ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร มอบนโยบาย แก่จนท. ก่อนลงพื้นที่สำรวจรังวัดที่ดิน พื้นที่ตำบลท่าสายลวด จ.ตาก กว่า 2,000 ไร่ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 58 ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการสำรวจรังวัดที่ดินในพื้นที่ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 จำนวนที่ดิน2,182 ไร่ เพื่อนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปใช้เป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก บริเวณบ้านวังคะเคียน หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ตำบลท่าสายลวด โดยประชุมชี้แจงการเข้าไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยพนักงานสำรวจที่ดิน เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอแม่สอด เพื่อจะได้ทำการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 97 ราย
ขณะประชุมมีเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวจำนวนหลายสิบราย เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการเข้าไปรังวัดที่ดิน เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะได้รับการเยียวยาเป็นที่พอใจ โดย พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ได้ชี้แจงกับตัวแทนชาวบ้านที่มาอีกครั้ง แต่ชาวบ้านยังคงยืนยันที่จะไม่ให้เข้าไปรังวัด แม้ว่าจะอธิบายว่า การเข้าไปรังวัดก็เพื่อสำรวจพื้นที่ของแต่ละรายว่ามีจำนวนถูกต้องหรือไม่ ตรวจสอบเอกสารการครอบครอง รวมทั้งสำรวจทรัพย์สินในพื้นที่ ทั้งบ้าน ต้นไม้ หรือพืชไร่ เพื่อจะนำข้อมูลทั้งหมดบันทึกลงในมัลติมีเดีย นำส่งให้กับรัฐบาลเพื่อทำการเยียวยาแต่ละรายอย่างถูกต้อง แต่ปรากฏว่า กลุ่มชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินยังยืนกรานไม่ให้เข้าไปรังวัด พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ จึงต้องแจ้งว่า หากยังคัดค้านก็จะต้องใช้กฎหมายบังคับโดยมีมาตรการเพื่อให้คำสั่งมีผลบังคับใช้ คือ จะเรียกผู้ครอบครองที่ดินแต่ละรายนำเอกสารหลักฐานการครอบครองมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ภายใน 7-15 วัน หากการแจ้งเตือนแล้วยังเพิกเฉยจะส่งหมายเรียกอีกครั้ง
และหากใครยังไม่มาจะถือว่าไม่พึงประสงค์ต่อที่ดิน เจ้าหน้าที่ก็จะทำการรังวัดและจะไม่มีการเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองกำลังนเรศวร กล่าวว่า วันนี้เป็นการชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าไปรังวัดที่ดินจำนวนดังกล่าว เพื่อให้รู้ว่าที่มีเท่าใด ผู้ใดครอบครอง ทับซ้อนกับใครหรือไม่ แต่ชาวบ้านมีความกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งการรังวัดเป็นคำสั่งตามกฎหมาย ชาวบ้านไม่มีสิทธิ์ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง.
ภาพ / ข่าว ศิริพันธ์ นันทะศิริ