เกิดเหตุไฟป่าลุกลามไหม้ป่าขุนช่างเคี่ยน พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ชม. ระดมทีมดับไฟภาคพื้นดินนับร้อย พร้อมเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนทางอากาศ ใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้ลดความรุนแรงลงได้
8 พ.ค. 2559 เพจเฟซบุ๊ก “จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com” โพสต์ลิงค์ข้อมูล “5 โมงเย็น ไฟไหม้ป่าบนดอยสุเทพอีกแล้วเหรอ” จากเว็บไซต์ www.cm108.com พร้อมภาพควันไฟขนาดใหญ่บริเวณดอยสุเทพ ในพื้นที่ป่าขุนช่างเคี่ยน เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ใกล้กับหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอัพเดทสถานการณ์ไฟไหม้ป่าโดยรวบรวมภาพถ่ายมุมต่างๆ ที่ส่งมาจากชาวเชียงใหม่
ที่มาภาพ: เว็บไซต์ www.cm108.com
ต่อมามีการโพสต์ข้อความระบุเพิ่มเติมว่า “19.50 น. ขยายวงเพิ่มขึ้นไฟไหม้ป่าดอยสุเทพเวลานี้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ตั้งแต่บ่ายแล้วเป็นกำลังใจให้ จนท.ดับไฟป่าครับ ถนนไม่มีต้องเดินเท้าเข้าในป่า ขึ้นเขาลงห้วยแบกน้ำที่หลังไปดับไฟ รถน้ำเข้าไปไม่ได้นะในป่า” และเพจดังกล่าวยังรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเป็นระยะ
สวท.เชียงใหม่ กรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลเมื่อเวลาประมาณ 00.20 วันที่ 9 พ.ค. 2559 ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของวันที่ 8 พ.ค. 2559 มีผู้พบเห็นกลุ่มควันเกิดขึ้นที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ใกล้กับบ้านขุนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ภายในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
เมื่อศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ได้รับแจ้งเหตุจึงส่งเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า จำนวน 60 คน พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสุเทพ องค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงเข้าไปยังที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงชัน รถบรรทุกน้ำไม่สามารถเข้าไปถึง ประกอบกับมีใบไม้แห้งที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีทำแนวกันไฟดักรอให้ไฟมาชน แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
กระทั่งเวลา 20.00 น. ไฟได้ลุกลามขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าจะสงบลง นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่บัญชาการดับไฟด้วยตัวเอง โดยขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยทหาร หน่วยกู้ภัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และชุดดับไฟป่าจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนับ 100 คน เข้าดับไฟป่า กระทั่งเวลา 24.00 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้บางส่วนแล้ว แต่ยังคงเหลือไฟป่าที่ลามในพื้นที่หน้าผาและมีความลาดชัน
ในช่วงเช้าวันนี้ 9 พ.ค. 2559 นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินซึ่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดได้สั่งการให้ส่งเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยฝนหลวงเข้ามาสนับสนุนดับไฟป่าเพิ่มเป็น 2 เครื่อง
ส่วน สาเหตุที่เกิดไฟป่าลุกไหม้ครั้งนี้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะมาจากฝีมือของคนที่ทำการจุดไฟ เพียงเพื่อผลประโยชน์บางประการ หรือไม่ก็เพราะความคึกคะนอง โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนและเข้าพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาคนที่ทำการจุดเพลิงครั้งนี้
ที่มาภาพ: Suraphong Phanwong
ด้านไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สถานีไฟป่า อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และกำลังพล จากมณฑลทหารบกที่ 33 ที่ช่วยกันทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าขุนช่างเคี่ยน เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งกำลังลุกลามอย่างหนัก ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นมา ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังและอุปกรณ์เข้าดับไฟอย่างต่อเนื่อง แต่จากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟได้ลุกลามเป็นแนวยาวกว่า 3 กิโลเมตร กินเนื้อที่ประมาณ 70 ถึง 100 ไร่
นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กล่าวว่า สาเหตุในเบื้องต้น คาดว่าจะเกิดจากการถูกมือดีแกล้งจุดไฟเผา โดยจุดขึ้นพร้อมกัน 4 จุด และเจ้าหน้าที่ไม่มีกำลังมากพอที่จะเข้าดับไฟป่าพร้อมกันทุกจุดได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้พยายามอย่างเต็มกำลังที่จะระงับไฟป่าไม่ให้ลุกลามมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไฟจะไม่ลุกลามเข้าเขตพื้นที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อย่างแน่นอน และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามเข้าเขตชุมชนแล้ว