ไม่อนุญาตประกันตัว ‘แม่จ่านิว’ ผิดทักแชท 112 แล้วไม่ห้าม รอส่งศาลทหารฝากขัง 8 พ.ค.

ไม่อนุญาตประกันตัว ‘แม่จ่านิว’ ผิดทักแชท 112 แล้วไม่ห้าม รอส่งศาลทหารฝากขัง 8 พ.ค.

20160705002230.jpg

6 พ.ค. 2559 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. พัฒน์นรี หรือหนึ่งนุช ชาญกิจ แม่ของ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย และจำเลยในคดีส่องโกงราชภักดิ์ พร้อมอานนท์ นำภา และธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขณะที่จ่านิวอยู่ระหว่างเดินทางกลับจากต่างจังหวัด

สืบเนื่องจากข่าวทางสื่อมวลชนหลายสำนักตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 พ.ค. 59) ว่า ศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติหมายจับที่ 36/2559 ตามคำขอของพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ให้จับกุม พัฒน์นรี ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี

ข่าวระบุด้วยว่า กรณี ปอท. ขออนุมัติออกหมายจับพัฒน์นรี เนื่องจากพนักงานสอบสวนพิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่าได้ร่วมกับ บุรินทร์ อินติน ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวแล้ว กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าวานนี้ คือวันที่ 5 พ.ค. 2559 ร.ท.ชวิน ชยาวิวัฒนาวงศ์ ได้มากล่าวหาแม่จ่านิวต่อพนักงานสอบสวน ปอท. ส่วนวันนี้ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กองกำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แจ้งข้อกล่าวหาว่า มารดาจ่านิวกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (3)

พนักงานสอบสวนบรรยายพฤติกรรมที่กระทำความผิดว่า นายบุรินทร์ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 ไปก่อนหน้านี้ได้ลงข้อความผ่านเฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่มารดาจ่านิวไม่ได้ห้ามปราม ตำหนิ หรือต่อว่าให้หยุดการกระทำดังกล่าว จึงถือว่ามีส่วนร่วมกับนายบุรินทร์ในการโพสต์ข้อความที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

หลังรับทราบข้อกล่าวหาทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักประกันเงินสด 5 แสนบาท พนักงานสอบสวนได้ปรึกษากับผู้บังคับบัญชาแล้ว มีความเห็นว่าไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ และมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากได้รับการประกันตัว ผู้ต้องหาอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ทั้งนี้ แม่จ่านิวจะถูกควบคุมตัวที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรอพนักงานสอบสวนนำตัวไปขออนุญาตฝากขังต่อศาลทหารกรุงเทพในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค. 2559 เวลา 9.00 น.

ก่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน ธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า การมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจ โดยเข้ามามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนรายละเอียดความผิดทางลูกความและทนายยังไม่ทราบ ในวันนี้น่าจะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพฤติกรรมอะไรที่เป็นความผิด

อานนท์ นำภา ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ประสานเข้าพูดคุยกับ พ.ต.ท.สัณห์เพชร หนูทอง และชี้แจงว่าลูกความเจอบุรินท์ในการทำกิจกรรม แต่ไม่ขอพูดรายระเอียดรอพบพนักงานสอบสวนก่อน ส่วนวันนี้ทนายความเตรียมขอใช้สิทธิประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์ 5 แสนบาท จากกองทุนที่ระดมเพื่อประกันตัวเพื่อนของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ

อานนท์ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า วันนี้เป็นวันหยุดราชการ และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยออกหมายเรียก พัฒน์นรี มาก่อน วันนี้กลับออกหมายจับ สำหรับในเรื่องขอประกันตัว หากพนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัววันนี้ ก็ต้องไปยื่นขอประกันตัวที่ศาลทหารในวันแรกของการเปิดทำการ

ทั้งนี้ ทนายความทั้งสองยืนยันว่าจากการสอบถามลูกความ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับนายบุรินทร์ อินติน เป็นการส่วนตัว

ด้าน พัฒน์นรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียง “จิตใจแย่ ไม่ขอพูดอะไรทั้งนั้น”

สำหรับ บุรินทร์ อินติน เป็น 1 ใน 16 ผู้ร่วมทำกิจกรรม ‘ยืนเฉยๆ’ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งถูกจับกุมไปยัง สน.พญาไท เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนถูกทหารเข้าควบคุมตามคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 และต่อมาถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 112 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้ติดตามพฤติกรรมของนายบุรินทร์ผ่านการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ ‘Burin Intin’ ซึ่งพบว่ามีลักษณะต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาล และ คสช. รวมทั้งมีการแชตพูดคุยกับบุคคลอื่นโดยมีข้อความลักษณะกล่าวว่าให้ร้ายพระมหากษัตริย์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 112

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ