สกน.ลำพูน จี้รัฐแก้ไขปัญหาทุจริตที่ดินลำพูน เร่งนำร่องธนาคารที่ดิน

สกน.ลำพูน จี้รัฐแก้ไขปัญหาทุจริตที่ดินลำพูน เร่งนำร่องธนาคารที่ดิน

20150907203501.jpg

เว็บไซต์มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ (มพน.) รายงานว่าเมื่อวันที่ 7ก.ค.2558 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดลำพูน ตัวแทนชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนจังหวัดลำพูน สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ประกอบไปด้วย อำเภอบ้านโฮ่ง, เวียงหนองล่อง และอำเภอป่าซาง ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และพันเอกบุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 (ลำพูน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ดินลำพูน 

นายสุแก้ว ฟุงฟู ผู้นำเครือข่ายปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ปัญหาที่ดินลำพูนเป็นปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน อย่างเช่นกรณีปัญหาโครงการจัดสรรที่ดินผืนใหญ่บ้านโฮ่ง – หนองปลาสวายเนื้อที่ 15,000 ไร่ เดิมเป็นที่ดินผืนใหญ่ที่ชาวบ้าน 3 ตำบล ใช้ประโยชน์ร่วมกัน คือ ตำบลศรีเตี้ย ตำบลหนองปลาสวาย อำเภอบ้านโฮ่ง และ ตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน โดยใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ครั้งปู่ยาตายาย 

ต่อมาในปี พ.ศ.2508 มีโครงการจัดสรรที่ดิน โดยกรมที่ดินให้ชาวบ้านเข้าลงชื่อจับสลาก เพื่อจะออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ทำกิน ให้กับชาวบ้านผู้ยากจน ไร้ที่ดินทำกิน แต่ชาวบ้านที่ได้รับใบจองไม่สามารถเข้าทำประโยชน์ได้เนื่องจากหาแปลงที่ดินไม่พบและบางแปลงซ้อนทับพื้นที่ทำกินของชาวบ้านอื่นที่ครอบครองที่ดินก่อนแล้ว จึงเรียกร้องให้มีการยกเลิกใบจองเพื่อจัดรูปแปลงใหญ่ให้ชัดเจนและถูกต้อง 

การเรียกร้องยืดเยื้ออยู่หลายปี สุดท้ายโครงการนี้ก็ถูกยกเลิกไป ประมาณปี พ.ศ.2532 กรมที่ดินได้ประกาศให้หลายท้องที่ใน จ.ลำพูน เป็นโครงการเร่งรัดเดินสำรวจออกโฉนดครอบคลุมพื้นที่ที่ดินผืนใหญ่หนองปลาสวาย ทำให้นายทุนที่อยู่ในพื้นที่ใช้ช่องว่างของกระบวนการออกเอกสารสิทธิ์ มายื่นขอเอกสารสิทธิ์ในที่ดินได้อย่างกว้างขวาง ภายหลังการออกเอกสารสิทธิ์ของนายทุน ได้มีการนำเอกสารสิทธิ์ที่ดินไปเป็นหลักทรัพย์ในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน แล้วปล่อยทิ้งร่าง กลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และเป็นสาเหตุหนึ่งของการล้มละลายของสถาบันการเงินและธนาคารที่ปล่อยแก่นายทุนเมื่อปี พ.ศ.2540 

ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้มีใบจองตามโครงการ 15,000 ไร่ กลับถูกกรมที่ดินจำกัดสิทธิ์ในการยื่นขอออกโฉนดที่ดิน โครงการจัดที่ดินผืนใหญ่หนองปลาสวายนี้ มีความเป็นมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ มีราษฎรเกี่ยวข้องจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกหลานก็ยังคงต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมมาอย่างต่อเนื่อง บ้างก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนต้องโทษจำคุก ผู้ตัดสินจำคุกบางคนก็เสียชีวิตในคุก

ทางด้านนางวัยศรี โปธาคำ ได้นำเสนอปัญหาบ้านสันตับเต่า ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง ว่า “มีนายทุนออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ป่าสงวนและเขตป่าถาวร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกทับพื้นที่ป่า จำนวน 19 แปลง แต่ในปัจจุบันนายทุนดังกล่าวกลับยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และยังมีการอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวบ้าน”

ด้านนายธนากร อัฏฐ์ประดิษฐ์ กองเลขาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ในฐานะคณะทำงานฯ เสนอให้ฝ่ายความมั่นคงและจังหวัดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับนายทุนที่บุกรุกป่าตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 64/2557 และให้จัดทำรายงานของการประชุมในวันนี้ไปยังประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินให้เร่งการดำเนินการโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 5 พื้นที่ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดลำพูนมีพื้นที่นำร่องทั้งหมด 4 พื้นที่ คือ บ้านแพะใต้, บ้านท่ากอม่วง,บ้านไร่ดง และบ้านแม่อาว

โดยข้อสรุปผลการหารือในวันนี้ตัวแทนชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดลำพูนได้มีข้อเสนอต่อแนวทางการดำเนินงานของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงดังนี้

ในพื้นที่ 15,000 ไร่ ท้องที่ 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ศรีเตี้ย บ้านศรีเตี้ย,บ้านศรีลาภรณ์, บ้านศรีเจริญ ตำบลหนองล่อง บ้านท่าช้าง, บ้านท่าหลุก ตำบลหนองปลาสวาย บ้านท่ากอม่วง, บ้านหนองเขียด เสนอให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ว่าออกโดยชอบหรือไม่

กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงบ้านสันตับเต่า ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง ว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยชอบหรือไม่ และ ขอให้ตรวจสอบการบุกรุก –ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าของนายทุนที่ได้มีการออกเอกสารสิทธิ์และถูกกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิไปแล้ว

กรณีการดำเนินการโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 4 พื้นที่ในจังหวัดลำพูน ได้แก่ บ้านแพะใต้ บ้านท่ากอม่วง บ้านไร่ดง และบ้านแม่อาว

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ