วันนี้ (28 มกราคม 2557) สภาทนายความได้ออกประกาศเรื่องให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ได้รับความเดือดร้อนทางคดีในการถูกกล่าวหาทุกรายและทุกหมู่เหล่าให้สามารถขอรับความช่วยเหลือและขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับคดีที่ตนถูกกล่าวหา โดยเฉพาะในเรื่องการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการใช้สิทธิในการดำเนินคดีกับผู้กล่าวหาได้จากทนายความอาสาของสำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายโดยออกคำสั่งไว้ว่า
- ให้ทนายความอาสาประจำสำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความทั้งในส่วนกลางและทนายความอาสาในทุกเขตศาลจังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกับประธานสภาทนายความจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษาในการต่อสู้คดีให้แก่บุคคล คณะบุคคล เมื่อได้รับคำร้องขอทั้งทางโทรศัพท์ โทรสาร หรือจดหมาย โดยทันที
- ให้ทนายความอาสาของสำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ รายงานหมายเลขคดี พนักงานสอบสวน คำให้การโดยสรุปในเบื้องต้น ให้สำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายสภาทนายความเพื่อพิจารณาโดยเร็ว
- ให้อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ และเลขาธิการ เป็นผู้รับผิดชอบรวบรวมและจัดทำรายงานเสนอต่อคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายและควบคุม กำกับการปฏิบัติการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับทนายความอาสาแห่งสภาทนายความ
การออกประกาศครั้งนี้ เนื่องจากสภาทนายความเห็นว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการให้ความช่วยเหลือทางคดี และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายดังกล่าวด้วย นอกเหนือจากผู้ประสบอันตรายแก่ร่างกายและทรัพย์สินตามคำสั่งสภาทนายความ ฉบับที่ 275/2556 ที่ออกประกาศมาก่อนหน้านี้ เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ญาติผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นผลจากการชุมนุมประท้วงของ กปปส.กับการใช้กำลังสลายการชุมนุมของรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ไปแล้ว
แต่เนื่องจากยังมีกรณีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการชุมนุมเพิ่มมากขึ้นอีกซึ่งนับรวมผู้เสียชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขณะนี้มีมากถึง 10 ราย และยังมีผู้บาดเจ็บอีกนับร้อยราย ประกอบกับสภาทนายความเห็นว่าการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ของนายกรัฐมนตรีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบางอำเภอนั้น มีแนวโน้มที่ทางรัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวต่อไป ทั้งที่มีผู้ร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยการใช้อำนาจดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดเป็นประเด็นข้อกฎหมายขึ้นมาว่า คำสั่งของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวอาจเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรมและขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการดำเนินการในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ สภาทนายความเห็นว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการให้ความช่วยเหลือทางคดี และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายดังกล่าว จึงมีคำสั่งเพิ่มเติมในวันนี้
ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการรับความช่วยเหลือทางกฎหมาย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-327-8802, 086-327-8803, 086-327-8804, 083-096-5211, 083-096-5212, 083-096-5213, 083-040-8661, 083-040-8662, 083-040-8663, 083-040-8664 ตลอด 24 ชั่วโมง