พีมูฟ ค้านประกาศ ส.ป.ก. ให้นายทุนใช้พื้นที่ เอื้อระบบเกษตรพันธสัญญา ขัดเจตนาปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร

พีมูฟ ค้านประกาศ ส.ป.ก. ให้นายทุนใช้พื้นที่ เอื้อระบบเกษตรพันธสัญญา ขัดเจตนาปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร

17 พ.ย. 2563 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ จัดแถลงข่าว เกี่ยวกับการอนุญาตให้ทำกิจการนอกภาคการเกษตรในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก. ของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) โดยเล็งเห็นว่า กิจการตามที่ประกาศของ คปก. เป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ นายทุน หรือบุคคลอื่นใดที่ไม่ใช่เกษตรกร มีสิทธิใช้ประโยชน์ และกำหนดทิศทางการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของ ส.ป.ก.

พีมูฟ ระบุว่า ประกาศดังกล่าว ขัดต่อเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ที่ต้องการกระจายการถือครองที่ดินให้กับพี่น้องเกษตรกร สร้างความเป็นธรรมในสังคม และการแก้ไขกฎหมาย หรือการประกาศข้อกำหนดใด ๆ ของ ส.ป.ก. ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินในเขตพื้นที่ของ ส.ป.ก. ต้องดำเนินการเพื่อเป็นการสร้างโอกาส หรือขยายโอกาสให้กับเกษตรกร ในการพัฒนาเศรษฐกิจชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และหากการแก้ไขมีผลเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์หรืออาจจะส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของเกษตรกร ต้องดำเนินการผ่านกระบวนการรัฐสภา และหรือ การเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยทั่วถึง

พีมูฟ คัดค้านการออกประกาศของ ส.ป.ก. ที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนอุตสาหกรรมเกษตร และการวางแนวทางสำหรับระบบเกษตรพันธสัญญาที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ของ ส.ป.ก.ในการสร้างฐานการผลิตของตนเอง โดยอาศัยแรงงานเกษตรกรราคาถูก และเรียกร้องให้รัฐบาล และ ส.ป.ก. สนับสนุนการผลิตและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยวิสาหกิจชุมชนของเกษตรกร หรือโดยสถาบันเกษตรกร อีกทั้งเร่งออกประกาศกำหนดพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศให้เป็นพื้นที่คุ้มครองเพื่อเกษตรกรรม

รายละเอียดแถลงการณ์ ดังนี้

แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม

เรื่อง การอนุญาตให้ทำกิจการนอกภาคการเกษตรในพื้นที่ เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เรื่องรายการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกันกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กำหนดตามมาตรา 30 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน (ฉบับที่7) พ.ศ.2532 ตามที่ คปก.เสนอให้ปรับปรุงระเบียบปฏิบัติ

กิจการตามที่ประกาศ และเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ นายทุน หรือบุคคลอื่นใดที่มิใช่เกษตรกร มีสิทธิใช้ประโยชน์ และกำหนดทิศทางการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของ ส.ป.ก. เช่น

1.กิจการที่เป็นการสนับสนุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เช่น ที่ทำการของเอกชน ต่าง ๆ ตามโครงการความร่วมมือระหว่าง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ภาคเอกชนและเกษตรกร ซึ่งเป็นการวางแนวทาง เตรียมพื้นฐานให้ ส.ป.ก. ดำเนินนโยบายส่งเสริมระบบเกษตรพันธสัญญา ซึ่งกลุ่มนายทุนคือผู้กำหนดชะตากรรมของเกษตรกร เกษตรกรเป็นเพียงผู้ใช้แรงงานในที่ดินที่รัฐมอบให้

2. กิจการที่เป็นการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมและปัจจัยการผลิต เช่น โรงงานผลิตปุ๋ยเคมี

3.กิจการจำหน่ายรถยนต์และเครื่องกลทางการเกษตร เช่น ร้านจำหน่ายรถแทรกเตอร์

4.กิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินเป็นหลัก เช่น โรงงานน้ำตาล โรงงานผลไม้กระป๋อง โรงงานน้ำมันพืช-ปาล์ม/ทานตะวัน โรงงานหรือสถานที่สำหรับแปรรูปไม้

ทรรศนะ และจุดยืนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)

1.ประกาศ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ฉบับนี้ ขัดต่อเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ซึ่งได้มาจากการต่อสู้เรียกร้องของสหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย ที่ได้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อ เพื่อให้มีการปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินให้กับพี่น้องเกษตรกร สร้างความเป็นธรรมในสังคม

2.การแก้ไขกฎหมาย หรือการประกาศข้อกำหนดใด ๆ ของ ส.ป.ก. ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินในเขตพื้นที่ของ ส.ป.ก. ต้องดำเนินการเพื่อเป็นการสร้างโอกาส หรือขยายโอกาสให้กับเกษตรกร ในการพัฒนาเศรษฐกิจชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น หากเป็นการแก้ไขกฎหมาย หรือการประกาศข้อกำหนดใด ๆ ซึ่งมีผลเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ หรืออาจจะส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของเกษตรกร ต้องดำเนินการผ่านกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา และหรือ การเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยทั่วถึง

3.ขปส. คัดค้านการออกประกาศของ ส.ป.ก. ที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน และ การวางแนวทางสำหรับระบบเกษตรพันธสัญญา ที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ของ ส.ป.ก.ในการสร้างฐานการผลิตของตนเอง โดยอาศัยแรงงานเกษตรกรราคาถูกทำการผลิตวัตถุดิบ ให้กับโรงงานของนายทุนทั้งหลาย

4.ขปส. เรียกร้องให้รัฐบาล และ ส.ป.ก. สนับสนุนการผลิตและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยวิสาหกิจชุมชนของเกษตรกร หรือ โดยสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตรฯ ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบต่อวิถีชีวิต ไม่เป็นช่องทางในการแย่งชิงทรัพยากร ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ

5. ขปส. เรียกร้องให้รัฐบาล และ ส.ป.ก. เร่งออกประกาศกำหนดพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศให้เป็นพื้นที่คุ้มครองเพื่อเกษตรกรรม

6. อย่างไรก็ตาม ขปส. ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม การพัฒนาเศรษฐกิจ การดำเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ ตลอดถึงการปรับเปลี่ยนผังเมือง ที่มีอิทธิพล และส่งผลกระทบต่อแนวทาง วัตถุประสงค์ ในการบริหารจัดการ การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ดังนั้น หากจำเป็นต้องอนุญาตให้มีการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อทำกิจการนอกภาคเกษตร ต้องมีการพิจารณาเป็นรายกรณี ทั้งต้องมีการจัดประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากชุมชนรอบข้างที่อาจได้รับผลกระทบ และ ต้องมีการกำหนดคุณสมบัติ ของผู้ที่ยื่นความจำนงค์ขออนุญาตต้องมิใช่นายทุน หรือกลุ่มทุน ทั้งต้อง กำหนดประเภทและกำลังการผลิตของกิจการนั้น ๆ ให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม หรือเป็นอัตรายต่อมนุษย์ และระบบนิเวศ และต้องเกิดประโยชน์โดยแท้จริงต่อพี่น้องเกษตรกรด้วย

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)

แถลงเมื่อ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ