29 มิ.ย. 2558 วันที่ 3 หลังจากการเข้าควบคุมตัว 14 นักศึกษานักกิจกรรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สวนเงินมีมา และนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางดึกคืนนั้น โดยผู้ชาย 13 คนถูกส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ผู้หญิง 1 คนถูกส่งตัวไปทัณฑสถานหญิงกลาง การคุมขังผลัดแรก 12 วัน ครบกำหนดฝากขังในวันที่ 7 ก.ค.นี้
หมายจับลงวันที่ 26 มิ.ย.2558 ระบุ 2 ข้อหาคือ 1. ขัดคำสั่งที่ 3/2558 ข้อ 12 ที่คสช.ออกตามมาตรา 44 เรื่องห้ามมั่วสุมทางการเมือง โทษจำคุก 6 เดือน 2. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เรื่องการยั่วยุปลุกระดมประชาชนให้เปลี่ยนแปลงการปกครองหรือกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
ความเคลื่อนไหวล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ New Democracy Movement – NDM เผยแพร่ “จดหมายจาก 13 นักศึก ถึงพลเอกประยุทธ จันทรโอชา” ระบุข้อความสื่อสารจาก นักศึกษา-นักกิจกรรม 13 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดังนี้
จดหมายจาก 13 เชลย ถึงพลเอกประยุทธ จันทรโอชา
นับเป็นวันที่ สามแล้ว ที่เสรีภาพของพวกเราถูกคุมขังภายใต้คำสั่งของหัวหน้าคสช ที่ 3/2558 ภายในเรือนจำแห่งนี้
แม้ว่าเราจะมีอาหารให้กินครบสามมื้อ แต่ทุกๆมื้อ ก็เป็นการกินที่ปราศจากเพื่อน และคนที่เรารู้จักที่เคยร่วมโต๊ะอาหาร เราไม่เห็นแววตาพวกเขา และแน่นอนว่าพวกเราคิดถึงพวกเขา
แม้ว่าพวกเราจะมีที่หลับนอน มีชายคากันแดดและฝน แต่มันจะไม่เป็นเหมือนบ้าน ไม่มีรอยยิ้มของพ่อแม่ ไม่มีอ้อมกอดอบอุ่นจากคนที่เรารัก แม้ว่าเรายังมีลมหายใจแต่ก็เป็นลมหายใจที่ไกลห่างจากหนทางของความฝัน
ลมหายใจที่เรามีอยู่ในวันนี้ เป็นลมหายใจที่รอคอยการพบกับเสรีภาพในวันข้างหน้า โดยที่เราไม่รู้ว่า เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะยังมีความฝันอยู่หรือไม่ แม้เรามีกำลังใจที่เต็มเปี่ยม เมื่อนึกถึงการต่อสู้ของเพื่อน ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดยหวังหลักการห้าข้อ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธี
เราอธิษฐานให้ พลเอกประยุทธ จันทรโอชา ผู้ออกคำสั่งในการจองจำเราได้ตระหนัก และเข้าใจถึงความสำคัญของหลักการดังกล่าว
ลงชื่อ
เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ
13 เชลย ขบวนการประชาธิปไตยใหม่
29 มิย 58 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก พลเมืองโต้กลับ Resistant Citizen ยังเผยแพร่ภาพบริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันนี้ (29 มิ.ย.2558) ซึ่งมีนักศึกษา ประชาชน นักวิชาการ และญาติของนักศึกษา นักกิจกรรมที่ทยอยเดินทางเข้าไปให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในเพจ ดาวดิน สังกัดพรรคสามัญชน โพสต์บันทึกการเยี่ยมเพื่อนตั้งแต่วันแรกที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ให้ข้อมูลถึงกระบวนการของการเข้าเยี่ยม พร้อมระบุการจับกุมกลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรม ทั้ง 14 คน ไม่ได้ทำให้หมดกำลังใจ ยืนยันสู้ต่อไปเพื่อนำประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
บันทึกการเยี่ยมเพื่อน… ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เราจะไม่ทิ้งกัน
เช้าวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2558 วันแรกของการเข้าเยี่ยมเพื่อนซึ่งวันนี้เขาได้กลายเป็นนักโทษการเมือง หลังจากพวกเขาที่ถูกจับกุมตัวตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 26 มิถุนายน 2558 และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเราที่ก้าวเข้ามาในเรือนจำ สถานที่ที่ใครหลายคนไม่อยากจะเกี่ยวข้องนัก เพราะการอยู่ในเรือนจำนั้นหมายถึงการที่จะต้องถูกคุมขัง สูญสิ้นอิสรภาพ
พวกเราสามสี่คนออกจากที่พักประมาณ 8 โมงกว่าๆ มุงหน้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ (เรือนจำคลองเปรมฯ) ซึ่งเจ้าหน้าที่นำเพื่อนกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ชาย 13 คน มาฝากขังผลัดแรก 12 วัน ส่วนผู้หญิงอีก 1 คนนำไปฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
นั่งรถแท็กซี่ราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงที่หมาย … เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
การเข้าเยี่ยมเพื่อนทั้ง 13 คน ค่อนข้างยุ่งในช่วงแรก เพราะต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งเยี่ยมญาติทั้ง 13 แผ่น พร้อมกับถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและเซ็นกำกับอีก 13 ชุด จากนั้นไม่นานก็มีญาติรวมถึงเพื่อนๆ มากหน้าหลายตาตามมาสมทบ หลายคนสลับกันไปถ่ายสำเนาบัตรประชาชน สลับกันมาเขียนแบบฟอร์ม
เมื่อยื่นเอกสารแจ้งเยี่ยมญาติ รอเจ้าหน้าที่ปั๊มรอบที่จะได้เข้าเยี่ยมลงบนมือแล้ว เราได้เข้าเยี่ยมเพื่อนๆ ในเวลา 12.30 – 12.50 น.
ข้อมูลที่เรารับรู้ คือ จันทร์ถึงศุกร์คือวันที่อนุญาตให้เยี่ยมผู้ต้องขังได้ วันเสาร์เยี่ยมได้เสาร์เว้นเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์เรือนจำปิดไม่มีการเยี่ยม และสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้งต่อคน โชคดีหน่อยที่วันเสาร์นี้ ตรงกับวันที่ให้เข้าเยี่ยมได้พอดี ในระหว่างเวลาเยี่ยมจะไปถึงกี่โมงก็ได้ เมื่อไปถึงก็ยื่นเรื่องขอเยี่ยม แต่จะได้เยี่ยมจริง เวลากี่โมงก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นมีคนมาขอเยี่ยมมากน้อยแค่ไหน แต่ควรเดินทางมายื่นคำร้องเยี่ยมผู้ต้องขังแต่เช้า เพราะแต่ละวันมีคนมาเยี่ยมเป็นจำนวนมาก หากมาช้าอาจได้รอบเกือบท้ายๆ หรือไม่ทันเยี่ยม
ตอนนี้ขั้นตอนของทางเรือนจำคือตรวจร่างกายผู้ต้องขัง และทำประวัติทุกคนที่เข้ามาในแดนแรกรับ บางรายมีไข้เล็กน้อย บางรายมีบาดแผลที่เท้า แพทย์ได้ให้ยาลดไข้และรักษาบาดแผลให้แล้ว
พอถึงเวลาตามนัดหมาย เจ้าหน้าพาพวกเราเข้าไปข้างในห้องเยี่ยม… ห้องสี่เหลี่ยม ยาวประมาณ 6 เมตร ที่มีกรงเหล็กกั้นระหว่างคนข้างในกับคนข้างนอก แถมมีกระใสหนาๆ ปิดทับอีก 1 ชั้น มีโทรศัพท์บ้านสำหรับใช้สื่อสารประมาณ 8 คู่ และมีเก้าอี้ให้นั่งคุยทั้งข้างในและข้างนอก
เราทุกคนรอการปรากฏตัวของเพื่อนทั้ง 13 คน อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากเวลาที่จะพูดคุยมีเพียง 20 นาที และยังต้องแข่งกันพูดกับคนข้างๆ
วินาทีแรกที่พวกเราได้พบหน้ากัน สิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มเพื่อนที่เผยออกมาบนใบหน้า เราทุกคนรีบปรี่เข้ามายังโทรศัพท์ เพื่อจะพูดคุยกันระหว่างกรงเหล็กที่ขวางกั้น ผลัดกันถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างคนข้างในและคนข้างนอก โทรศัพท์บางเครื่องก็ใช้งานไม่ได้ เราจึงตัดสินใจคุยกันผ่านภาษามือบวกกับการอ่านปาก
สายตาเริ่มแดงก่ำของพวกเขา…
จมูกค่อยๆ เปลี่ยนสีเป็นชมพูระเรื่อ…
สิ่งที่ไม่อาจกล่าวออกมาผ่านคำพูด กลายเป็นน้ำใสๆ ไหลออกทางตาแทน นั่นไม่ได้หมายความ ว่าพวกเขาอ่อนแอ แต่เป็นน้ำตาแห่งความปิติ ที่เห็นเพื่อนมาเยี่ยมและพูดคุยให้กำลังใจจำนวนมาก
คนข้างในบอกเราว่า… สถานการณ์อย่างนี้การติดคุกเป็นเรื่องปกติ อยู่ในหรือนอกคุกมีเสรีภาพไม่ต่างกัน คนข้างในยังคงยืนยันที่จะไม่ประกันตัว เขาบอกว่าสบายดี กำลังใจดี ตอนนี้ยังได้อยู่ด้วยกันอยู่ ขอให้คนข้างนอกเข้มแข็ง และสู้ต่อไป
ส่วนเรื่องข้าวของเครื่องใช้จำเป็นต้องซื้อใหม่ทั้งหมด เราจึงได้ระดมทุนช่วยกันเพื่อซื้อให้กับพวกเขา
สำหรับเรา ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่ก่อตัวกันขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2558 ไม่ได้มีแค่ นักศึกษา แต่ยังมีประชาชนที่เห็นด้วยในแนวทางตามหลักกำปั้น 5 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนร่วมกันต่อไปทั้ง หลักประชาธิปไตยต้องให้พลเมืองทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเสมอหน้าอย่างเท่าเทียมกัน หลักความยุติธรรม ที่จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคม ปราศจากสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม
หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดวิถีชีวิตตนเอง รัฐบาลต้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว หลักสิทธิมนุษย์และสิทธิชุมชนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องเคารพและรัฐบาลต้องหยุดละเมิดสิทธิประชาชน และหลักสันติวิธี คือการแก้ไขปัญหาทางการเมืองต้องปราศจาการใช้ความรุนแรง หรือนำมาสู่เงื่อนที่ก่อให้เกิดความรุนแรง
การจับกุมเพื่อนเราทั้ง 14 คน ในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้หมดกำลังใจไปแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน เรายังมีไฟต่อสู้เพิ่มมากขึ้น และยิ่งทำให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการกดขี่นี้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเพิ่มขึ้น
พวกเรายังสู้ต่อ เพื่อล้มเผด็จการทหาร และจะนำประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวของนักวิชาการและบุคคลที่เป็นที่รู้จักในสังคมในโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊ก หลังกรณีการถูกคุมขังของ 14 นักศักษาและนักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับการทำกิจกรรมของพวกเขา อาทิ
จดหมายถึง น.ศ.14 คนผมไม่รู้ว่าได้เคยสอน น.ศ. 14 คนนี้บ้างหรือไม่ แต่คงจะไม่ใช่ประเด็นในขณะนี้แต่อยากจะขอบอกกับพวกคุณ…
Posted by Chawin Lee on Sunday, June 28, 2015
ตอนนี้มีนักศึกษากลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่พยายามสร้างภาพว่าเป็นนักศึกษาหัวก้าวหน้า มีอุดมการณ์ มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง …
Posted by กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา สนับสนุนลุงตู่ on Saturday, June 27, 2015
ผมคือเพื่อนของ ปกรณ์ อารีกุล หนึ่งในผู้ถูกทหารจับปกรณ์ อารีกุล ชื่อเล่นว่า แมน (คนที่สามจากขวามือ) เป็นเพื่อนรุ่นน้อง …
Posted by Vanchai Tantivitayapitak on Sunday, June 28, 2015
บ้านเมืองยังไม่ปกติดี————-ผมเลิกเขียนเรื่องการเมืองมาสักพักแล้ว…ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ผมเขียน ผมมีความตั้งใจเดียว…
Posted by Wannasingh Prasertkul (วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล) on Friday, June 26, 2015
เราคือเพื่อนกัน 1เพื่อนๆ ผู้อ่านครับ สมมุติว่า อยู่มาวันหนึ่งมีบริษัทแห่งหนึ่งได้รับอนุญาตให้ทำเหมืองทองคำบริเวณใกล…
Posted by Roundfinger on Sunday, June 28, 2015
หนุ่ย อภิสิทธิ์ หนึ่งใน 14 นักศึกษาที่ถูกควบคุมตัว หนุ่ยเป็นลูกศิษย์ของผมที่ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศ…
Posted by Decharut Sukkumnoed on Friday, June 26, 2015
นายรังสิมันต์ โรม หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า “โรม” เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มธ กำลังจบการศึกษา เป็นนิติศาสตรบัณฑิตในอีกไม่ก…
Posted by Piyabutr Saengkanokkul on Friday, June 26, 2015
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
คลิกอ่าน: ประมวลภาพ-คลิป: ‘นศ.ดาวดิน-หอศิลป์ฯ’ ในนาม ‘ประชาธิปไตยใหม่’ เดินสายเยือนอนุสรณ์วีรชน
คลิกอ่าน: จับแล้ว! 14 นศ.-นักกิจกรรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ไป สน.พระราชวัง
คลิกอ่าน: ศาลทหารอนุญาตฝากขัง 14 นศ.-นักกิจกรรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 12 วัน