วันนี้ (13 พฤศจิกายน 2557) ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) 4 คน นำโดยนายดิเรก กองเงิน ออกเดิน “ก้าวที่สอง” ในกิจกรรม “เดิน ก้าว แลก เพื่อปฏิรูปที่ดินไทย” หลังจากสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เมื่อเวลา 08.00 น. และออกเดินเท้าระยะทาง 7 กิโลเมตร เพื่อไปเจรจากับ มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหัวหน้าส่วนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ในเวลา 10.00 – 13.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีสมาชิก สกน.จำนวน 30 รอเข้าร่วมการเจรจาอยู่ที่ศาลากลาง และสมาชิก สกน.อีกกว่า 300 คน รอฟังผลอยู่บริเวณด้านหน้า ในขณะที่ทหาร ตำรวจกว่า 400 นาย ตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย
นายดิเรก กองเงิน แกนนำสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) กล่าวแถลงถึงผลการเจรจาภายหลังออกจากที่ประชุม โดยระบุว่า ผลจากการเจรจาวันนี้เป็นไปตามแนวทางที่ สกน.เสนอ และหน่วยงานที่รับผิดชอบจะดำเนินการเร่งรัดการดำเนินการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่ได้มีการตกลงร่วมกัน
นี่เป็นเพียงความสำเร็จก้าวที่สองของกิจกรรมการ “เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” การเจรจาระหว่าง สกน.กับตัวแทนรัฐบาลในวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น และหวังว่าผลการเจรจาทั้งหมดในวันนี้จะได้รับการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อสรุปอย่างเร่วด่วน
นายดิเรกกล่าวต่อว่า ยังมี “ก้าวที่สาม” ของ กิจกรรม เดิน ก้าว แลก เพื่อปฏิรูปที่ดินไทย ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ที่จะมาถึงนี้ อันเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่บทพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาล และเป็นสัญญาณที่สำคัญ ต่อการกำหนดทิศทางการเดินก้าวแลกว่าจะเป็นเช่นไร เพราะการเจรจาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ระหว่าง สกน.กับพลเอกดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ จะมีผลต่อการกำหนดอนาคตของชุมชนซึ่งอยู่อาศัยในดินของรัฐมากกว่า 20,000 ชุมชน ครอบคลุมประชากรมากกว่า 10 ล้านคน หรือ 1 ใน 6 ของประเทศ
หากการเจรจาล้มเหลวก็หมายถึงชุมชนและประชาชนดังกล่าวจะถูกดำเนินการคุกคาม และบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มข้น การจับกุมดำเนินคดีและการอพยพโยกย้ายชุมชนออกจากป่าจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากแนวคิดดังกล่าวประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ในโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากไร้ในเขตป่าสงวนเสื่อมโทรม (คจก.) ที่ดำเนินการโดยทหาร และกอ.รมน.
“พูดถึงเรื่องการเริ่มเดินก้าวออกมาแลกกับการปฏิรูปที่ดิน ผมถือว่าที่ผมไปทำพิธีกราบไหว้ครูบาฯ แล้วออกมาผมมาด้วยความเต็มร้อย ในใจผมเชื่อว่าวันนี้ผมจะต้องประสบผลสำเร็จในการเจรจากับเครือข่ายกับทางฝ่ายรัฐบาล พอเดินมาก็ไม่รู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อย เพราะว่ามาด้วยใจมุ่งหวัง เพื่อให้การเจรจามันเกิดขึ้น และประสบผลสำเร็จ พอได้เข้าเวทีการเจรจาแล้ว ยอมรับว่าส่วนที่ได้ ถือว่าชาวบ้านนั้นได้เกินกว่า 50/50 คิดว่าอยู่ที่ประมาณ 65 % ส่วนที่ยังไม่ได้คือยังไม่ใช่อำนาจเต็มที่สามารถตัดสินใจหรือสั่งการได้ อันนั้นก็ต้องรอกันอยู่เพราะว่าประเด็นในเรื่องของแผนแม่บทฯ ยังไม่ชัดเจนออกมา ต้องไปรอทางรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯ ในวันที่ 17 พ.ย. นี้
ส่วนวันนี้ ถามถึงความพอใจก็พอใจอยู่ แม้ว่าในเรื่องกองทุนธนาคารที่ดินที่จะจัดสรรในพื้นที่นำร่อง 167 ล้าน ยังไม่ชัดเจน ต้องไปเริ่มต้นที่สำนักงานธนาคารที่ดิน บุคลากร บอร์ด สำนักงาน ก็ยังไม่ตั้งตามที่ผมทักท้วงในที่ประชุมเมื่อสักครู่นี้ อยากให้มีความชัดเจน วันนี้ให้ทางสำนักงานเร่งดำเนินการ ถือว่าขยับออกมาบ้าง แต่ความชัดเจนของหน่วยงานที่มาประชุม ไม่มีหนังสือแจ้งจุดประสงค์หรือว่าความคืบหน้าอะไร เราเป็นชาวบ้านที่เป็นฝ่ายผลักดัน เราก็ต้องรอในความเชื่อมั่น หรือรอเป็นเอกสารหรืออาจจะเป็นคำตอบจากฝ่ายที่มีอำนาจเชิญเข้าร่วมการประชุม วันนี้ยังไม่รู้ว่าผลสรุปการประชุมที่เป็นเอกสาร ทางเครือข่ายจะได้วันไหน” แกนนำสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) กล่าวในตอนท้าย
ที่มา : Rungroj Petcharaburanin
author
