สัมภาษณ์ จุลชีพ ชินวรรโณ: ‘ก่อการร้ายสมัยใหม่’ โลกเปลี่ยนไป ไทยเปลี่ยนตาม

สัมภาษณ์ จุลชีพ ชินวรรโณ: ‘ก่อการร้ายสมัยใหม่’ โลกเปลี่ยนไป ไทยเปลี่ยนตาม

ย้อนรอยเหตุวินาศกรรมอันที่เป็นที่จดจำในหน้าประวัติศาสตร์โลก 11 กันยายน 2544 ตึกเวิลด์เทรดเช็นเตอร์สัญลักษณ์แห่งโลกทุนนิยมของสหรัฐอเมริกาถูกเครื่องบินพาณิชย์ชนจนถล่ม เปลี่ยนโฉมหน้าของปฏิบัติการก่อการร้ายในอดีตเข้าสู่ยุคของ “การก่อการร้ายสมัยใหม่” ที่ทวีความรุนแรง และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น

14 ปี บทเรียนจากเหตุการณ์ 9/11 จนถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ แม้ขณะนี้ข้อเท็จจริงทางคดียังไม่สามารถสรุปได้ แต่เหตุการณครั้งนี้ได้สร้างกระเเสถกเถียงในสังคมไทยอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะประเด็น “การก่อการร้ายกลางเมืองใหญ่” และความเข้าใจเกี่ยวกับ “การก่อการร้ายสมัยใหม่”

เพื่อไขคำตอบบางประการของสังคม ทีมข่าวพลเมืองสัมภาษณ์ รศ.ดร.จุลชีพ ชินวรรโณ กีรตยาจารย์ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญการเมืองระหว่างประเทศ ผ่านมุมวิเคราะห์ “รูปแบบการก่อการร้ายสมัยใหม่”

20151009131721.jpg

000

Q: จากเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ทำให้มีกระแสพูดถึงการก่อการร้ายสมัยใหม่มากขึ้น อาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไร

การก่อการร้ายในปัจจุบันมีความแตกต่างจากในอดีตอย่างมาก แม้ว่าการให้คำจำกัดความเกี่ยวกับการก่อการร้ายอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ หรือหน่วยงานทางด้านความมั่นคงของอเมริกา หรือประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน ต่างก็ให้คำจำกัดความเรื่องนี้ที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปมักจะมีความเห็นคล้ายๆ กันว่า การก่อการร้าย อย่างเช่นการก่อการร้ายข้ามชาติ ก็คือการที่ใช้ความรุนแรง หรือการข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง ต่อสถานที่หรือหน่วยราชการ หรือบุคคลที่เป็นทางการ รวมทั้งประชาชนทั่วๆ ไป เพื่อสร้างความหวาดกลัว เพื่อสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจจะมีเป้าหมายทางการเมือง หรืออาจจะมีเป้าหมายอื่นๆ ด้วย 

ถ้าหากว่านั่นเป็นคำจำกัดความของการก่อการร้ายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ราชประสงค์ แม้ว่ายังไม่มีการยืนยันอย่างแน่นอนว่ามันเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ อาจจะเป็นเพราะว่าทางการกำลังหาข้อมูลอยู่ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ มันมีความรุนแรงเกิดขึ้นและมีคนเสียชีวิตอยู่ค่อนข้างมากทีเดียว มีคนบาดเจ็บเป็นจำนวนร้อย 

เพราะฉะนั้นเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ ความรุนแรงสมัยก่อนอาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ห่างไกลจากตัวเมือง แต่ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่า การใช้ความรุนแรง ใช้ระเบิด หรือการยิงกราด เกิดขึ้นในเขตเมืองค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นในฝรั่งเศส เราก็คงจะเคยได้ยินข่าว หรือที่ซิดนีย์ในออสเตรเลีย หรือในอีกหลายๆ พื้นที่ การใช้ความรุนแรงในลักษณะดังกล่าว ได้ย้ายจากรอบเมืองเข้ามาอยู่ในเขตตัวเมือง ซึ่งแต่ก่อนมักคิดว่าเขตตัวเมืองน่าจะปลอดภัยที่สุด เพราะว่ามีกำลังตำรวจ กำลังทหาร แต่มันไม่ใช่แล้ว ฉะนั้นการใช้ความรุนแรงในรูปแบบใหม่ๆ มันจะเกิดขึ้นค่อนข้างมาก และก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากขบวนการ มันอาจเกิดขึ้นจากกลุ่มคน อาจจะคนไม่กี่คนก็ได้ อย่างที่เราเคยได้ยินข่าวคราวในที่ต่างๆ 

Q: การก่อการร้ายมีพัฒนาการอย่างไรบ้าง

เราจะเห็นได้ว่าการก่อการร้ายเป็นปรากฏการณ์ที่มีมาแต่สมัยโบราณ สมัยก่อนจะเป็นการลอบสังหาร เวลาที่คุณไม่พอใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือไม่พอใจผู้นำคนใดคนหนึ่ง หรือไม่พอใจนโยบาย ก็อาจจะมีการไปลอบสังหารผู้ที่เป็นตัวแทนของทางการ ไม่ว่าจะเป็นในสมัยโบราณ ในตะวันออกกลาง หรือในสมัยโรมัน ไม่พอใจจูเลียส ซีซ่า ก็ลอบสังหารเลย หรือสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเราคงยังจำกันได้เกี่ยวกับการลอบสังหาร อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์ อะไรต่างๆ เหล่านี้ รวมทั้งผู้นำของยุโรปหลายคนในช่วงนั้นก็ถูกลอบสังหาร อันนั้นก็เป็นการก่อการร้ายรูปแบบหนึ่ง 

มาในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามเย็น เราก็จะเห็นได้ว่าการก่อการร้ายก็เปลี่ยนแปลงรูปไปเป็นการ Hijack (จี้เครื่องบิน) มี Hijack เครื่องบินเพื่อแลกเปลี่ยนกับพรรคพวกที่ถูกจับกุมอะไรต่างๆ เหล่านี้ หรืออาจจะมีการใช้ตัวประกัน การใช้ตัวประกันในการต่อรองกับทางการเกี่ยวกับเรื่องนโยบายหรือเรื่องอะไรต่างๆ ที่เขารู้สึกว่า เป็นเรื่องที่เขาได้รับความไม่เป็นธรรมหรือมีความไม่พอใจเกิดขึ้น

พอมาในยุคหลังสงครามเย็นขบวนการก่อการร้ายก็เริ่มที่จะมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะเห็นได้จากกรณีเหตุการณ์ 9/11 อันนั้นก็เป็นขบวนการ และเป็นขบวนการข้ามชาติด้วย คือมีผู้อยู่ในขบวนการจากหลายชาติต่างๆ และมีการปฏิบัติการที่มีการวางแผนเอาไว้อย่างดี มีการเตรียมการ แล้วก็เป็นการดำเนินการที่มีความรุนแรงค่อนข้างมาก มีความเสียหายมหาศาลทั้งในด้านของทรัพย์สิน และตัวบุคคล

หลังจากเหตุการณ์ 9/11 เราจะเห็นได้ว่าประเทศตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกาได้ใช้วิธีการต่างๆ ในการที่จะจัดการเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว ใช้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือทางด้านการทหาร เครื่องมือทางด้านการเมือง เครื่องมือทางด้านเศรษฐกิจ เรื่องการฟอกเงิน เรื่องอะไรต่างๆ เหล่านี้ รวมทั้งใช้การข่าวค่อนข้างมาก แล้วก็มาใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อย่างเช่น ใช้โดรนซึ่งก็ทำให้ขบวนการก่อการร้ายเช่น อัล-ไกดา ค่อนข้างที่จะอ่อนแอลงไปอย่างมากทีเดียว ในการก่อการร้ายมันก็เป็นสิ่งที่มีมาพร้อมกับมนุษยชาติที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ เมื่อถูกควบคุมมาในรูปแบบหนึ่ง 

อีกรูปแบบใหม่ที่เราเห็นก็คือขบวนการ ISIS ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ คือไม่ได้อยู่ในที่ลับแล้ว คราวนี้ก็เปิดตัว แล้วก็มีการจะสร้างเป็นรัฐขึ้นมาด้วย และใช้เครื่องมือใหม่ๆ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตในการหาสมาชิกหาผู้สนับสนุน หรือแม้แต่การโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหาผู้ที่อาจจะมีความเห็นอกเห็นใจในเรื่องต่างๆ เพราะฉะนั้นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามต่อหลายๆ ประเทศในโลก มันไม่ใช่ประเทศเฉพาะตะวันตกอย่างเดียว 

อีกทั้งการก่อการร้ายก็มีหลายรูปแบบ มีทั้งที่เป็นขบวนการ อย่างเช่นอัล-ไกดาในสมัยก่อน หรือว่าที่เป็นรัฐอย่างเช่น ISIS หรือดำเนินการโดยกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนที่อาจอาจจะไม่พอใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 

เพราะฉะนั้นเราอาจจะกล่าวสรุปได้ว่า พัฒนาการของการก่อการร้ายมีหลายรูปแบบ มีที่บางคนเรียกว่าเป็นเหมือนหมาป่าปฏิบัติการคนเดียว หรือปฏิบัติการเป็นกลุ่ม อันนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราอาจเรียกเป็น issue terrorism การก่อการร้ายโดยมีประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ที่ไม่พอใจในเรื่องนโยบาย ความไม่พอใจต่อบุคคลอะไรต่างๆ 

อันที่สองก็อาจจะเป็น international terrorism เป็นการก่อการร้ายเพื่อล้มรัฐบาล อย่างเช่นที่เราเห็นที่ซีเรียเหล่านี้เป็นต้น รวมทั้งการก่อการร้ายเพื่อการปลดปล่อย สมัยก่อนกลุ่มปาเลสไตน์ก็มีการก่อการร้ายเกิดขึ้นเพื่อการปลดปล่อย เพราะฉะนั้นมันจะมีหลากหลายรูปแบบมาก แล้วก็มีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

Q: แนวโน้มการก่อการร้ายในอนาคต

ผมคิดว่ามันจะมีการกระจายมากขึ้น ไม่กระจุกอยู่ในบางพื้นที่แล้ว แล้วก็จะเกิดขึ้นในเขตเมืองมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น มันจะเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่มีความไม่พอใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือมีความไม่พอใจในนโยบาย หรืออะไรต่างๆ เหล่านี้ เพราะว่าเทคโนโลยีที่จะใช้ก็อาจจะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไปผู้ก่อการร้ายอาจจะใช้โดรนก็ได้ ไม่เอาระเบิดใส่เป้แล้ว อาจจะเอาระเบิดประกอบแล้วก็ใส่โดรน เราก็อาจจะใช้เครื่องมือการบังคับทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ป้องกันลำบาก และนี่ก็คือความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น

Q: ประเทศไทยควรจับตามองการก่อการร้ายสมัยใหม่แบบนี้อย่างไร

ผมคิดว่าไทยเราจะต้องเฝ้าระวังเราก็ติดตามมากขึ้น เพราะฉะนั้นการข่าวย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญ อันนี้ก็คือบทบาทของทางการที่จะต้องติดตามให้มากขึ้น รวมทั้งการดำเนินนโยบายต่างๆ ต้องคำนึงไว้ว่ามันอาจจะมีผลกระทบที่อาจจะนำไปสู่การก่อการร้ายก็ได้ เพราะฉะนั้นการดำเนินนโยบายอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินนโยบายภายใน การดำเนินนโยบายต่างประเทศ ต้องพยายามที่จะหาทางปิดจุดอ่อนต่างๆ รวมทั้งการให้ข่าวสารข้อมูลด้วยเช่นเดียวกัน ต้องความระมัดระวังในการสื่อสารการให้ข้อมูลข่าวสาร

ผมคิดว่าในการให้ข้อมูลข่าวสารควรจะต้องมีคำอธิบาย ว่าทำไมเราจึงคิดแบบนี้ มันมีหลักฐานว่าอะไรบ้าง หรือมันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ให้เห็นว่าเราไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง จนกระทั่งมีหลักฐานที่ชัดเจน และที่สำคัญก็คือเฝ้าติดตาม เฝ้าระวังการติดตามข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่จะต้องมีการดำเนินการ รวมทั้งการร่วมมือกันในหมู่ประเทศอาเซียนด้วย 

กลุ่มประเทศอาเซียนหรือประเทศมหาอำนาจ อย่างเช่นอินเดีย รวมทั้งจีน และประเทศอื่นๆ ต่างฝ่ายต่างก็มีกลุ่มคนที่เขาจับตามองอยู่ ซึ่งอาจจะมาใช้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อไปปฏิบัติการในประเทศเขาก็ได้ หรืออาจจะปฏิบัติต่อคนของประเทศเขา ที่มาท่องเที่ยวอยู่ในประเทศอื่นก็ได้ 

สถานการณ์เรื่องก่อการร้าย เดี๋ยวนี้มันกระจายขยายตัว มีการวางแผนดำเนินการ และไม่จำเป็นว่าจะต้องดำเนินการด้วยบุคคลจำนวนมากหรือเป็นขบวนการอีกต่อไป อาจจะเป็นเพียงแค่กลุ่มคนไม่กี่คน ที่ไม่พอใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือไม่เห็นด้วยกับนโยบายในเรื่องหนึ่ง ก็อาจจะสามารถดำเนินการได้ เพราะฉะนั้นข่าวการติดตามสถานการณ์ของฝ่ายที่ดูแลในเรื่องความปลอดภัยต้องระมัดระวัง ประชาชนเองก็ต้องระมัดระวัง 

สำหรับทางการก็รู้ว่าในพื้นที่ตรงไหนของกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดที่มีคนต่างชาติมาอยู่ คนต่างชาติอาจจะมาท่องเที่ยว แต่ก็อาจจะมีคนอื่นที่แอบแฝงเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องติดตาม คนที่ให้เช่าอพาร์ทเม้นท์ก็ต้องคอยดูแลว่าใครมาเช่าเป็นอย่างไรบ้าง คนที่มาเช่าก็อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยก็ได้ เพียงแต่ว่าอาจจะทำให้สามี สามีก็มีเพื่อนมาใช้สถานที่อยู่ก็ได้ สิ่งเหล่านี้มันมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะต้องช่วยกันเฝ้าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ที่พักอาศัย วินมอเตอร์ไซค์เหล่านี้ หรือมีอะไรที่ผิดปกติ มีอะไรวางอยู่โดยไม่มีคนนั่ง คงจะต้องมีการแจ้งเตือน ทั้ง กทม. ทั้งฝ่ายตำรวจ ทั้งประชาชนก็ดี ผู้สื่อข่าวเองก็คงต้องเรียนรู้ว่า ถ้าเห็นอะไรแบบนี้เกิดขึ้น จะต้องทำอะไรกันบ้าง 

ผมคิดว่าทางการเขาก็ค่อนข้างจะระมัดระวังนะครับ เพราะว่าความจริงแล้วมันก็มีหลายปัจจัยในเมืองไทย เราก็รู้ว่ามันมีความขัดแย้งทั้งภายใน และก็มีความขัดแย้งเนื่องจากการดำเนินการต่างๆ เพราะฉะนั้น ถ้าหากยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดก็อย่าเพิ่งระบุไป แต่ควรจะบอกว่า มันอาจจะเป็น 1 2 3 แล้วอะไรเป็นเหตุผล 1 2 3 แล้วก็คอยเฝ้าดูว่าใครมีข้อมูลอะไร เหล่านี้นะครับ อันนี้ก็เป็นลักษณะการให้ข่าว 

แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าไปบอกว่ามันเป็นเรื่องภายในเลย ถ้าไม่มีหลักฐาน มันก็ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเครียดขึ้นภายใน อาจจะเกิดความรู้สึกขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นอันนี้ผู้ให้ข่าวก็อาจจะต้องมีความระมัดระวังให้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีการตักเตือนให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบด้วย เพื่อเขาจะได้ช่วยเหลือในการบอกเบาะแส หรือว่าอย่างน้อยๆ ก็ระมัดระวังตัวเองจากเหตุที่เกิดขึ้น 

สิ่งที่ผมคิดว่าจะต้องเฝ้าจับตามอง ก็คือว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกแห่ง Anywhere ล่ะก็ Anytime นะครับ ทางที่ดีก็คือว่า โลกในปัจจุบันมันไม่ได้ปลอดภัยเหมือนในอดีต อาจจะเป็นผลมาจากปัจจัยการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างนะครับ 

 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

Prev

May 2025

Next

Mon

Tue

Wed

Thu

Fri

Sat

Sun

28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1

26 May 2025

Nothing to show.

เข้าสู่ระบบ