ชุมชนวนาสวรรค์ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ชุมชนชายแดนที่มีเสน่ห์และเรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ และเชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จักที่นี่ วนาสวรรค์ ชุมชนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดไพรพัฒนา สถานที่เก็บสรีรสังขารของหลวงปู่สรวง กับฉายาที่ลูกศิษท์ลูกหารู้จัก คือ เทวดาเดินดิน พระเกจิชื่อดังแห่ง จ.ศรีสะเกษ และชุมชนวนาสวรรค์ ยังอยู่ไม่ไกลจากด่านชายแดนช่องสะงำ ด่านสำคัญที่จะผ่านข้ามไปยังประเทศกัมพูชา คือ เมืองอัลลองเวง เสียมเรียบ นครวัด นครธม บันทายศรี
บ้านนาสวรรค์ เดิมชื่อ “บ้านนาละลาย” เมื่อราวปี พ.ศ.2533 เปลี่ยนชื่อตาม “โรงเรียนวนาสวรรค์เนื่องจากต้องการมีชื่อที่ไพเราะ มีความหมายที่ดี เพราะเดิมที่ “นาละลาย” มีความหมายในด้านลบ ชาวบ้านจึงมีมติร่วมกันให้มีการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น “บ้านวนาสวรรค์” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี-พันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร บ้านวนาสวรรค์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2543 และทรงช่วยเหลือโดยการรับราษฎรเป็นสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพ เกิดการพัฒนาชุมชนจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ในปี พ.ศ. 2564-2565 บ้านวนาสวรรค์ได้ถูกคัดเลือกเป็นชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี ได้ไปศึกษาดูงานจากหลากหลายที่ เพื่อนำมาพัฒนาของดีในชุมชน สามารถต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้ และปัจจุบันคนในชุมชนถูกสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอภูสิงห์ จนมีความพร้อมที่จะนำเสนอของดี สู่สายตาคนภายนอก ผ่านการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ รอต้อนรับสู่วนาสวรรค์
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน กิจกรรมหลัก ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมที่ 1.2 จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่นักท่องเที่ยวลงมือปฏิบัติ Decentralized Hands – on Program Exhibition หรือ D-HOPE ขึ้น เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งระบบ มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ สร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว และมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวในสาขาที่มีศักยภาพ แต่ยังคงรักษาจุดเด่นของประเทศ ด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อัตลักษณ์ความเป็นไทย ตลอดจนให้คุณค่ากับสิ่งแวดล้อมไว้ได้ เกิดการสร้างสรรค์ชุมชนพึ่งตนเอง ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัวอย่างสมดุล สร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยใช้ อัตลักษณ์ของท้องถิ่นสร้างมูลค่าและความคุ้มค่าผ่านการท่องเที่ยว โดยการค้นหาผู้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Champion) ในการเป็นกลไกขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่นักท่องเที่ยวลงมือปฏิบัติ (D-HOPE) อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
10 Champ 10 ผู้ประกอบการชุมชน
ป่าชุมชน ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวและทดลองใช้ชีวิตของคนท้องถิ่นกับกิจกรรมเดินป่าตามล่าหาวัตถุดิบ เพื่อนำมาประกอบอาหาร จากผืนป่าชุมชนในแบบฉบับของคนวนาสวรรค์ เรียนรู้วิถีความเป็นอยู่ระหว่างคนกับป่าก่อนจะเป็นป่าชุมชนได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ทำการกั้นเขตระหว่างเขตทำกินกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กรรมการหมู่บ้านจึงได้ไปขอกั้นเขตป่าชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านได้เข้าไปทำมาหากินในบริเวณป่าชุมชน มีการปลูกไม้เสริมป่า มีทั้งไม้ป่าและไม้ที่เป็นอาหาร คือ ไผ่ หวาย ปัจจุบันต้นไม้โตแล้วชาวบ้านสามารถเข้าไปหาอาหารตามฤดูกาลได้ ฤดูฝนจะมีเห็ด ชาวบ้านก็จะเข้าไปหาเห็ด ไม่ว่าใครเข้าไปในป่าก็จะได้เห็ดกับมากินทุกคน ป่าเป็นแหล่งอาหาร เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ไม่ต้องใช้เงินทองจ่าย สามารถเข้าไปเก็บอาหารได้เลยตามฤดูกาล ฤดูแล้งก็จะเป็นฤดูหาไข่มดแดง ฤดูฝนจะได้ หน่อไม้ หวาย เห็ด มาประกอบอาหารตามฤดูกาลได้ ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่าย จากที่เราต้องไปใช้จ่ายอยู่ตลาด เพราะเข้าไปเก็บในป่าไม่ต้องเสียเงินแค่เก็บมาประกอบอาหารมีเพียงพอแน่นอน อาหารตามฤดูกาลมันจะมีอยู่ตลอด
เลี้ยงผึ้งป่า พรานบ้านนอก นี่คือกิจกรรมสุดท้าทายที่จะท้าให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือปฏิบัติกับการเป็นพรานป่าเลี้ยงผึ้งโพรง โดยการอาศัยระบบนิเวศจากผืนป่าชุมชน จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแห่งบ้านวนาสวรรค์ ที่จะมาช่วยให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับผึ้งป่าที่หลายคนเชื่อว่ามีพิษ ถูกกัดต่อยถึงกับเข้าโรงพยาบาล แต่ประสบการณ์นี้จะทำให้คุณทึ่งไปเลยว่าผึ้งเหล่านี้จะไม่กัดต่อยคุณ แม้ว่านำมาถือไว้ ใกล้ ๆ โดยไม่ป้องกันอะไรเลยก็ตาม ปลายฝนต้นหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน ผึ้งจากผืนป่าชุมชนและเทือกเขาพนมดงรัก จะเริ่มออกหาอาหารและน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ป่า ช่วงนี้เองเป็นเวลาที่เหมาะสมของทีมงานพรานบ้านนอกอย่างขุ่ย ที่จะเริ่มตั้งกล่องหรือโพรงจำลองเพื่อล่อให้ผึ้งจากป่าเข้ามาทำรังเพื่อเก็บรักษาน้ำหวาน ราวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ผึ้งจะเข้ามาอยู่ในโพรงสร้างรังและเก็บสะสมน้ำหวานไว้เยอะมาก ปลายเมษายน-พฤษภาคม คือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวผลผลิตหากเฉลี่ยเป็นรายได้ต่อวันก็จะตกอยู่ที่ 1,000-4,000 บาท ต่อวัน ซึ่งผึ้ง 1 กล่องหรือโพรงจะให้น้ำผึ้งอยู่ราว ๆ 1.5 กิโลกรัม เมื่อนำมาใส่บรรจุภัณฑ์จะอยู่ที่ 1 ขวด ขนาด 1.5 ลิตร
อาหารสวรรค์บ้านนา วนาสวรรค์ ชุมชนมีทรัพยากรค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ คนในชุมชนมักจะหาอยู่หากินรอบ ๆ ชุมชน กลุ่มอาหารบ้านวนาสวรรค์ มีสมาชิกประมาณ 4 คน รับทำอาหารช่วงงานบุญให้กับชุมชน จุดเด่นของอาหารเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ วัตถุดิบหาได้ในชุมชน เมนูอาหารแนะนำ คือ ยำดักแด้ ของหวานจากมันเพิ่ม สามารถหาได้ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว มีความหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหนียว อร่อย แกงหวาย และผักหวาน ซึ่งผักหวานหาเก็บได้ช่วงเดือนที่ 4-5 ของทุกปี ส่วนหวายสามารถกินได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมี ลาบเทา ไข่ผำ ที่หาได้จากลำห้วยและฝายใกล้ชุมชน อ่อมหนูป่า/หนูนา หมาน้อยเป็นของทานเล่น ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น สะตอ มะขาม มะไฟ ลำไย แก้วมังกร ขนุน กล้วย เป็นต้น
ยังมีอีกมากมาย ที่นักท่องเที่ยวจะได้ลงมือปฏิบัติจริง
สามารถแสกนคิวอาร์โค้ดเข้าไปชม ไปอ่าน ผ่าน E-Book ที่ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอภูสิงห์ ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป้นเอกสารแนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวของชุมชนวนาสวรรค์ อีกด้วย