จาการ์ตา, 12 กุมภาพันธ์ 2557 – กรีนพีซเปิดตัว “ไทเกอร์ แมนิเฟสโต” ซึ่งเป็นแถลงการณ์จากกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือ โดยเรียกร้องให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องไม่มาจากการทำลายป่า การทำลายป่าเป็นตัวเร่งให้สัตว์ป่าเช่นเสือสุมาตราในอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันมีเหลืออยู่ไม่ถึง 400 ตัวนั้นเข้าข่ายใกล้สูญพันธุ์ และแคมเปญนี้ก็ได้รับความสนใจเข้าร่วมจากนักแสดงระดับโลกมากมายหลายคน
“ผมเพิ่งได้รู้เรื่องการทำลายป่าฝนเขตร้อนอย่างล้างผลาญในอินโดนีเซีย เพื่อแผ้วถางปลูกปาล์มน้ำมันและต้นไม้เพื่อผลิตกระดาษ มันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อชาวอินโดนีเซียหลายล้านคนที่ยังมีวิถีชีวิตพึ่งพาผืนป่า แต่มันยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เสือสุมาตราตกอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตและเราควรจะร่วมมือกันให้สัตว์ที่มีความพิเศษนี้เป็นส่วนหนึ่งของอนาคตของเราด้วย” มันเป็นความเห็นของ โจอาควิน ฟีนิกซ์ นักแสดงชาวอเมริกันคนดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในภาพยนตร์เรื่อง แกลดิเอเตอร์, วอล์ค เดอะ ไลน์ และล่าสุดภาพยนต์เรื่อง เฮอร์
ส่วนนักแสดงชาวอังกฤษ จิลเลี่ยน แอนเดอร์สัน ก็แสดงความคิดเห็นเช่นกัน “เมื่อคิดถึงว่าสิ่งสวยงามบนโลกของเรากำลังตกอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการบริโภคอย่างเห็นแก่ตัวของเราเอง ฉันก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที ฉันคิดว่า เรา ในฐานะเพื่อนสัตว์โลก ต้องทำทุกวิถีทางด้วยอำนาจที่มีเพื่อหยุดยั้งไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น”
คริสติน โบเอร์ นักแสดงชาวอเมริกัน ซึ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งของไทเกอร์ แมนิเฟสโต ก็บอกว่า “ผืนป่าของอินโดนีเซียเป็นสิ่งมีค่าต่อเราทุกคน ป่าเป็นปอดของโลก เป็นบ้านของมนุษย์และเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์นานับชนิด รวมทั้งเสือสุมาตรา แต่หากเราไม่หยุดยั้งการทำลายป่า ป่าทั้งหมดจะหายไป เราไม่ต้องการที่จะเลือกความเจริญเติบโตไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่คือเหตุลผลที่ฉันร่วมเป็นอีกหนึ่งเสียงในไทเกอร์ แมนิเฟสโตนี้ ร่วมกับดิฉันและกรีนพีซเคลื่อนไหวไปพร้อมกันทั่วโลกเพื่อปกป้องป่าของเราตั้งแต่วันนี้”
เคลแลน ลุตซ์ นักแสดงชาวอเมริกัน ซึ่งผูกพันกับประเทศอินโดนีเซียผ่านการทำงานบนแผ่นฟิล์มบอกว่า “ผมใช้เวลาสามเดือนถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘จาวา ฮีท’ ในอินโดนีเซีย และตกหลุมรักชาวอินโดฯ วัฒนธรรมและสัตว์ป่าที่นั่นอย่างหมดหัวใจ เสือสุมาตราในอินโดนีเซียอาจจะหมดไปหากเรายังไม่หยุดทำลายป่าเพื่อทำไร่ปาล์มน้ำมัน ป่าที่เป็นบ้านนี้เป็นที่พักพิงของเสือ ช้างและอุรังอุตัง ที่อาศัยร่วมกันอย่างพึ่งพากัน ผมไม่ต้องการให้ป่าผืนสุดท้ายของอินโดนีเซียหายไป หรือไม่ได้ทำอะไรเมื่อมีโอกาสที่จะทำเพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติขนาดใหญ่โตของอินโดนีเซีย ช่วยกันแสดงให้โลกรู้ว่า เรากล้าที่จะปกป้องป่าและร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องผืนป่าสวรรค์ของอินโดนีเซีย”
ด้าน อิซาเบล ลูคัส นักแสดงชาวออสเตรเลีย บอกว่า “ลองนึกภาพดูหากคุณจะต้องบอกลูกหลานของคุณว่า คุณรู้ว่า เสือสุมาตราที่น่าหลงใหลนั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมาก และคุณก็เพียงมองดูมันด้วยความเสียใจแต่ไม่ทำอะไรเลยจนมันสูญพันธุ์ไปจริงๆ เรายังมีโอกาส ช่วยกันลงนามในไทเกอร์ แมนิเฟสโต นี้ด้วยกัน”
นิกกี้ รีด นักแสดงชาวอเมริกัน ให้ความเห็นต่อเสือสุมาตราซึ่งเหลืออยู่ไม่ถึง 400 ตัวว่า “เราต้องทำทุกวิถีทางที่ทำได้ปกป้องถิ่นอาศัยของมัน โปรดร่วมกับเราและกรีนพีซ เคลื่อนไหวพร้อมกันทั่วโลกเพื่อปกป้องสรวงสวรรค์นี้”
รายงานจากกรีนพีซระบุด้วยว่า ปาล์มน้ำมัน เป็นส่วนประกอบเกือบครึ่งในผลิตภัณฑ์ครัวเรือนแทบทุกชนิด และการทำปาล์มน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อการทำลายป่าไม้ในอินโดนีเซีย ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2554 พื้นที่ป่ามากมายมหาศาลมากกว่า 1 ล้านเฮกเตอร์ ในสุมาตราที่ถูกแผ้วถางผ่านสัมปทานรัฐเพื่อปลูกปาล์มน้้ำมันนั้นล้วนเป็นถิ่นอาศัยของเสือ
บุสตาร์ ไมทาร์ หัวหน้าฝ่ายรณรงค์ด้านป่าไม้ประเทศอินโดนีเซีย กรีนพีซสากลกล่าวว่า “เราไม่ต้องทำลายป่าเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน แต่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เราต้องใช้อยู่ทุกวันล้วนทำให้เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายป่า การปกป้องป่าไม้และเสือสามารถทำได้ ซึ่งไทเกอร์ แมนิเฟสโต ของกรีนพีซนี้ได้นำทุกภาคส่วนที่ร่วมในอุดมการณ์นี้มาร่วมกันประกาศเรียกร้องต่อผู้ผลิตให้ยุติการกระทำดังกล่าว”
แถลงการณ์ ไทเกอร์ แมนิเฟสโต มีขึ้นในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนแรกของการรณรงค์พร้อมกันทั่วโลกในการรักษาถิ่นอาศัยของเสือสุมาตราและเพื่อกำจัดปาล์มน้ำมันที่ได้มาจากการตัดไม้ทำลายป่าออกไปจากผลิตภัณฑ์ที่เราใช้
“ประชาชนหลายพันคนในอินโดนีเซียและทั่วโลกกำลังเริ่มปฏิบัติการปกป้องเสือ แต่เรายังต้องการคนอีกมากที่จะลงชื่อในไทเกอร์ แมนิเฟสโต เพื่อร่วมกันประกาศปกป้องเสือสุมาตราและผืนป่าให้ยังคงอยู่ต่อไป กรีนพีซจะยังคงเดินหน้าเปิดโปงบริษัทต่างๆ ที่ยังคงเดินหน้าผลิตสินค้าจากผืนป่าที่ถูกทำลาย ในขณะที่ผู้บริโภคไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการคุกคามสัตว์ที่มีความพิเศษเช่นนี้” บุสตาร์ กล่าว
การณรงค์ผู้คนทั่วโลกโดยกรีนพีซและองค์กรพัฒนาเอกชนอื่นๆ ได้มีส่วนทำให้บริษัทวิลมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นผู้ค้าปาล์มน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ยอมให้คำมั่นสัญญาที่จะปกป้องผืนป่า และแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างลอรีอัล ยูนิลีเวอร์ เฟอร์เรโร และเนสท์เล่ ก็ได้ร่วมให้คำมั่น แต่เรายังต้องการปฏิบัติการที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อปกป้องผืนป่าที่ยังหลงเหลืออยู่
สำหรับโครงการ “ไทเกอร์ แมนิเฟสโต” เพื่อปกป้องบ้านหลังสุดท้ายของเสือสุมาตรา สามารถลงชื่อเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้ที่ www.protectparadise.org