เทศบาลนครแม่สอดเข้าร่วมการประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ระดับตำบล ในพื้นที่ อำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ อำเภอแม่ระมาด
ที่ หอประชุมสมัครสรรพการโรงเรียนสรรพวิทยาคม ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด มอบหมายให้ นายกรรณ กันฑ์นิล รองนายกเทศมนตรีนครแม่สอด พร้อมด้วย รองปลัดเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล และเจ้าหน้าที่กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลนครแม่สอด เข้าร่วมประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากระดับตำบล ในพื้นที่ อำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ และอำเภอแม่ระมาด ซึ่งในครั้งนี้ นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี นายอำเภอแม่สอด นายอำเภอแม่ระมาด และปลัดอำเภอพบพระ พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 3 อำเภอ เข้ารับฟังการประชุมและชี้แจง ในครั้งนี้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจาก กรมพัฒนาที่ดิน กรมธนารักษ์ โยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้ให้คำชี้แจงและแนะแนวทางดำเนินการ โดยการจัดการประชุมในครั้งนี้ด้วยเห็นว่าคณะทำงานในระดับตำบลเป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ทั้ง 14 ตำบล เพื่อให้ได้มีความรู้ความเข้าใจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และรับรู้ รับทราบถึงข้อมูลพื้นฐานของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงภาระกิจหน้าที่ของคณะทำงานในระดับตำบล และสามารถนำไปขยายผลต่อเนื่องในการลงพื้นที่ให้ความรู้กับประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง
นายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการเปิดคลินิกนักลงทุนระดับจังหวัดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2558 โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นศูนย์รวมข้อมูลให้กับนักลงทุนที่จะมาลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก จึงได้มีการเปิดคลินิกนักลงทุนระดับตำบล ในวันที่ 26 มิถุนายน 2558 โดยจะอยู่รวมในคณะทำงานระดับตำบลทั้ง 14 ตำบล เพื่อให้คณะทำงานระดับตำบลลงสำรวจพื้นที่ของตนเองและทำเป็นข้อมูลเตรียมพร้อมให้แก่นักลงทุนที่สนใจลงทุนในแต่ละตำบลโดยเน้นให้คณะทำงานระดับตำบลได้มีบทบาท ในการประสานงานกับนักลงทุนได้โดยตรง
ด้านนายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้กล่าวถึงคำสั่งจากท่านผู้ว่าราชการหลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับคำสั่งจากพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการสำรวจหาผู้ที่เป็นผู้เดือดร้อนตัวจริงจากคำสั่งตามมาตรา 44 ในพื้นที่ตำบลท่าสายลวดและตำบลแม่ปะ จะดำเนินการเยียวยาให้มากที่สุดและจะดำเนินการตามข้อเสนอของผู้เดือดร้อนให้ดีที่สุด และไม่มีการยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 ในพื้นที่ ที่ประกาศไปแล้ว ด้านการดำเนินการที่ดินจะเป็นอำนาจของกรมธนารักษ์ในการดำเนินการ โดยจะไม่ผ่านระดับจังหวัด หากมีผู้ที่เดือดร้อน หรือมีข้อข้องใจในเรื่องของที่ดิน ให้ทำการประสานไปทางนายอำเภอแต่ละอำเภอเพื่อส่งต่อไปยังกรมธนารักษ์เพื่อดำเนินการต่อไป
ภาพ / ข่าว ศิริพันธ์ นันทะศิริ
////////////////////////////////////////////////////////////////