แกนนำเยาวชนเครือข่ายสลัมสี่ภาค จัดกิจกรรมอบรมคนรุ่นใหม่ในชุมชนเมืองใหม่มาลัยทอง เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ หวังดึงศักยภาพของเยาวชนในพื้นที่ เตรียมปั้นเป็นนักพัฒนาคนรุ่นใหม่ ผ่านองค์ความรู้ใกล้ตัว
ร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะแห่งความสุขคือภาพของกระบวนการอบรม ที่แกนนำเยาวชนเครือข่ายสลัม 4 ภาค จัดให้กับกลุ่มเยาวชนและคนรุ่นใหม่ในชุมชนเมืองใหม่มาลัยทอง เมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ความรู้ทั้งการใช้ยาสามัญประจำบ้านและการดูแลสุขภาพ เช่น สรรพคุณยา การใช้ยาในสถานการณ์ที่เจ็บป่วย และทดลองตรวจสุขภาพผู้ปกครองในบ้าน ถูกถ่ายทอดโดยวิทยากรจากคลินิกพริบตา นอกจากนี้ยังมีกระบวนการสร้างการความเป็นผู้นำที่อยากดูแลชุมชนให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก ๆ ด้วย
คมสันติ์ จันทร์อ่อน กองเลขาฯ เครือข่ายสลัมสี่ภาค กล่าวว่า เดิมทีเครือข่ายสลัมสี่ภาค เข้ามาดูแลประเด็นสุขภาพในพื้นที่ชุมชนเมืองใหม่มาลัยทอง มาตั้งแต่เหตุการณ์โควิด-19 อยู่แล้ว ระหว่างนั้นได้เห็นถึงวิถีชีวิตของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หลายรายที่ต้องใช้เวลาทำงานเลี้ยงชีพเป็นเสียส่วนใหญ่ ประกอบกับตัวเด็ก ๆ และเยาวชน มีเวลาจำนวนมากหลังเลิกเรียน จึงคิดว่าน่าจะใช้เวลาส่วนนี้ สร้างกิจกรรม พัฒนาศักยภาพของเยาวชนเป็นเยาวชนต้นแบบในพื้นที่ได้
“เราให้ทีมเยาวชน เครือข่ายสลัมสี่ภาคลงพื้นที่ เพื่อพูดคุยกับเด็ก ๆ ว่าเขาสนใจอยากทำงานพัฒนาไหม โดย ครั้งแรกที่จัด เสนอเป็นการอบรมเรื่องการใช้ยาสมัญประจำบ้านและการดูแลสุขภาพ เพราะทางชุมชนเองก็มีอาสาสมัครสุขภาพ (อสส.) อยู่เเล้ว ปรากฏว่าเด็ก ๆ ให้ความสนใจ และอยากเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพตัวเอง” คมสันติ์ กล่าว
กองเลขาฯ เครือข่ายสลัมสี่ภาค เล่าว่า ทีมเยาวชนจัดอบรมในชุมชนเมืองใหม่มาลัยทองมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก เป็นการอบรมการใช้ยาสามัญประจำบ้านและการดูแลสุขภาพ ส่วนครั้งล่าสุด เป็นการจัดค่าย 3 วัน ในชุมชนเมื่อวันที่ 14 – 16 ก.ค. 2565 เพื่อเรียนรู้ เข้าใจชุมชนตัวเองมากขึ้นผ่านคิดวิเคราะห์ และฝึกวางแผนการพัฒนาชุมชนตนเอง
คมสันติ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าคนในชุมชนเมืองใหม่มาลัยทอง เดิมอาศัยอยู่ในชุมชนริมทางรถไฟโค้งอโศก ถ.ดินแดง แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ และประสบปัญหาถูกเอกชนเจ้าของที่ดินเตรียมฟ้องขับไล่ เมื่อปี 2558 เพื่อนำที่ดินมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เนื่องจากชุมชนมีการรวมกลุ่มเป็นหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายศูนย์รวมพัฒนาชุมชน 12 ชุมชน ในเครือข่ายสลัมสี่ภาค จึงใช้การเจรจาต่อรองเพื่อแก้ปัญหา โดยมีเครือข่ายสลัมสี่ภาคเป็นที่ปรึกษา
ผลของการเจรจาได้ทางออกร่วมกัน คือ เจ้าของเอกชนที่ดินไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายฟ้องร้องชาวบ้าน ส่วนชาวบ้านชุมชนริมทางรถไฟโค้งอโศกที่โดนรื้อย้าย เจ้าของที่ดินย่านชุมชนริมทางรถไฟโค้งอโศก จะให้พื้นที่อยู่อาศัยใหม่รองรับ เป็นพื้นที่เขตคลองสามวา ที่อยู่ในซอยนิมิตรใหม่ 22 เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ชาวบ้านเมื่อย้ายมาที่นี่ จึงตั้งชื่อชุมชนใหม่ว่า เมืองใหม่มาลัยทองใน โดยอาศัย มา 7 ปีแล้ว
“ชื่อเมืองใหม่ที่สะท้อนการอพยพโยกย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ ส่วนมาลัยทองนั้น คืออาชีพของคนส่วนใหญ่ในชุมชนประกอบอาชีพนั้นคือ ร้อยมาลัย มีทั้งร้อยเอง ขายเอง และส่งให้คนอื่นขาย” คมสันติ์ กล่าว
คมสันติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในชุมชนเมืองใหม่มาลัยทอง คนรุ่นเก่า ต้องใช้เวลาทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ มีเวลาจำกัด ส่วนรุ่นใหม่เริ่มผลิดอกออกใบ มีเวลาในการพัฒนาตนเอง เครือข่ายสลัมสี่ภาคจึงเห็นโอกาสในการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาชุมชน ผ่านศักยภาพของเยาวชนเหล่าได้
ทั้งนี้ การจัดตั้งกลุ่มเยาวชนเตรียมเป็นนักพัฒนาตัวน้อย ของทีมเยาวชนสลัมสี่ภาค โดยเริ่มจากองค์ความรู้ใกล้ตัว สร้างกิจกรรมผสมผสานการเล่นเกม ให้เด็ก ๆ สนุกสนาน และได้ความรู้ไปในตัว คืองานสำคัญของเครือข่ายสลัมสี่ภาค ที่จะต้องสร้างแกนนำชุมชนใน Generations ที่หลากหลาย เพื่อเป็นเสาหลักในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
“แม้จะต้องย้ายชุมชนมาไกลจากที่เดิม แต่ชุมชนนี้ยังไม่หยุดในการพัฒนาชุมชน เพราะชุมชนที่หยุดการพัฒนาจะกลายเป็นชุมชนที่ไม่มีชีวิต และนี่คือกิจกรรมหนึ่งของทีมเยาวชนสลัมสี่ภาค ในการสร้างชีวิตให้กับชุมชน” คมสันติ์ กล่าว
อ้างอิง:
https://www.csitereport.com/newsdetail?id=0000025489#news_slideshow