จังหวัดตาก จับชาวเขาเผาป่า ได้ผู้ต้องหา 7 คน รายแรกของจังหวัดตาก ในข้อหาผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ในช่วง 60 วันอันตราย ห้ามเผาเด็จขาดในทุกกรณี
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 นายสมชาย แสนทวีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ และ พ.ต.ท.นพดล จันทร์ศรี รองผู้กำกับปราบปรามสถานีตำรวจภูธรพบพระ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตก.6 (ร่มเกล้า) สายตรวจปราบปรามที่ 1 สำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ, สถานีควบคุมไฟป่าแม่สอด, ชุดปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ของแก่น) หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าแม่ระมาด, และเจ้าหน้าที่หน่วยส่งเสริมควบคุมไฟป่านครสวรรค์, สนธิกำลังทุกภาคส่วน จำนวนกว่า 100 นาย ออกลาดตระเวนรณรงค์ป้องกันและดับไฟป่า ในช่วง 60 วันอันตราย ห้ามเผาป่าเด็จขาดในทุกกรณี ตามคำสั่งของ นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และ นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 ตาก จากการออกลาดตระเวนปฏิบัติการตรวจเข้มในทุกตารางนิ้วของทางเจ้าหน้าที่ พบการกระทำความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2505 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และฝ่าฝืนประกาศของจังหวัดตาก ห้ามเผาป่าเด็ดขาดในทุกกรณี ในช่วง 60 วันอันตราย และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าช่องแคบแม่โกนเกน อ.พบพระ จ.ตาก มีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้รับความเสียหายจำนวนกว่า 18 ไร่ ได้ผู้ต้องหา 7 คน ชื่อนายเล่ง แซ่กือ อายุ 40 ปี ราษฎรบ้านเลขที่68/10 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก นายทวี แซ่ม้า อายุ 28 ปี ราษฎรชาวตำบลคีรีราษฎร์ นายจือ แซ่ย่าง อายุ 35 ปี ราษฎรชาวตำบลคีรีราษฎร์ นางไช แซ่เท้า อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 4ต.คีรีราษฎร์ นางกั๊วะ แซ่ม้า อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 10 ต.คีรีราษฎร์ น.ส.รังศิมา แซ่ย่าง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 4 ต.คีรีราษฎร์ และนางชง แซ่กือ อายุ 32 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 10 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยผู้ต้องหาทั้ง 7 ให้การในเบื้องต้นว่า ไม่รู้ว่าที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตนและพวกได้ทำการเช่าที่ดินจากนายเล็ก ไม่ทราบนามสกุล ที่อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ต่างจังหวัด เพื่อทำการเกษตร จำนวน 18ไร่ ในราคาปีละ 12,000 บาท และก่อนทำการเกษตรได้จุดไฟเผาป่าข้าวโพดในช่วงเวลา 18.00น. จนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่พบเห็นควันไฟดำฟุ้งไปทั่วบริเวณผืนป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในเขตระหว่างรอยต่อติดกันกับหมู่บ้านห้วยน้ำนัก (บ้านใต้) จึงระดมกำลังทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมไฟป่า ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟทั้งหมดได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลาดชันและอยู่ห่างไกล จึงยากต่อการควบคุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน และของกลาง อุปกรณ์ทางการเกษตร รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บล 3130 พิษณุโลก ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรพบพระ ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดต่อไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นได้กระทำความผิดซ้ำอีก ซึ่งบทลงโทษข้อหาจุดไฟเผาป่าในช่วง 60 วันอันตราย ตามประกาศของจังหวัดตาก มีโทษจำคุกไม่เกิด 15 ปี ปรับไม่เกิน 150,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพ / ข่าว ประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก