ที่มาภาพ: Mondoi Ffc
2 เม.ย. 2558 ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง นางสาวรสนา โตสิตระกูล นางสาวบุญยืน ศิริธรรมพร้อมประชาชนจำนวนหนึ่งได้ยื่นหนังสือกับผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.35/2550 หรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 39 (จ)
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และผู้มีรายนามข้างท้าย ขอเสนอประเด็นและข้อเท็จจรองเพิ่มเจิมเพื่อประกอบการตรวจสอบ ดังนี้ 1.ประเด็นเกี่ยวกับโครงการท่อเส้นที่ 3 มีการวางท่อในทะเลซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งเป็นการใช้อำนาจมหาชนของรัฐมาตั้งแต่ยังเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และเป็นทรัพย์สินที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะต้องส่งมอบให้แก่ กระทรวงการคลังหรือไม่
2.ประเด็นเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ปลัดกระทรวงพลังงาน และอธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่และมีคำสั่งเกี่ยวกับแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวเป็นคณะกรรมการบริหารของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นการทำหน้าที่โดยชอบหรือไม่และมีผลต่อการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และมติคณะรัฐมนตรี หรือไม่เพียงใด
3.เนื่องจากประชาชนคณะหนึ่งได้ร้องเรียนเรื่อง ข้าราชการการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและประมวลจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 มาตรา 279 ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคำร้องฉบับนี้ ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนมีความเห็นและข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวถึงการจัดเวทีปฏิรูปพลังงาน ว่า ในวันที่ 8 เม.ย.เวลา 14.00 น. จะมีการจัดเวที “เดินหน้าประเทศไทย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยืน” โดยใช้ห้องประชุมที่ตึกสำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นสถานที่จัดเวทีดังกล่าว
โดยในวันที่ 3 เม.ย. จะทำหนังสือแจ้งไปยังภาคเอกชนและกระทรวงพลังงาน และเชื่อว่าเนื้อหาการหารือในครั้งนี้จะดีกว่าครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากขอบเขตเรื่องที่พูดคุยนั้นแคบลงมาแล้ว และบทสรุปจะสามารถนำไปประกอบการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ ส่วนผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายรัฐบาลที่ครั้งที่แล้วเป็นเพียงรองอธิบดีนั้นส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ปัญหาถึงแม้จะมีผู้ใหญ่เข้ามาร่วมประชุมก็ใช่ว่าจะตัดสินใจได้ทันทีและผู้เข้าร่วมประชุมครั้งที่แล้วถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติด้วยซ้ำ