จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับคอนเสิร์ต “เผือกช่วยชาติ” ของเหล่านักดนตรีจิตอาสาจากคลับเฮาส์ห้องร้องไปเรื่อยที่ร่วมมือกับกลุ่มจิตอาสาผีเสื้อเพื่อลมหายใจ เพื่อนำเงินไปซื้อเผือกจากเกษตรกรผู้ปลูกเผือกจากตำบลบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เพื่อที่จะส่งมอบต่อให้กับกลุ่มแม่บ้านในอำเภอบ้านแห จังหวัดอ่างทอง เพื่อแปรรูปเป็นขนม โดยเป็นการสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับชาวบ้านและเผือกที่แปรรูปแล้วจะถูกส่งไปยังชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯมหานคร เพื่อนำบรรจุลงในถุงยังชีพให้กับพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากโควิดระลอก 3 นี้ นอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้เปิดช่องทางออนไลน์ในการขายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเผือกอีกด้วย
สำหรับบรรยากาศในคอนเสิร์ตผ่าน application zoom ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นบรรยากาศที่ใครหลายคนต่างมีความสุขกับการได้รับฟังเพลงเพราะ ๆ นักดนตรีและได้เห็นหน้าคร่าตากัน หลังจากที่ได้ติดตามฟังเสียงของพวกเขาผ่านคลับเฮาส์มาสักพักใหญ่ ๆ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและห้อมล้อมไปด้วยความสุข สนุก แถมได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวสวนเผือกที่ตำบลบ้านหมอ จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
อนุกูล สุดสวาท หรือ ต้น ตัวแทนเกษตรผู้ปลูกเผือกกล่าวว่า “ขอบคุณที่มองเห็นถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร ขอบคุณที่ช่วยให้พวกเราขายเผือกได้เยอะขึ้น ตอนนี้ปริมาณของเผือกที่อยู่ในดินมีประมาณ 40 ตัน แต่ก็มีออเดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ อย่างน้อยที่สุดตอนนี้พวกเราเกษตรกรก็พอยิ้มได้บ้าง ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับพี่น้องเกษตรกร”
รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายเรื่องสถานที่และการเตรียมการจัดงานทั้งหมดก็ถูกต้องไปแลกเปลี่ยนเป็นเผือกในดิน ซึ่งได้ถูกขุดขึ้นมาจำนวน 300 กิโลกรัม เป็นเงิน 12,000 บาทและได้ส่งต่อไปให้กลุ่มแม่บ้านตำบลบ้านแห จังหวัดอ่างทองแปรรูปเป็นเผือกทอด
ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านในอำเภอบ้านแห กล่าวว่า “ดีใจที่ได้เป็นส่วนนึงในการส่งมอบน้ำใจให้กับพี่น้องในชุมชนที่กักตัวและไม่มีงานทำในช่วงวิกฤตเช่นนี้ เผือกทอดอาจไม่ได้เป็นอาหารที่พิเศษอะไรมากมาย แต่อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้พวกเขาได้มีของกิน เด็ก ๆ ได้มีขนมไว้กินในยามที่พ่อแม่ไม่มีเงินซื้อขนมอย่างอื่น กลุ่มแม่บ้านบ้านแหดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น เราตั้งใจกันมาก ดีใจที่ทางกลุ่มผีเสื้อเพื่อลมหายใจติดต่อและไว้ใจให้พวกเราเป็นคนส่งมอบความอิ่มท้องในครั้งนี้ ไม่มีความสุขไหนที่ทำให้เราอิ่มอกอิ่มใจเท่ากับการช่วยให้คนอิ่มท้อง”
หลังจากการแปรรูปเผือกเสร็จแล้ว ทางกลุ่มผีเสื้อเพื่อลมหายใจก็ได้นำเผือกแปรรูปไปมอบให้กับชุมชนคลองเตย ชุมชนในย่านรามคำแหง เขตคลองสามวา และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในจังหวัดอ่างทองเพื่อส่งต่อให้กับชุมชนอีกด้วย อีกด้วย
โต้ง จักรพงศ์ แดนแก้วมูล ตัวแทนกลุ่มผีเสื้อเพื่อลมหายใจกล่าวว่า “ผมรู้สึกปลื้มใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชุมชน ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระจบจากโควิด-19 สิ่งที่พวกเราทำมันอาจไม่ใช่เรื่องที่ดูว่ายิ่งใหญ่อะไรมาก แต่อย่างน้อยในนามของกลุ่มจิตอาสา Breathefly ผีเสื้อเพื่อลมหายใจ ได้เป็นส่วนนึงในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้บ้าง ในการลงพื้นที่ของพวกเรา เราได้รับรู้ความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร เราเลยตั้งใจที่จะช่วยเป็นอีกกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์เพื่อช่วยระบายผลผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์เผือกแปรรูปให้กับผู้คนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 รวมถึงคนในเรือนจำด้วย”
การจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้อาจเป็นการช่วยเหลือกันเพียงเบื้องต้นของคนตัวเล็ก ๆ ในสังคมที่มีจิตใจเมตตาและเห็นถึงความลำบากของเพื่อนร่วมสังคม หลังจากนี้ทางกลุ่มผีเสื้อเผื่อลมหายใจและกลุ่มร้องไปเรื่อยจะมีการทำกิจกรรมกันต่อไป อย่างน้อยการใช้เสียงเปล่งเป็นเพลงเพื่อขับกล่อมให้ผู้คนที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือกำลังมีความทุกข์ได้ผ่อนคลายเหงาลงไปได้บ้าง
เอ้ อุเทน พักพา หนึ่งในตัวแทนศิลปินและคนที่ลงไปเห็นกระบวนการทั้งหมดของการขุดเผือกและการแปรรูปกล่าวว่า “ผมในนามของตัวแทนศิลปินกลุ่มจิตอาสา caps ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ไปเข้าร่วมชมคอนเสิร์ต เผือกช่วยชาติ” ที่ผ่านมา พวกเราทั้ง 4 คน ตื่นเต้นมากในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้และขอขอบคุณแทนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนเผือกที่อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี มันอาจจะเป็นแค่เงินจำนวนนึง แต่ทุกคนก็พร้อมใจที่จะช่วยกัน เท่าที่ตัวเองพอมีกำลัง”
ตัวแทนผู้ชมคอนเสิร์ตกล่าวว่า “ มีโอกาสได้ลงพื้นที่สวนเผือกกับทีมงานผีเสื้อเพื่อลมหายใจและได้อุดหนุนเผือกจากเกษตรกรจำนวน 60 กิโลกรัม โดยเอามาแจกจ่ายให้คนในชุมชนและทำเผือกกวนไว้รับประทานในครอบครัว เผือกที่ซื้อมาเป็นเผือกสดที่คุณภาพดีมาก ๆ และก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอบคุณมากสำหรับการจัดคอนเสิร์ตดี ๆ แบบนี้ เพลงเพราะมาก เป็นครั้งแรกที่เราได้ชมคอนเสิร์ตและเห็นหน้ากันผ่าน ZOOM นักร้องทุกท่านยอดเยี่ยมมาก”
นี่คือที่มาของคำว่า “จิตอาสา” ซึ่งคือผู้คนที่มีจิตใจที่ไม่นิ่งดูดายต่อสังคม หรือความทุกข์ยากของผู้คน และปรารถนาเข้าไปช่วย ไม่ใช่ด้วยการให้ทาน ให้เงิน แต่ด้วยการสละเวลา ลงแรงเข้าไปช่วย ด้วยใจที่เป็นสุขที่ได้ช่วยผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่แค่ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นอย่างเดียว การให้ความช่วยเหลือด้วยกำลังแรงกาย แรงสมอง ซึ่งเป็นการเสียสละ สิ่งที่ตนเองมี แม้กระทั่งเวลา เพื่อเผื่อแผ่ ให้กับส่วนรวม…ยังช่วยลด “อัตตา” หรือความเป็นตัว และเป็นการพัฒนา “จิตวิญญาณ” ของตัวเขาเองด้วย
หลังจากคอนเสิร์ตระดมทุนจบไป พวกเขาจะทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือคนในสังคมแบบไหน ด้วยกิจกรรมอะไร หลังจากนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไป นี่เป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ ของผู้คนกลุ่มนึงเท่านั้น เราได้แต่หวังว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ความสำคัญและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ด้วยการใช้งบประมาณและภาษีของคนในประเทศอย่างเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง.