ชาวบ้านจี้ให้ คณะ สนช. เร่งช่วยแก้ปัญหาการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของหน้าด่านชายแดนถาวรช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ระบุภาครัฐไม่มีแผนพัฒนาและชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบ ทั้งที่มีปัญหาหลายด้านหมักหมม มานานหลายปี
จากการที่มีตัวแทนชาวบ้านตำบลช่องเม็ก ได้สะท้อนปัญหาให้คณะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ให้เร่งช่วยแก้ปัญหาในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ที่หน้าด่านชายแดนถาวรช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้นักลงทุนภาคเอกชนสามารถเข้ามาลงทุนการก่อสร้างด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่พักโรงแรม เพื่อรองรับการเติบโต และสามารถรองรับให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมและข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ให้ได้มีโอกาสได้พักค้างแรมที่ด่านช่องเม็ก ซึ่งจะเป็นส่วนที่จะเพิ่มเม็ดเงินจำนวนมหาสารให้กับคนในพื้นที่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาที่ดินบนพื้นที่ด่านช่องเม็กนั้น ส่วนใหญ่เป็นที่ดินราชพัสดุ ทำให้นักลงทุนไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆได้ ส่งผลให้ช่องเม็ก ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
ขณะที่นายกล้าณรงค์ จันทิก คณะกรรมการด้านกางเมือง สนช.ระบุว่า จะต้องให้ทางด่านศุลกากรช่องเม็ก ได้เร่งศึกษาในด้านนี้โดยตรงเพื่อเปิดช่องทางให้นักลงทุนได้เข้ามาดำเนินการด้านสถานที่พัก โรงแรมได้
ด่านชายแดนช่องเม็ก มีปัญหาในหลายด้านที่หมักหมุมมานานหลายปี โดยเฉพาะแผนการพัฒนาหน้าด่านที่ไม่มีความชัดเจน ทั้งการแบ่งโซนการค้า โซนที่พักอาศัยของชาวบ้านและโซนการขนส่งคมนาคม และกรณีข้อพิพาทระหว่างรัฐกับชาวบ้าน ที่รัฐพยายามที่จะผลักดันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแปลงสิบสาม ออกจากพื้นที่โดยที่ผ่านมาไม่มีการพูดคุยกับชาวบ้านที่ชัดเจน
เหตุผลว่าทำไม ช่องเม็กยังไม่สามารถพัฒนาด้านการค้าและการท่องเที่ยวได้เป็นรูปธรรม ยังไม่มีใครสามารถกล้าออกมาพูดได้อย่างเต็มปาก ทั้งที่จุดนี้มีหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแล สองหน่วยงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการพัฒนา ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีแผนและคำชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบถึงทิศทาง
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ หากมีการเปิด เออีซีในสิ้นปีนี้แล้ว ใครจะได้ประโยชน์จากพื้นที่ หากยังไม่มีการชี้แจงแผนพัฒนาของช่องเม็กให้คนในพื้นที่รับทราบ คนที่จะได้ประโยชน์อาจจะไม่ใช่ชาวบ้านคนเจ้าของพื้นที่ก็เป็นได้///////
//////ภานุภพ ยุตกิจ ทีมข่าวภูมิภาค รายงาน//
สามารถติดตามเนื้อหาข่าวอื่นได้ที่ https://www.facebook.com/ศูนย์ข่าวช่องเม็ก