เครือข่ายไทบ้านผู้ไร้สิทธิสกลนคร ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่ดินทำกิน ตามแผนยุทธการทวงคืนผืนป่า ได้ร่วมปักหลัก กิน นอน ค้างคืนบริเวณหน้าศาลจังหวัดสกลนคร หลังสมาชิกต้องขึ้นศาลอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งเดือน
วันที่ 18 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 9.30 น. ณ ศาลจังหวัดสกลนคร ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีระหว่างพนักงายอัยการ โจทก์ กับนายประเสริฐศักดิ์ บุระวงศ์ ในคดีนี้ศาลพิพากษา ให้คำคุก 6 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา การกรณีผู้ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าดงชมภูพาน-ดงกระเชอ จำนวน 31 ราย ทั้งหมดเป็นชาวบ้านจัดระเบียบ ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร
ชาวบ้านรายหนึ่ง ชี้ว่า แน่นอนว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั้งจากการถูกดำเนินคดี และแผนยุทธการทวงคืนผืนป่า ได้ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนอย่างมาก หลายครอบครัวต่างเป็นหนี้สินต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาลกันตลอดทั้งเดือน แม้ทุกครั้งหมายถึงความเดือดร้อนในภาระที่เพิ่มขึ้นเพื่อเดินทางมายังศาล รวมทั้งค่าคดีความ และค่าอื่นๆ แต่พวกเราต้องร่วมเดินทางมาให้กำลังใจตามนัดหมาย
ชาวบ้านรายเดิม บอกอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.58) ศาลนัดสืบพยานโจทก์อีก 1 ราย คือ คดีระหว่าง พนักงานอัยการ โจทก์ นายสิน เงินภักดี จำเลย แต่ครั้งเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายไม่ให้สูงเพิ่มมาก ดังนั้นตัวแทนกว่า 30 คน พร้อมใจกันไม่เดินทางกลับไปมา จะร่วมปักหลักกินนอนอยู่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสกลนคร นี้
“นอกจากการมาร่วมให้กำลังใจกับสมาชิกฯ ระหว่างรอขึ้นศาลแล้ว ยังเป็นการร่วมกันเพื่อชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ที่จะร่วมกันปกป้องสิทธิที่ถูกความล้มเหลวจากนโยบายทวงคืนผืนป่าให้กลับคืนมาสู่ความเป็นธรรม ซึ่งรัฐบาลบอกว่าจะจัดการกับนายทุน แต่กลับกลายมาทำกับชาวบ้าน ทำให้หลายรายไร้ที่ดินทำกิน บ้างก็ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แม้ คสช.จะมีคำสั่ง 66/57 ก็ไม่ได้ทำให้ผลกระทบต่อชาวบ้านที่ส่วนใหญ่มีความยากจนลดความเดือดร้อนลงแม้แต่น้อยเลย หนักซ้ำเติมไปกว่านั้นชาวบ้านกลับถูกขับไล่ ยึดที่ดิน ไม่มีพื้นที่ทำกิน ถูกตัดยาง และต้องมาถูกดำเนินคดีอีก จึงอยากชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ถูกกระทำ คือความทุกข์ยากที่ถูกซ้ำเติม และมันคือความล้มเหลวในการจัดการทรัพยากรของรัฐบาล ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อชาวบ้าน” ชาวบ้านรายหนึ่งระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ขึ้นศาลทวงความเป็นธรรม ‘ค่าใช้จ่าย ภาระที่เพิ่มขึ้น’ ของไทบ้านผู้ไร้สิทธิสกลนคร
author
