ที่ตรงกลาง อำนาจตั้งอยู่ข้างบนมากเกินไป แล้วมันทำให้ศักยภาพของพลเมืองที่มีอยู่มากมาย มีความสามารถ ไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ ที่จะมาดูแลบ้านดูแลสิ่งแวดล้อม
หวังว่าถ้าไปในทิศทางแบบนี้แล้ว เราก็เชื่อว่าสังคมเราน่าจะอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน แล้วก็สร้างบ้านสร้างเมืองให้เป็นบ้านให้เป็นบ้านชุ่มเมืองเย็นได้ในอนาคต
“สำหรับปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขกาย สุขใจ เหมือนที่กล่าวไปตอนต้น …เปิดใจกว้าง เคารพกันและกัน รักกันและกัน เเบ่งปันกันและกัน ดูแลกันและกัน สำคัญมาก นอกจากเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว อยากให้รักดิน รักน้ำ รักโลกใบนี้ ช่วยกันดูแลโลกใบนี้ …ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ ขอให้มีพละกำลังใจที่เผชิญกับวิฤตกาล หวังว่าเราจะผ่านมันได้…”
[ชัชวาล ทองดีเลิศ ตัวเเทนภาคประชาชนเชียงใหม่...]
author
