14 เม.ย. 2559 สมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เผยแพร่ข้อมูลผ่านเพจ Human Rights Lawyers Association รายงานความเคลื่อนไหวของ สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) องค์กร Protection International และ สมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้ร่วมกันเข้าพบตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อยื่นเรื่องร้องทุกข์และขอให้พิจารณารับคดีลอบยิงนายสุพจน์ กาฬสงค์ และนายใช้ บุญทองเล็ก รวมทั้งคดีสังหารสมาชิกชุมชนคลองไทรพัฒนาคนอื่นๆ เป็นคดีพิเศษ
คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความจากสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) ชี้แจงว่า จากคดีลอบยิงสุพจน์ และคดีสังหารสมาชิกชุมชนคลองไทรพัฒนาคนอื่นๆ เป็นการคุกคามและสังหารที่ต่อเนื่องและเป็นขบวนการ เป็นคดีที่มีความซับซ้อน ยังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ เพราะผู้กระทำความผิดเป็นผู้มีอิทธิพลหรือมีผู้มีอิทธิพลสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
คุ้มเกล้า กล่าวด้วยว่า การที่มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ย่อมมีส่วนสำคัญที่ทำให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยปกติในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จในการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้แม้แต่คดีเดียว และการลอยนวลพ้นผิดจากการละเมิดสิทธิชาวชุมชนคลองไทรพัฒนาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้สมาชิกชุมชนต้องตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่อาจประสบเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตได้อีกในอนาคต
ทนายความจากสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้มีการดำเนินการลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็ว เพราะเกรงว่าหากนานไปพยานหลักฐานจะถูกทำให้สูญหายไป
ด้านบัณฑิต สังขนันท์ ผู้อำนวยการส่วนรับเรื่องร้องทุกข์ ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ซึ่งได้รับมอบหมายให้มารับเรื่องแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากอธิบดีติดภาระกิจ อธิบายว่า การรับเรื่องในกรณีนี้ สามารถเข้าช่องทางการรับเป็นคดีพิเศษได้ตามมาตรา 21 (2) คือเป็นคดีความผิดทางอาญาอื่นนอกจากตามที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ โดยต้องผ่านมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)
ผู้อำนวยการส่วนรับเรื่องร้องทุกข์ฯ อธิบายขั้นตอนเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อดีเอสไอรับเรื่องไว้แล้ว จะแจ้งผู้ยื่นเรื่องภายใน 2 วันว่ามีการรับเรื่องไว้แล้ว หลังจากนั้นก็จะประมวลเรื่องนำเสนออธิบดีเพื่อสั่งให้มีการสืบสอบสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งกระบวนการในขั้นตอนนี้น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 20 วัน หลังจากนั้นอธิบดีก็จะสั่งมอบหมายให้สำนักคดีพิเศษสำนักใดสำนักหนึ่งตามที่เห็นสมควรลงไปทำการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น แล้วนำเรื่องและพยานหลักฐานดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
บัณฑิต ยืนยันด้วยว่า จะเร่งดำเนินการโดยนำเรื่องเสนออธิบดีโดยเร็ว เพื่อพิจารณาสั่งการ ทั้งยังรับปากว่าจะช่วยเต็มที่ เพราะคดีนี้ก็เป็นคดีที่ประชาชนเดือนร้อน และเกิดมาหลายครั้งแล้ว
ด้านตัวแทนองค์กร Protection International ชี้แจงว่า กรณีการคุกคามสมาชิกชุมชนคลองไทรพัฒนา สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ที่ผ่านมามีผู้ถูกสังหารไปแล้วถึง 4 ราย และรายที่ 5 คือ นายสุพจน์ กาฬสงค์ ถูกรอบยิงบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีแกนนำชาวบ้านอีกหลายรายที่ถูกข่มขู่เอาชีวิต ดังนั้น ถ้ามีการรับคดีที่ผ่านมาเป็นคดีพิเศษ เรื่องราวปัญหาอิทธิพลในพื้นที่ก็จะถูกคลี่คลายตามไปด้วย ซึ่งตอนนี้มือปืนหย่ามใจมาก เพราะไม่ได้ถูกลงโทษ เนื่องจากกรณีล่าสุดในคดีสังหารนายใช้ บุญทองเล็ก ศาลเพิ่งมีคำพิพากษายกฟ้องไป
ทั้งนี้ สมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) รายงานด้วยว่า ในขณะที่คณะผู้ยื่นหนังสือเดินทางมาถึงที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีชายแปลกหน้า 2 คนเข้ามาแอบถ่ายภาพของคณะฯ เมื่อสอบถามชายร่างท้วมหนึ่งในสองคนได้อ้างว่าเป็นตำรวจในท้องที่ แล้วเดินหนีออกไปโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ Protection International ได้ขอให้ DSI ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาว่าชายทั้งสองเป็นใครและมีความต้องการอะไร เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการคุกคามอย่างหนึ่งซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของคณะที่มายื่นหนังสือด้วย
ต่อมาภายหลัง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอออกมาแจ้งแก่คณะฯ ว่า ชายสองคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ สภ. ทุ่งสองห้อง มาดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากมีการแจ้งข่าวไปว่าจะมีการชุมนุม