สร้างโมเดล”เวียงแหงปลอดเหล้าและสิ่งเสพติด” นายอำเภอนั่งประธานที่ปรึกษาจัดตั้งคณะทำงาน บูรณาการทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559 นายฉัตรชัย สุวรรณวงศ์ นายอำเภอเวียงแหง นั่งเป็นประธานประชุมเครือข่ายประชาคมงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พระครูกันตศีลนุยุตร เจ้าคณะอำเภอเวียงแหง ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมหัวหน้าหน่วยงานราชการต่างๆ

การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้องค์กรในท้องถิ่นประสานความร่วมมือจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างบูรณาการ และมีกลไกในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนระดับอำเภอ โดยให้เป็นโครงการตัวอย่างในการบูรณาการทุกหน่วยงาน พร้อมกันนี้ยังเชื่อมโยงกับโครงการหมู่บ้านศีล 5 ตามที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายก่อนหน้านั้น

“ การทำงานหมู่บ้านศีล 5 ไม่เพียงแต่จะทำงานในเชิงปริมาณเท่านั้น แต่เราควรคำนึงถึงคุณภาชีวิตที่ประชาชนจะได้รับ เช่น คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างไร อบายมุขในชุมชนลดมากน้อยเพียงใด อันนี้อยากจะให้ติดตามประเมินผลที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เพราะที่ผ่านมามีหลายหมู่บ้านที่กำหนดเป็นหมู่บ้านศีล 5 แต่ไม่มีการทำงานใด ๆ ในบางอำเภอถึงขนาดต้องมีการขอเปลี่ยนรายชื่อหมู่บ้าน ” พระครูสมุห์วิเชียร คุณธัมโม,ดร. ประธานเครือข่ายประชาคงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ได้กล่าวต่อที่ประชุม

ด้านนายฉัตรชัย สุวรรณวงศ์ นายอำเภอเวียงแหง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ““ระหว่างเข้าพรรษาถือว่าช่วงเป็นช่วงโลซีซั่นของร้านคาราโอเกาะในอำเภอเวียงแหง เพราะไม่มีคนเข้าไปดื่ม ส่วนตัวก็เห็นว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้พักผ่อนร่างกาย โดยเฉพาะตับ เพราะหากจะกล่าวในทางวิชาการแล้วถือว่าตับสามารถกำจัดของเสียได้เพียงเบียร์หนึ่งกระป๋องเท่านั้น “ พร้อมกันนี้ท่านยังได้เสนอจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะที่ผ่านมาไม่มีกลไกการทำงานที่ชัดเจน ขณะที่ พระครูกันตศีลนุยุตร เจ้าคณะอำเภอเวียงแหงเสนอแนะว่า “ขอให้แต่ละฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเกิดของเรา แม้ว่าสถานการการดื่มสุราจะไม่มากนักถ้าเปรียบเทียบกับอำเภออื่นๆ ส่วนใหญ่จะดื่มในช่วงเทศกาล วันสำคัญ หรือในช่วงพิธีกรรมเลี้ยงผีของชาวบ้านเท่านั้น แต่ก็ไม่ถือว่าดื่มจนขาดสติ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ถือว่าผิดศีล 5 ตามหลักพระพุทธศาสนา อยากให้พวกเราในฐานะผู้นำดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างให้กับชาวบ้าน “ นอกจากนี้ท่านยังกล่าวให้กำลังใจว่า การทำงานเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะทำเพื่อสนองนโยบายของรัฐเท่านั้น แต่ผลประโยชน์ยังตกเป็นของชุมชน ชาวบ้าน ลูกหลานที่จะสืบทอดชุมชนในอนาคตอีกด้วย