อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ : จดหมายเตือนแก่คณะรัฐประหาร

อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ : จดหมายเตือนแก่คณะรัฐประหาร

20142405142709.jpg

อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์

ไม่เคยมีการรัฐประหารครั้งใดที่จะมีการต่อต้านเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและหลากหลายขนาดนี้ การก่อหวอดในช่วงแรกจะนำไปสู่ขยายตัวของการเคลื่อนไหวอย่างเป็นไปเองที่กว้างขวางและมีจำนวนมากๆ ขึ้น ลองคิดดูถึงคนจำนวนเป็นแสนที่กระจายประท้วง/คัดค้านตามหัวเมืองใหญ่ๆ พวกคุณ /คณะรัฐประหารจะทำอะไรได้ ต้องเตือนกันก่อนว่าวันที่คนเดินออกจากบ้านเพื่อแสดงตัวคัดค้านพวกคุณเป็นแสนนั้นกำลังจะมาถึง อีกไม่นาน

ที่ต้องเขียนเตือนพวกคุณ เพราะเป็นห่วงว่าพวกคุณอาจจะคิดผิดและตัดสินใจผิดในช่วงแรกที่ผู้คนเริ่มเคลื่อนไหวคัดค้านด้วยการใช้ความรุนแรงด้วยหวังว่าจะกำหราบให้สงบ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมตัว/กักขัง/ข่มขู่ ฯลฯ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความเจ็บปวดในสังคมเพิ่มมากขึ้น และยิ่งคุณใช้กำลังความรุนแรงเท่าใด คุณจะพบว่าคนเดินออกมาคัดค้านคุณมากขึ้นๆ

ผมอาจจะเดาอะไรผิดไปหลายอย่างหลายครั้ง เช่น เมื่อคุณประกาศกฏอัยการศึก ผมก็หลงคิดไปว่าคุณได้ไฟเขียวมาแค่การหาทางออกด้วยการเจรจา (ต้องขอโทษเพื่อนฝูงด้วยที่เดาผิด) แต่สำหรับอนาคตของการขยายตัวของคนคัดค้านพวกคุณ ผมเชื่อว่าผมไม่ผิด แม้ว่าก็ไม่อยากให้คุณทดสอบความคิดนี้หรอกนะ เพราะมันอันตรายเกินไปสำหรับสังคม แต่หากคุณไม่เชื่อ ก็ลองดู

ผมขอเสนอทางออกให้พวกคุณคิดและไต่ตรองให้ดีว่าพวกคุณจะลงจากหลังเสือได้อย่างไร ข้อเสนอของผม ประการแรกสุด คือ คุณต้องเข้าใจก่อนว่า “ เวลา” ที่พวกคุณมีอำนาจนั้นไม่นานและไม่มั่นคง ใน “ เวลา” อันสั้นนี้คุณจะทำอย่างไรให้พวกคุณอยู่ในอำนาจได้ ปฏิบัติการณ์ได้ และลงได้อย่างไม่บอบช้ำ (จริงๆ ควรจะได้รับโทษจากการรัฐประหารนะ แต่เอาเถอะ คุณคงหาทางออกในเรื่องนี้ไม่ยากนัก)

ประการที่สอง คุณต้องทำให้คนทั้งหมดรู้สึกว่าคุณเข้ามาเพื่อเป้าหมายที่ดีแก่สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคืนประชาธิปไตยให้แก่สังคม สำหรับเรื่องนี้ ผมคิดว่าวิธีการเดิมๆ ได้แก่ ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ใช้เวลาเป็นปีนั้นจะไม่มีพลังพอที่จะขวางกั้นแรงต่อต้าน ผมเสนอว่าคุณกำหนด “เวลา” ในการคืนประชาธิปไตยให้สั้นที่สุด โดยกลับไปใช้กรอบความสัมพันธ์ทางอำนาจชุดเดิม ได้แก่ รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 เพื่อจัดการเลือกตั้ง การกำหนด “ เวลา” ที่สั้นและให้ความหวังเช่นนี้ พอจะทำให้คนทนกับอำนาจของพวกคุณได้ในระดับหนึ่ง ผมขอเสนอให้คุณจัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 ภายในสามเดือน

ผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร พรรคไหนจะชนะหรือแพ้ก็เป็นเรื่องของสังคมที่จะตัดสิน และปล่อยให้สังคมร่วมกันเรียนรู้กันต่อไป

ประการที่สาม ระหว่างที่คุณใช้ “ เวลา” ของคุณ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดอำนาจในการกดดัน/ปิดกั้น การสื่อสารทางสังคมทุกรูปแบบ พวกคุณต้องทนหากมีคนด่าพวกคุณในสื่อสาธารณะมากขึ้นๆ เพราะอย่างไรคุณก็ปิดมันได้ไม่หมด คุณปิดมันมากเท่าไร “ เวลา” ของพวกคุณก็สั้นลงเท่านั้น แม้ว่าการสื่อสารทางสังคมทั้งหลายอาจจะเป็นไปแบบเดิมคือมีแต่การสร้างกระแสเกลียดชังกัน (เกลียดชังพวกคุณด้วย) แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่ออำนาจแก้ตรงนี้ไม่ได้ ปล่อยให้สังคมเติบโตและจัดการตัวมันเองดีกว่าอำนาจของพวกคุณ

ประการที่สี่ ภายใน “เวลา” ของพวกคุณ หากปรารถนาดีต่อสังคมจริงๆ ก็จัดพื้นที่กลางให้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนแต่ละกลุ่มเพื่อให้เข้าใจใน “ความเปลี่ยนแปลงของสังคม: ความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ” เพื่อที่จะทำให้คนทุกกลุ่มมองเห็นซึ่งกันและกันมากขึ้น

หากพวกคุณคิดและไตร่ตรองในเรื่องนี้ โดยเฉพาะ “เวลา” ของพวกคุณ ก็อาจจะทำให้คุณได้สร้างประโยชน์ทางการเมืองบ้างแก่สังคม อย่างน้อยก็ลดทอนโอกาสการใช้ความรุนแรงลงไป หากคุณไม่ตระหนักในเรื่อง “เวลา” ของพวกคุณ โอกาสที่ความขัดแย้งและความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจะเกิดขึ้น อาจจะรุนแรงและส่งผลลึกซึ้งต่อสังคมมากกว่าเหตุการณ์ปี พ.ศ.2553

ที่ผมเขียนเตือนมานี้ ไม่ใช่เพราะผมรักพวกคุณหรอกนะ ต้องบอกด้วยว่าผมโกรธมากที่พวกคุณทำรัฐประหารและผมเป็นคนหนึ่งในอีกเป็นแสนที่จะเดินออกมาคัดค้านพวกคุณ แต่นั้นแหละ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมไม่อยากเห็นสังคมต้องบอบช้ำไปกว่านี้

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ