ไข้เลือดออกระบาดกระจายทั่วไทยรับฤดูฝน ยอดผู้ป่วยสะสมสูงกว่าโควิด 5.8 เท่า

ไข้เลือดออกระบาดกระจายทั่วไทยรับฤดูฝน ยอดผู้ป่วยสะสมสูงกว่าโควิด 5.8 เท่า

  • เฝ้าระวังโควิดไม่ทันหาย ยังมีไข้เลือดระบาดกระจายทั่วประเทศ อีสาน กลาง ใต้ เหนือ เจอหมด ผู้ป่วยโควิด (23 มิ.ย.) 3,156 ราย ขณะที่ผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสม (16 มิ.ย.) 18,568 ราย สูงกว่า 5.8 เท่า
  • เปิดรายงานพยากรณ์ไข้เลือดออกปี 63 คาดการณ์จะมีผู้ป่วยไข้เลือดออกนับ 140,000 ราย
  • ข้อมูลผู้ป่วยปี 62 ชี้ช่วงวัยที่ป่วยมากที่สุด คือ เด็กวัยเรียน 5-14 ปี แต่กลุ่มผู้ป่วยแล้วเสี่ยงต่อเสียชีวิต คือผู้ใหญ่ 35 ปีขึ้นไป
  • หักล้างความเชื่อ พื้นที่ในเขตเมืองใหญ่ พื้นที่มีความเจริญ เสี่ยงสูงกว่าพื้นที่รอบนอก ศาสนาสถาน โรงเรียน คือ พื้นที่เพาะพันธุ์ลูกยุงลายมากที่สุด
  • รู้หรือไม่ ไข้เลือดออกระบาดครั้งใหญ่ในปี 2530 ทุบสถิติป่วยสูงสุด 174,285 ราย เสียชีวิต 1,007 ราย
  • TheCitizen.plus ชวนเปิดแผนที่ดูข้อมูลเสี่ยงโรค เฝ้าระวังระดับอำเภอ ลองสำรวจดูกันว่าสถานการณ์การระบาดในอำเภอของครอบครัวท่านเป็นอย่างไร?

ขณะที่ยอดตัวเลขผู้ป่วยโควิดยังคงเพิ่มขึ้น หน่วยงานทุกภาคส่วนต่างขันแข็งทำงานเฝ้าระวัง รณรงค์มาตรการทางสังคมเพื่อป้องการกลับมาระบาดซ้ำในระลอก 2 ขณะเดียวกันช่วงฤดูฝนของทุกปี ประเทศในภูมิภาคเขตร้อน ยังต้องเผชิญกับการระบาดของโรคไข้เลือดออก โรคจากเชื้อไวรัสอีกหนึ่งชนิด ซึ่งแพร่ระบาดในประเทศไทยมานานนับ 60 ปี นับเป็นเวลาเกือบหนึ่งช่วงชีวิตของคนหนึ่งคน ยาวนานระดับที่อาจทำให้โรคประจำถิ่นที่ยังไม่มียารักษานี้ แลดูเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ทั้งที่เมื่อดูยอดตัวเลขผู้ป่วยราว ๆ แสนรายต่อปี

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่มีความสำคัญของไทย เพราะในแต่ละปีมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก บางรายมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะช็อกเฉียบพลัน จนเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการระบาดและขยายพื้นที่การเกิดโรคอย่างกว้างขวาง รวดเร็ว คือ ความหนาแน่นของประชากร ทั้งในเขตชุมชนเมือง เขตกึ่งเมืองกึ่งชนบทและเขตชนบท ข้อมูลในรายงานพยากรณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกตลอดทั้งปี 2563 คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยไข้เลือดออก 140,000 แสนราย จะมีพื้นที่ 224 อำเภอ จากใน 60 จังหวัด เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงต่อการระบาด

ภาพการพยากรณ์ระดับความเสี่ยงของโรคไข้เลือดออกประจำปี 2563 จำแนกตามอำเภอ

สำรวจสถานการณ์การระบาด มกราคม – มิถุนายน 63

จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทย รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ปี 2563 ของกลุ่มโรคติดต่อนำโดยยุงลาย กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ฉบับล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 16 มิถุนายน 2563 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมจำนวน 18,568 ราย เสียชีวิต 11 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุ 5–14 ปี จำนวน 7,094 ราย คิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด และเสียชีวิต 4 ราย สำหรับปัจจัยเสี่ยงของการเสียชีวิตมาจากการเข้ารับการรักษาช้า การติดเชื้อร่วมกับโรคอื่น และมีภาวะอ้วน

อัตราป่วยโรคไข้เลือดออกจำแนกกลุ่มอายุ ประเทศไทย ปี 2558-2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2562)

เมื่อพิจารณาการเกิดโรคไข้เลือดออกรายภาค พบว่า ภาคอีสานมีอัตราการป่วยสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง กาคใต้ และภาคเหนือตามลำดับ หรือหากจำแนกตามเขตสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 7 (ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์) มีอัตราป่วย 51.66 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ เขตสุขภาพที่ 9 และเขตสุขภาพที่ 6

ภาพเปรียบเทียบพื้นที่ระบาดของโรคไข้เลือดออก 4 สัปดาห์ล่าสุด (ซ้าย) กับแผนที่พยากรณ์พื้นที่ระบาดในของเขตสุขภาพที่ 9 (ขวา) สามารถตรวจสอบพื้นที่การระบาดตามเขตสุขภาพและจังหวัดตามต้องการได้ที่แผนที่ด้านบนของบทความ
แผนภาพแสดงพื้นที่ระบาดของโรค 4 สัปดาห์ล่าสุด พบ 317 อำเภอทั่วประเทศ อ้างอิงข้อมูล (10 พ.ค. – 6 มิ.ย. 63)

ตรวจสอบสถานการณ์ประเมินพื้นที่เสี่ยงไข้เลือดออกรายอำเภอ

เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ ผู้อ่านสามารถขยายดูภาพแบบเต็มพื้นที่ของจอภาพโดยการคลิก บริเวณมุมล่างด้านขวา แล้วยังสามารถคลิกเลือกแสดงข้อมูลระดับอำเภอ หรือเลือกตามเขตสุขภาพ หรือจังหวัดของท่านด้วยการเลือกในช่อง

จากข้อมูลประเมินจากการเป็นพื้นที่ป่วยซ้ำซาก (โอกาสในการระบาด) และการเกิดโรคในปี 2562 (ความรุนแรง) คาดการณ์ว่าในปี 2563 มีอำเภอที่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูง 224 อำเภอ เสี่ยงปานกลาง 473 อำเภอ และเสี่ยงต่ำ 231 อำเภอ โดยพบว่าอำเภอเสี่ยงสูงส่วนใหญ่เป็นอำเภอเมือง และอำเภอที่เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น สถานศึกษา ศูนย์ราชการ สถานที่ท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม

อสม.สู้โควิด พิชิตลูกน้ำยุงลาย ผลสำรวจปี 62 พบลูกน้ำในศาสนสถาน สถานศึกษา พบลูกน้ำเยอะสุด

จากรายงานผลการสำรวจค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายจากโปรแกรมทันระบาดในปี 2562 ในชุมชนและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ สถานศึกษา ศาสนสถาน สาธารณสุข โรงงาน/สถานที่ทำงาน โรงแรม/รีสอร์ท และสถานที่ราชการ พบว่า เกือบครึ่งของศาสนสถานที่มีการสำรวจทั้งหมด (ร้อยละ 48) มีการสำรวจพบลูกน้ำ ยุงลาย รองลงมาเป็นสถานศึกษา สำรวจพบลูกน้ำยุงลาย ร้อยละ 35 โดยสถานพยาบาลมีการสำรวจพบลูกน้ำ ยุงลายน้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามในสถานพยาบาลควรเป็นสถานที่ปลอดลูกน้ำยุงลาย เนื่องจากอาจมีผู้ป่วย ไข้เลือดออกที่มารักษาในโรงพยาบาลและมีโอกาสจะแพร่ไปยังผู้ป่วยหรือบุคลากรในโรงพยาบาลได้ สำหรับภาชนะเสี่ยงที่พบลูกน้ำยุงลายส่วนใหญ่พบเป็นยางรถยนต์เก่า (ร้อยละ 11.01) รองลงมา ได้แก่ ภาชนะที่ไม่ได้ใช้ (ร้อยละ 10.11) และภาชนะอื่น ๆ (ร้อยละ 8.62)

ที่มา : รายงานพยากรณ์โรคไข้เลือดออกปี 2563 กรมควบคุมโรค

จากพยากรณ์-พื้นที่ระบาด-ถึงปฏิบัติการลูกน้ำยุงลายที่ถูกสื่อสาร

ในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข งานอนามัย อสม.ต้านลูกน้ำยุงลายออกปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกกันทั่วประเทศ หรือความเคลื่อนไหวใน C-site จะเห็นการสื่อสารกิจกรรม ปฏิบัติการบนแผนที่และช่วงเวลาได้

ภาพแสดงหมุดจากคำค้น “ไข้เลือดออก” บนเว็บไซต์ C-site แพลต์ฟอร์มออนไลน์ของสื่อพลเมืองที่นำเสนอ กับเนื้อหาถูกนำไปพัฒนาสื่อสารผ่านพื้นที่สื่อสาธารณะ

สคร.7 ขอนแก่น เตือนหน้าฝนระวังป่วยไข้เลือดออก แนะใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”

นายแพทย์ธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันโรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษา จึงต้องใช้วิธีรักษาตามอาการ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคไข้เลือดออกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ประชาชนต้องช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ด้วยการใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” 

มาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค

  1. เก็บบ้านให้โล่ง อากาศปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก 
  2. เก็บขยะ เศษภาชนะต่าง ๆ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
  3. เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด เช่น โอ่ง ไห ขวด ถัง เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ยุงลายวางไข่ ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เพื่อป้องกัน 3 โรคที่มียุงลายเป็นพาหะ ได้แก่ ไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย  หากมีคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดมีอาการไข้สูงลอย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร ใบหน้าหรือผิวหนังมีจุดแดง อาเจียน ปวดท้อง ขอให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้ทันเวลา ก่อนที่อาการจะรุนแรงมากขึ้น และอาจเกิดอาการช็อกทำให้เสียชีวิตได้ และห้ามรับประทานยาแอสไพรินโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้นทำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจะมีเกล็ดเลือดที่ต่ำอยู่แล้ว เมื่อรับประทานยาแอสไพรินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการช็อกและอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ปิดท้ายกับเรื่องของการเฝ้าระวังและป้องกันไข้เลือดออก โดยคุณณัฐกิจ จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น…

โพสต์โดย นักข่าวพลเมือง (ThaiPBS) เมื่อ วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2020

ปฏิบัติการกำจัดยุงลาย ที่ร้องวัวแดง เชียงใหม่

เมื่อ อสม. ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าในชุมชนมีผู้ป่วยไข้เลือดออก อสม. จึงร่วมกับ รพ.สต. และหน่วยงานท้องถิ่น ออกสำรวจพร้อมกำจัดลูกน้ำยุงลาย บริเวณรอบบ้านผู้ป่วย โดยจะแบ่งทีมกันอีกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อกระจายกันออกไปสำรวจรอบบ้านผู้ป่วย รัศมี 100 เมตร  ซึ่งโดยปกติแล้ว ทีม อสม. จะออกสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในชุมชนเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อส่งข้อมูลส่งข้อมูลให้กับ รพ.สต.อยู่แล้ว ตอนนี้ก็สามารถกรอกข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ผ่อดีดีได้เลย ข้อมูลก็จะไปปรากฏให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ทราบทันที หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องมีปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อดูแลคนในชุมชนอย่างเข็มแข็ง

นักข่าวพลเมือง ปีนี้พบผู้ป่วยไข้เลือดออกแล้วเกือบ17,000 รายและมีผู้เสียชีวตไป 11 ราย…

โพสต์โดย นักข่าวพลเมือง (ThaiPBS) เมื่อ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2020

กิจกรรมอาสาพาสอนคืนถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์

วันนี้อาสาสอนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้พาน้องๆทำกิจกรรม Walk Rally ที่แทรกไปด้วยสาระข้อคิดและความสนุกสนาน เริ่มต้นกิจกรรม ด้วยการ ตั้งด่านตรวจป้องกัน covid 19 ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าโรงเรียน นำทีมตรวจคัดกรองด้วยครูพี่อ้าย และครูพี่นุ่มนิ่ม โดยการวัดอุณหภูมิร่างกาย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ จากนั้นรวมตัวกันที่หน้าอาคารเพื่อ แบ่งกลุ่มน้องๆโดยคละชั้นปี แล้วแจกหน้ากากอนามัย ให้กับน้องๆที่ไม่ได้เอาหน้ากากมา หลังจากที่ป้องกัน covid-19 แล้วยังมีการป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยการแจก ครีมทากันยุงให้น้องๆคนละ 1 ซอง เพื่อให้เขาได้ทาก่อนเริ่มกิจกรรม เพราะกิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่ทำรอบๆบริเวณโรงเรียน ……

เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมไข้เลือดออก จากข้อมูลและการความร่วมมือระดับชุมชน

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อนำโดยยุงลายที่พบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้การดำเนินมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค จึงดำเนินการเหมือนกันในทุกพื้นที่ อย่างไรก็จากข้อมูลที่ค้นพบข้างต้น พบว่าควรมุ่งเน้นดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในพื้นที่เสี่ยงสูงซึ่งมีโอกาสจะเกิดการแพร่ระบาด ซึ่งหากดำเนินมาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกไปในวงกว้างและลดความรุนแรงของการระบาดได้ ตลอดช่วงฤดูกาลระบาดของไข้เลือดออก (พฤษภาคม – กันยายน) โดยมาตรการสำคัญ ประกอบด้วย การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม รักษาและสื่อสารความเสี่ยง ซึ่งผู้อ่านทุกท่านสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ร่วมกับเหล่าอสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผ่านการปักหมุดสื่อสาร รายงานสถานการณ์ แบ่งปันเรื่องราว สร้างการเรียนรู้การอยู่กับโรคไข้เลือดออก โรคประจำของถิ่นของเรา

เอกสารเพิ่มเติม

รายงานพยากรณ์โรคไข้เลือดออก ปี 2563

แนวทางการดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย ปี 2563 

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ