รายงานพิเศษเจาะลึกครูปู-ครูอัตราจ้างทุนสมเด็จพระเทพฯ กศน.ท่าสองยางผู้เป็นมากกว่าครู

รายงานพิเศษเจาะลึกครูปู-ครูอัตราจ้างทุนสมเด็จพระเทพฯ กศน.ท่าสองยางผู้เป็นมากกว่าครู

รายงานพิเศษเจาะลึกครูปู-ครูอัตราจ้างทุนสมเด็จพระเทพฯ กศน.ท่าสองยางผู้เป็นมากกว่าครู

 

                หลังมีการนำภาพ “ครูปู หรือครูรัชนก เงินงามมีสุข ครู กศน.ท่าสองยาง จ.ตาก” ที่แบกลูกศิษย์หญิงวัย 11 ขวบ ที่มีอาการป่วยหนักกะทันหันขึ้นลงดอย เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ก่อนที่จะมีการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลท่าสองยางจนสำเร็จ ออกเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียล จนได้รับเสียงชื่นชมในจิตวิญญาณแห่งความเป็น “ครูอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ “ครูปู-ครูรัชนก เงินงามมีสุข” อายุ 31 ปี เป็นครูชาวปากะญอ หรือกะเหรี่ยงอัตราจ้างชั่วคราวทุนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ประจำศูนย์การศึกษาชุมชนชาวไทยภูเขาบ้านเซกรา ที่เดินทางขึ้นลงดอยสูงมาพร้อมลูกศิษย์ ได้เล่าเหตุการณ์วินาทีวิกฤต ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของเด็กหญิงซึ่งเป็นลูกศิษย์ของตนเองว่า ในช่วงคืนวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งข่าวว่าเด็กหญิงวัฒนพร วนาสล้าง อายุ 11 ขวบ ลูกศิษย์ที่กำพร้าพ่อ-แม่ และตนให้การดูแลอุปการะเปรียบเสมือนลูกคนที่สองของตน เกิดอาการปวดท้อง และมีอาการอาเจียนต่อเนื่องอย่างรุนแรงเกือบตลอดทั้งคืน โดยที่โรงเรียนไม่มียารักษาแต่อย่างใด

จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (9 ม.ค.) อาการของเด็กหญิงวัฒนาพรยังไม่ดีขึ้น แต่กลับทรุดลงอย่างต่อเนื่อง “ครูปู” จึงตัดสินใจพยุงร่างลูกศิษย์ออกจากโรงเรียนกลางยอดดอยสูง ประคองลงดอยมาในสภาพทุลักทุเล เนื่องจากไม่มีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่จะใช้ลำเลียงตัวเด็กไปส่งโรงพยาบาล โดยได้เดินเท้าขึ้นลงดอยมาหลายกิโลเมตร จนมาถึงหมู่บ้าน

ก็เป็นเวลาใกล้ค่ำ ปรากฏว่าในหมู่บ้านไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียว อย่างไรก็ตาม ในนาทีวิกฤตก็ยังพอมีแสงสว่าง เนื่องจากขณะนั้นมีพ่อค้าคนกลางจากต่างหมู่บ้านซึ่งเป็นลุงของเด็กหญิงวัฒนพรขับรถยนต์มารับซื้อหัวบุก ในหมู่บ้าน “ครูปู” จึงรีบวิ่งไปโบกรถคันดังกล่าวเพื่อขออาศัยโดยสารพาเด็กหญิงไปส่งโรงพยาบาล

   

แต่แม้ว่าพ่อค้าพืชไร่คนดังกล่าวจะรีบเร่งตกลงให้ครูปู และลูกศิษย์ซึ่งเปรียบเหมือนหลานสาวติดรถไปด้วย อุปสรรคก็ยังมี เนื่องจากเส้นทางที่จะออกมาจากหมู่บ้านไม่มีทางให้กลับรถเลยเพราะติดกับขอบเหว จนครูต้องแบกร่างของเด็กหญิงเดินขึ้นเขาสูงไปเป็นระยะทางกว่า 2กิโลเมตรเพื่อขึ้นไปรอรถยนต์ที่ใช้วิธีถอยหลังขึ้นเขาสูงแทนการกลับรถ จนรถสามารถถอยหลังขึ้นมารับครูปู และศิษย์ที่รอบนยอดดอยได้เป็นผลสำเร็จ

จากนั้นก็รีบนำร่างของเด็กหญิงนั่งโดยสารรถยนต์ขึ้นลงดอยสูง ซึ่งเป็นเส้นทางอันตรายสองข้างทางเป็นป่ารกทึบ และบางจุดเป็นเหวลึกเสี่ยงอันตรายอย่างมากในการเดินทางในเวลากลางคืน โดยการเดินทางเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากระยะทางจากหมู่บ้านเซกรา ตำบลแม่สอง – อ.ท่าสองยาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลอำเภอท่าสองยาง ไกลกว่า 100 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางนานกว่า 3ชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่ 18.00 น กว่าจะถึงโรงพยาบาลท่าสองยาง ก็เป็นเวลา 21.30 น

 

แต่ในที่สุดก็สามารถนำตัวเด็กหญิงที่มีอาการอิดโรยหมดแรงจากการอาเจียนอย่างรุนแรงมาตลอดทาง นำตัวส่งให้แพทย์ประจำโรงพยาบาลท่าสองยางทำการรักษาช่วยชีวิตได้ทันเวลา และพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะมีอาการติดเชื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างรุนแรง เป็นเวลา 2 วัน ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลฯ กลับบ้านพักได้แล้ว

 

ผู้สื่อได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากครูปู หรือครูรัชนก เงินงามมีสุข แม้ตนจะเป็นคนสู้ชีวิต แต่อุปสรรคในขณะนี้คือ ป่วยเป็นโรคมดลูกอักเสบที่จะต้องเดินทางลงมาตรวจกับแพทย์ทุกเดือนเนื่องจากได้รับความกระะทบกระเทือนจากที่ต้องเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์เข้าออกโรงเรียนมากว่า 5 ปี จนถึงขณะนี้แพทย์ได้แนะนำให้อย่าได้รับการกระทบกระเทือนอีก แต่ตนก็เลี่ยงไม่ได้เพราะยังต้องรับภาระดูแลเด็กทั้งหมดที่เปรียบเหมือนลูกๆทุกคนในโรงเรียนแห่งนี้ ในขณะที่เด็กหญิงวัฒนพร ได้พูดสั้นเป็นภาษาปากะญอ ว่า รักคุณครูมากที่ได้ชุ่วยชีวิตไว้ในครั้งนี้ คุณครูเปรียบเหมือนแม่ตนรักครูมาก พร้อมเข้าไปกอดด้วยความน่าเอ็นดูเนื่องจากเป็นเด็กกำพร้า

 

ด้านนายภาณุ วงษ์ถาวรเรือง ผู้อำนวยการ กศน. อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เล่าว่า กรณีที่มีการเผยแพร่เรื่องของครูรัชนก เงินงามมีสุข ไปในโลกโซเซี่ยล เป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า มีการทำแบบนี้จริงหรือไม่ ขอนำเรียนให้ทราบว่า จริงๆการปฏิบัติหน้าที่แบบนี้ของพื้นที่สูงมีคุณครูจำนวนมากที่เป็นแบบนี้ คือเป็นผู้ที่มีความเสียสละทุ่มเทในการทำงาน ในพื้นที่ทุรกันดาร กรณีของครูปู ก็เป็นกรณีหนึ่งซึ่งผมอยากให้เป็นแบบอย่างของครู ในวันครู ที่จะมาถึง แบบอย่างของคุณครูที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ยากลำบาก และเต็มไปด้วยปัญหา อุปสรรคนานาประการ แต่ครูก็มีความเสียสละทุ่มเทและประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เป็นแม่คนที่สองของเด็ก เนื่องจากเป็นครูสอนแล้วครูเองยังรับอุปการะเด็กดังกล่าวเป็นลูกด้วย เนื่องจากครอบครัวของเด็กแยกทางกัน ที่ผมนำเสนอผ่านสื่อไปแล้วมีการนำไปแชร์กัน วัตถุประสงค์แรกคือ อยากให้เป็นแบบอย่างกลุ่มของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เท่านั้น แต่ว่ามีการกระจายไปในวงกว้าง ก็ขอเรียนให้ทราบว่า เมื่อเผยแพร่ไปแล้วก็อยากให้เป็นแบบอย่างของครูทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกกรณีซึ่งยังมีอีกมากในกรณีของครูดอยในการเสียสละปฏิบัติหน้าที่อย่างดีครับ

ล่าสุดทางนายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ทำเรื่องเสนอเพื่อยกย่อง “ครูปู” ให้เป็นครูตัวอย่างแห่งคนดีศรีเมืองตาก และจะมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแห่งการทำความดี เสียสละในหน้าที่คนอาชีพครูดอย ผู้ปิดทองหลังพระ

ทีมงานสำนักข่าวนครแม่สอด บท / ภาพ

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ