ท่าทีบุคคลและกลุ่มต่างๆ หลังการรัฐประหาร 2557

ท่าทีบุคคลและกลุ่มต่างๆ หลังการรัฐประหาร 2557

20142305162005.jpg

หลังการประกาศยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เราได้รวบรวมความคิดเห็นของบุคคลสำคัญ และนักเคลื่อนไหวในประเทศไทย เพื่อสำรวจท่าทีหลังการรัฐประหาร

3 ข้อเสนอของรสนา

รสนา โตสิตระกูล ได้เขียนในเฟซบุ๊คส่วนตัว https://www.facebook.com/rosana.tsk ข้อความว่า ประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 10/2557 ได้กำหนดให้อำนาจของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นของหัวหน้า คสช. หากหัวหน้า คสช. ต้องการแสดงความจริงใจว่าที่ต้องทำรัฐประหารเพื่อแก้ปัญหารีบด่วนของประชาชนที่รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกระทำได้ ภารกิจเร่งด่วนที่ควรดำเนินการทันทีเพื่อหยุดความเดือดร้อนของชาวบ้านจากปัญหาความไม่เป็นธรรม ก็จะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนทุกกลุ่มในสังคม และสร้างความชอบธรรมให้กับคสช.ในการควบคุมอำนาจในครั้งนี้ ได้แก่

  1. การหาเงินมาจ่ายหนี้ชาวนาโดยทันที เพราะขณะนี้เป็นฤดูกาลที่ชาวนาต้องเริ่มการเพาะปลูกแล้ว
  2. ควรให้ยุติการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเพื่อลดความเดือดร้อนด้านปากท้องของชาวบ้าน และเพื่อตรวจสอบโครงสร้างราคาในระยะต่อไป
  3. แก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนโดยเร่งด่วน

 

Catch Me If You Can : บก.ลายจุด

ขณะที่ สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่ คสช. มีคำสั่งให้เข้าพบ ก็ได้เขียนไว้ในเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/nuling ว่า หลังจากแถลงการณ์ของคณะรัฐประหารได้ประกาศรายชื่อบุคคลให้ไปรายงานตัว และได้ปรากฎชื่อผมด้วยนั้น ผมขอแจ้งให้ทราบว่า ชีวิตเคยไปรายงานตัวตอนสอบเข้าเรียนเท่านั้น นอกจากนั้นไม่เคยไปรายงานตัวเลย อีกอย่างผมไม่ยอมรับอำนาจคณะรัฐประหาร การออกประกาศเหล่านี้จึงไม่สามารถบังคับจิตใจผมได้

จากนั้น บก.ลายจุด ยังได้โพสต์อีกว่า ใครลองไปยื่นเรื่องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความหน่อยว่า ประยุทธ์ทำแบบนี้ ยังถือว่าชอบโดยรัฐธรรมนูญอยู่หรือเปล่า?


 

สปป.ต่อต้านรัฐประหาร

ด้านสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยแห่งชาติ (สปป.) https://www.facebook.com/NationalAssemblyForTheDefenceOfDemocracy ได้มีการเชิญชวนร่วมลงชื่อต่อต้านการรัฐประหาร ผ่าน http://tinyurl.com/pqx32xa พร้อมกับข้อความ

“อย่างที่เราทราบกัน ในขณะนี้ คณะรัฐประหาร พยายามทุกวิถีทาง ในการทำลายเครือข่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตย ปิดกั้นสื่อ และการรับรู้ข่าวสารของประชาชน ช่องทางสื่อสาร และแสดงความคิดเห็น ทุกเส้นทางถูกบล็อก ทางสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยแห่งชาติ จึงสร้างช่องทางสำรอง เพื่อติดต่อกับประชาชนในเครือข่าย โดยใช้แบบฟอร์มที่แนบมานี้ ข้อมูลทุกอย่างที่กรอก จะถูกเก็บไว้เป็นความลับ และการติดต่อกลับ จะใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น” ข้อความจาก สปป.


 

JOURNALISM IS NOT A CRIME – ประชาไท

ขณะที่เว็บไซต์ข่าวที่มักถูกปิดอยู่เสมอเมื่อมีสถานการณ์วิกฤติทางการเมืองอย่างประชาไท ยังสามารถเผยแพร่ข่าวได้ผ่าน http://prachatai.com/slim โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีข้อความด้านบนของเว็บเป็นตัวหนังสือสีขาวภายใต้พื้นสีดำว่า “JOURNALISM IS NOT A CRIME – ประชาไท”


 

เด็กกับการเมือง : รัฐประหารเป็นเรื่องของเด็กๆ

ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.) จึงออกแถลงการณ์เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านรัฐประหาร โดยขอเรียกร้องให้มีการคืนอำนาจอธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็วดังนี้

ด้านศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.) ได้ออกแถลงการณ์ในนาม “ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย : Young People for Social-Democracy Movement, Thailand (YPD.)” มีเนื้อหาคัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย โดยมีข้อความดังนี้

เนื่องด้วยวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ได้ทำการยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการณ์และในเวลา 19:10 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 ให้งดใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ยกเว้นหมวดที่สอง (พระมหากษัตริย์) ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดลง ให้วุฒิสภา ศาล และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติหน้าต่อไป ซึ่งเป็นการทำรัฐประหาร ล้มอำนาจประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ทางศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย(YPD.)จึงขอแสดงจุดยืน “คัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย”

โดยขอเรียกร้องให้มีการคืนอำนาจอธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว เพราะการรัฐประหารเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นที่จะทำลายสังคมประชาธิปไตยในระยะยาว อาจจะยุติความขัดแย้งเฉพาะหน้าได้ แต่บทเรียนในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้ก็เป็นบทพิสูจน์ว่า การรัฐประหารจะสร้างความขัดแย้งที่บาดลึกและยาวนาน

ทั้งนี้เพื่อการเฝ้าระวังและจับตา ติดตาม ตรวจสอบการใช้อำนาจของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ทางศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD.) จึงขอให้ เยาวชน ประชาชน และผู้มีใจเป็นประชาธิปไตยทั้งหลาย ร่วมกันเฝ้าสังเกตพฤติกรรมการใช้อำนาจของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” ดังต่อไปนื้

  1. การแต่งตั้งทหารและบริวารพวกพ้องมาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆและกระทำการโดยไม่ เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชน
  2. จับตาสภานิติบัญญัติที่จะตั้งขึ้นใหม่โดยอำนาจของคณะรัฐประหารว่าจะออก กฎหมายใดๆก็ตามที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและไม่ได้เป็นไปเพื่อผล ประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชนหรือไม่
  3. จับตาการต่ออายุราชการของผู้นำทางการทหารใน “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ”
  4. จับตาและเฝ้าระวังการพยายามบังคับให้บุคคลสูญหายซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง
  5. เร่งให้เกิดการมีอิสรภาพของสื่อสารมวลชนอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
  6. จับตาการต่อรองผลประโยชน์ที่ลงตัวของชนชั้นนำที่ทำการรัฐประหารและถูกรัฐประหาร

ทั้งนี้อยากให้สังคมไทยคำนึงถึงบทเรียนของนานาประเทศและประเทศไทยเอง ว่าหลังเกิดการทำรัฐประหารเกิดอะไรขึ้นกับสังคมบ้าง ใช้เหตุใช้ผลในการขับเคลื่อนและรักษาระบอบประชาธิปไตย ยกระดับคุณภาพของประชาธิปไตย สร้างพลเมืองที่มีจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตย เพราะเราจะสร้างสังคมประชาธิปไตยไม่ได้เลย หากขาด อิสรภาพ ความยุติธรรม และความสมานฉันท์ เพื่อประชาธิปไตยและความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ


 

“รัฐประหาร” คือจุดเริ่มต้นของการปฎิรูปประเทศ : สมเกียรติ อ่อนวิมล

ด้านนายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวชน และแกนนำ กปปส. ก็ได้เขียนบทความไว้ในเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/somkiat.onwimon ชื่อบทความ วันเริ่มต้นการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของเรา ให้สมบูรณ์” โดยมีเนื้อหาระบุว่า ความตกต่ำของประเทศชาติอันเกิดจากระบอบการเมืองโดยเหล่าพวกนักการเมืองผู้ทุจริตคอร์รัปชั่นและไร้คุณธรรมประชาธิปไตย ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา กำลังจะผ่านไป และจะต้องไม่มีวันกลับมาอีก 

วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราคนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันปฏิรูปประเทศ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของเรา 

วันนี้เป็นวันที่เราต้องเริ่มรวมหัวใจและสรรพกำลัง ความคิด ความรู้ ความสามารถ มุ่งมั่น สร้างประเทศไทยของเราใหม่ ให้ใหม่ทั้งหมดทุกมิติ ให้ยิ่งใหญ่ เจริญ มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่แพ้ชาติใดในโลก

ไม่ว่าเราจะมีส่วนร่วมกับ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ-คสช” ในรูปแบบใดก็ตาม ทั้งช่วยสนับสนุนร่วมมือในการงานที่จะนำบ้านเมืองไปสู่ความเจริญ ทั้งช่วยคิด ตำหนิเตือน วิพากษ์ คัดค้านการใดที่ไม่เหมาะควร และ เสนอแนะแนวทางที่ดีกว่า

เราต้องพยายามหาโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมเคียงบ่าเคียงใหญ่กันทุกคนอย่างเสมอภาคกัน ในรูปแบบต่างๆ ให้ชาวโลกรู้ว่า เราคนไทยต้องการสร้างสังคมที่ดีกว่าเพื่อลูกหลานและอนาคตอันรุ่งเรืองของ “ราชอาณาจักรไทย”

ไม่เพียงแต่ว่าเราจะต้องปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นสังคมประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น

แต่เราต้องปฏิรูปประเทศไทยของเราในทุกด้าน ให้เป็นราชอาณาจักรที่พลเมืองทุกคนมีความสุขอย่างบริบูรณ์

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ