นอกจากเพลงจะให้ความบันเทิงแล้วนั้น เพลงที่ดีเป็นตัวเชื่อมให้คนในชุมชนปรองดองกัน เกิดการรวมตัวทำกิจกรรมร่วมกัน คนในชุมชนก็มีความสุข และ ทำให้เกิดความสามัคคีขึ้น ดังเช่นผลเพลง “คิดถึงบ้านเกิด” ของศิลปิน “คุณสังข์ทอง สีใส” ที่ได้กล่าวถึงบรรยากาศท้องทุ่งของ ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี บ้านเกิดของเขา เป็นอีกสิ่งยืนยันความรักความผูกพันของเจ้าตัวต่อชุมชนได้เป็นอย่างดี และเพื่อระลึกถึงศิลปินขวัญใจของพวกเขา ชาวชุมชนที่นี่จึงจัดกิจกรรมนำบทเพลง และผลงานของคุณสังข์ทองมาแสดงอีกครั้ง
เสียงเพลงคิดถึงบ้านเกิด ทำให้ผู้คนมารวมตัวกันที่สะพานท่าก้านเหลือง ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
ธีรชพงษ์ บุญคำภา ศิลปินอาสา อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางมาร่วมรำลึกนึกถึงสังข์ทอง สีใส เจ้าของบทเพลง ซึ่งการรวมตัวครั้งนี้เป็นผลดีต่อคนในชุมชนให้เกิดความรักและผูกพัน
“ผมได้ยินเรื่องผลงานของเขาครับ และผมได้มีโอกาสทำงานที่นี่บ้างบางครั้ง และได้ยินว่ามีการฉายสังข์ทองผมเลยตามมาดูครับ”
ในวันนี้ที่ตำบลจรเข้สามพันมีการฉายหนังเรื่อง “โทน” หนังที่สังข์ทอง สีใส ได้เป็นนักแสดง
สังข์ทอง สีใส หรือน้าเปี๊ยก นับว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในฐานะศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดง จึงทำให้ผลงานเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน โดยเฉพาะผู้คนในหมู่บ้านจรเข้สามพัน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง
ภาคภูมิ จิตต์โสภณ นักจัดรายการวิทยุคลื่นมะขามขวัญเรดิโอ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณปี 2546 การเกิดขึ้นของวิทยุชุมชนใน อ.อู่ทอง ทำให้สังข์ทองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“มีการโทรมาขอเพลงของสังข์ทอง ไม่ว่าจะเป็นเพลงคิดถึงบ้านเกิด รักข้างกำแพง ทำให้เพลงของสังข์ทองได้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง”
สุเชษฐ ไกรเพชร ชาวบ้าน ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กล่าวเช่นกันว่า หากพูดถึงสังข์ทอง สีใสแล้ว เราจะนึกถึง จรเข้สามพัน เพราะมีบทเพลงอยู่เพลงหนึ่งชื่อว่า ‘คิดถึงบ้านเกิด’ ซึ่งเพลงนี้ได้กล่าวถึงบ้านเกิดของอาจารย์สังข์ทอง สีใสเอง
อริณ แผนสมบูรณ์ ชาวบ้านบ้านจรเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ก็มีเรื่องเล่าของศิลปินในดวงใจที่ตนเองผูกพันเช่นกัน
“น้าเปี๊ยกเป็นคนขี้ร้อนมาก ปกติแกจะมีผ้าขนหนูห้อยคอ แล้วก็มักจะเอาหัวจุ่มไปในโอ่งที่อยู่หน้าร้าน น้าเปี๊ยกเป็นคนใจดี ยังเคยอุ้มแล้วก็พาขี่คอไปเดินเล่น ในวัด ตอนนั้นน้าเปี๊ยกเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว แต่ว่าเป็นคนไม่ถือตัวเลยพอต่อมาได้ชมการแสดงของน้าเปี๊ยกแบบเต็มวง ที่วัดโพธารามมีงานบุญเดือน 3 เพื่อรำลึกถึงหลวงปู่เปี้ยน ซึ่งเป็นบุคคลที่น้าเปี๊ยกนับถือ”
ด้วยความพยายามมานะ และอุตสาหะ แม้มีอุปสรรคเรื่องหน้าตา แต่สังข์ทอง ก็ใช้ความสามารถของตนเอง ปั้นผลงานให้โด่งดัง เป็นที่รู้จักของคนมากมายทั่วไป
บทเพลง ‘คิดถึงบ้านเกิด’ ที่กล่าวถึงถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง เป็นตัวอย่างในการไม่ลืมที่ที่ตนเองจากมา ถึงแม้เจ้าตัวจะมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วก็ตาม จึงทำให้ผู้คนในจรเข้สามพัน ต่างยกย่องเขาในฐานะ ศิลปินตัวอย่างแห่งบ้านจรเข้สามพัน ศิลปินที่ยังคิดถึงบ้านเกิดของตัวเอง ‘สังข์ทอง สีใส’
นักข่าวพลเมืองกลุ่มรักบ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี รายงาน
ข่าววันใหม่ ThaiPBS | 2 ก.ค. 2558 เวลา 05.00 น.