สืบพยานนัดแรกคดีน้ำมันรั่ว – ‘ประมงพื้นบ้านระยอง’ แถลงจี้ฟื้นฟูทะเลเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากร

สืบพยานนัดแรกคดีน้ำมันรั่ว – ‘ประมงพื้นบ้านระยอง’ แถลงจี้ฟื้นฟูทะเลเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากร

20162605234621.jpg

26 พ.ค. 2559 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดระยอง เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำมันดิบรั่วลงสู่ทะเลระยอง และสมาชิกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง เดินทางเข้าร่วมติดตามการสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในคดีน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลระยอง เมื่อปี 2556 

สืบเนื่องจากสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง ชาวประมงพื้นบ้าน และกลุ่มแม่ค้าผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (พีทีทีจีซี) บริษัทในเครือ ปตท. รั่วไหลออกทะเลในพื้นที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2556 รวม 429 ราย ได้ยื่นฟ้อง บริษัท พีทีทีจีซี ในฐานะผู้ก่อมลพิษ ต่อศาลจังหวัดระยอง โดยขอให้มีการชดใช้ค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ในการประกอบอาชีพและขอให้มีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติจากปัญหาน้ำมันรั่ว 

ทั้งนี้ ฝ่ายโจทก์ที่เข้าเบิกความสืบพยานในนัดแรกนี้ ได้แก่ นายสำออย รัตนวิจิตร นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือและระยอง และนายวีรศักดิ์ คงณรงค์ ผู้แทนชาวบ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนการกำหนดวันสืบพยานดังกล่าวล่าช้าเนื่องมาจากที่ผ่านมามีการไกล่เกลี่ยระหว่างคู่กรณีไม่ประสบผล ศาลนัดสืบพยานครั้งต่อไปวันที่ 7-8 มิ.ย. 2559

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2559 ศาลจังหวัดระยองนัดสืบพยานและเห็นควรให้มีการหารือเรื่องการทำแผนฟื้นฟูทรัพยากรทะเล ตามข้อเสนอของโจทก์ผู้เสียหาย ซึ่งบริษัท พีทีทีจีซี เห็นตามข้อเสนอ ชาวบ้านผู้เสียหายจึงระดมความคิดร่างแผนฟื้นฟูทรัพยากรทะเลระยองขึ้น เพื่อให้ทรัพยากรทะเลซึ่งขณะนี้อยู่ในสภาวะเสื่อมโทรมกลับมาสมบูรณ์ และเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ายื่นแผนฟื้นฟูทรัพยากรทะเลระยองต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และบริษัท ปตท. จำกัด ในฐานะบริษัทแม่ของบริษัท พีทีทีจีซี (คลิกอ่านข่าว: ยื่นแผนฟื้นฟูทะเล ‘กสม.-ปตท.’ ประมงพื้นบ้านระยองชี้ 3 ปีน้ำมันรั่ว สารพิษยังตกค้าง)

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 พ.ค.2559 โจทก์ในคดีนี้ พร้อมทนายความได้แถลงต่อศาลจังหวัดระยองว่าได้ส่งแผนฟื้นฟูเสนอแนวทางฟื้นฟูอ่าวระยองต่อบริษัท พีทีทีจีซี เคมีคอล จำกัด (มหาชน) แล้ว ส่วนตัวแทนบริษัทแถลงว่ายังไม่สามารถรับเงื่อนไขได้ ศาลจังหวัดระยองจึงเห็นควรให้สืบพยานต่อไปเนื่องจากการเจรจาไม่เป็นผล โดยนัดสืบพยานโจทก์ในวันนี้ (26 พ.ค.2559)

20162605234641.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ (26 พ.ค.2559) นายบรรเจิด ล่วงพ้น ตัวแทนสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง ได้นำสมาชิกสมาคมฯ และเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลระยอง อ่านแถลงการณ์ ‘ให้ดำเนินการฟื้นฟูทะเลระยองเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากร’ บริเวณริมถนน หน้าศาลจังหวัดระยอง 

แถลงการณ์ดังกล่าวตั้งคำถามถึงแนวทางหรือวิธีการอย่างไรในการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากแม้ว่าบริษัทฯ ได้มีการแก้ไขในบางส่วนแล้ว แต่การแก้ไขดังกล่าวยังไม่ตรงจุด และไม่ครอบคลุมปัญหาทั้งหมด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ก่อให้เกิดมลพิษดำเนินการฟื้นฟูตามแผนฟื้นฟูที่ได้เสนอไว้

 

แถลงการณ์
ให้ดำเนินการฟื้นฟูทะเลระยองเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากร

สืบเนื่องจากเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในอ่าวทะเลระยอง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท พีทีทีจีซี เคมีคอล จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ต่อศาลจังหวัดระยอง โดยเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2559 ศาลได้ทำการไกล่เกลี่ย ซึ่งบริษัทมีข้อเสนอว่า จะรับแผนฟื้นฟูทะเลระยองจากผู้ได้รับผลกระทบ และให้ดำเนินการส่งแผนฟื้นฟูให้บริษัทเพื่อพิจารณาก่อนวันที่ 17 พฤษภาคม 2559

ดังนั้น สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง และเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจึงได้ดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟู โดยในวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ตัวแทนสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยองและเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบได้ไปติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลในอ่าวทะเลระยองของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามที่ได้ร้องเรียน และได้ยื่นแผนฟื้นฟูต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม และในวันเดียวกันก็ได้นำแผนฟื้นฟูไปส่งมอบให้บริษัท พีทีทีจีซี เคมีคอล จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเป็นผู้รับไว้

ทั้งนี้ ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ทางสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง และเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบได้นำแผนฟื้นฟูไปยื่นต่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเพื่อรับทราบและหาแนวทางแก้ไขร่วมกันตามแนวทางของแผนฟื้นฟูทรัพยากรที่ได้นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระยองไว้ก่อนแล้ว

ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง และผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลที่อ่าวระยอง โจทก์ในคดีนี้ พร้อมทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน และทนายความเครือข่ายได้แถลงต่อศาลจังหวัดระยองว่าได้ส่งแผนฟื้นฟูเสนอแนวทางฟื้นฟูอ่าวระยองต่อบริษัท พีทีทีจีซี เคมีคอล จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ตัวแทนบริษัทแถลงว่ายังไม่สามารถรับเงื่อนไขได้ ศาลจังหวัดระยองจึงเห็นควรให้สืบพยานต่อไปเนื่องจากการเจรจาไม่เป็นผล โดยนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2559

สุดท้ายแล้วกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านและผู้ได้รับผลกระทบ ก็ยังไม่ทราบเจตนาของบริษัทว่าจะมีแนวทางหรือวิธีการอย่างไรกับการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่ทางบริษัทเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้น แม้ว่าบริษัทได้มีการแก้ไขในบางส่วนแล้ว แต่การแก้ไขดังกล่าวยังไม่ตรงจุด และไม่ครอบคลุมปัญหาทั้งหมด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ก่อให้เกิดมลพิษดำเนินการฟื้นฟูตามแผนฟื้นฟูที่ได้เสนอไว้ในเบื้องต้นแล้ว

เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลระยอง

สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง

 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ