จงคืนสันติภาพและอิสรภาพแก่เรา

จงคืนสันติภาพและอิสรภาพแก่เรา

๗๒ ปีถือเป็นสงครามที่ยาวนานที่สุดระหว่างชนชาติพันธ์ุชาวกะหรี่ยงและรัฐบาลทหารเมียนมา เป็นสงครามกลางเมืองที่ไม่มีท่าทีจะจบสิ้น และสถานการณ์ของสงครามนี้ กลายเป็นเหตุให้ชาติพันธุ์หลายหมื่นคนต้องเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากภัยสงคราม และกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในรัฐของตัวเอง

ในวันที่ ๓๑ มกราคม ของทุกปี ถือว่าเป็นวันสำคัญของชาวกะเหรี่ยงในเมียนมา และชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก พวกเขารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องอิสรภาพและสันติภาพที่แท้จริงจากรัฐบาลเมียนมาและการรวมตัวครั้งนี้เป็นการประกาศให้โลกได้รับรู้ว่ายังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุในเมียนมา

ถึงแม้ว่ากองกำลังปลดปล่อยกลุ่มชาติพันธ์ุ กะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNLA และกองกำลังรัฐบาลเมียนมา ได้ลงนามสินธิสัญญาการหยุดยิงเมื่อ ๕ ปี ที่แล้ว แล้วก็ตามแต่นั้นก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่งที่ไม่สามารถรับรองความสงบสุขที่แท้จริงของชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาได้ จึงทำให้พี่น้องชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาได้ จึงทำให้พี่น้องชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาลุกขึ้นมาต่อสู้ และเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐบาลเมียนมา ซึ่งพวกเขาหวังว่าสิ่งที่พวกเขากำลังกระทำอยู่นั้น จะเกิดผลที่ดีแก่ลูกหลานของพวกเขาในวันข้างหน้า

การลุกขึ้นมาเรียกร้องร้องอิสรภาพและสันติครั้งนี้อาจถือเป็นก้าวแรกของความหวังและสันติครั้งนี้อาจถือเป็นก้าวแรกของความหวังและกำลังใจของพวกเขา ถึงแม้ว่าชีวิตของพี่น้องชาวกะเหรี่ยงในเมียนมายังต้องประสบปัญหาจากสงครามและการหลบหนีจากกองกำลังทหารเมียนมาก็ตาม แต่สิ่งที่พวกเขากระทำในครั้งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ชาวกะเหรี่ยงรุ่นใหม่ที่จะช่วยกลุ่มชาติพันธ์ุของพวกเขาให้ได้มาซึ่งอิสรภาพและสันติในแผ่นดินของพวกเขาสักวันหนึ่ง

เจตนารมณ์ของพวกเขานั้นไม่ได้เป็นการส่งสัญญาให้แก่กลุ่มชาติพันธ์ุชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ในเมียนมาร์เท่านั้นแต่ยังส่งไปถึงพี่น้องชาวกะเหรี่ยงที่อยู่กระจัดกระจายทั่วโลก ให้ลุกขึ้นขึ้นมาต่อสู้ร่วมกับพี่น้องของพวกเขาในรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เพื่อแผ่นดินรัฐกะเหรี่ยง หรือที่พวกเขาเรียกว่า ก่อทูเล นั้นจะได้มีสันติ ความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนที่พวกเขาควรได้รับเฉกเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ทั่วไปบนโลกใบนี้ในฐานะความเป็นมนุษย์ที่มีลมหายใจเหมือนกัน

คุณครูพอเดทู หนึ่งในชาวกะเหรี่ยงผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยงค่ายผู้พลัดถิ่นอิตุท่า กล่าวว่า ถึงแม้ว่าหัวหน้าของเราได้มีการทำสนธิสัญญาการลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลทหารเมียนมาร์แล้วก็ตาม แต่ชาวกะเหรี่ยงอย่างพวกเราก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เพราะยังมีการปะทะกันระหว่างกองกำลังของเราและทหารเมียนมา เราจึงไม่สามารถเชื่อใจรัฐบาลทหารเมียนมาได้เลย

Karen Environmental and Social Action Network (KESAN)

ถึงแม้ว่าสันติและอิสรภาพของพวกเขานั้นจำเป็นต้องแลกมาด้วยเลือกเนื้อ แต่มันก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่า เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่า การต่อสู้ของพวกเขาจะไม่จบลงด้วยการ เข่นฆ่า การละเมิดสิทธิมนุษยชน และความไม่เท่าเทียมกันในประเทศเมียนมาเท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาได้กระทำนั้น จะกลับกลายเป็นที่จดจำของคนอีกมากมาย สิ่งที่พวกเขากระทำในวันนี้จะไม่สูญเปล่าไปอย่างแน่นอน

Video by Kipho Mora

author

เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง related posts

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ