‘สื่อสวีเดน’ ลงพื้นที่ ‘โคกยาว’ ดูผลกระทบชาวบ้านจากคำสั่ง คสช.

‘สื่อสวีเดน’ ลงพื้นที่ ‘โคกยาว’ ดูผลกระทบชาวบ้านจากคำสั่ง คสช.

รายงานโดย ศรายุทธ ฤทธิพิณ
สำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน

20152704230737.jpg

เมื่อวันที่ 25 – 27 เม.ย.58 ผู้สื่อข่าวจากประเทศสวีเดน มาติน ซิบบาย (MR.MARTIN SCHIBBYE) หัวหน้ากองบรรณาธิการสำนักข่าว blank spot project ลงพื้นที่ชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อรับฟังและตรวจสอบข้อเท็จจริงผลกระทบจากนโยบายด้านป่าไม้ของไทย ด้านชาวบ้านแจ้งว่า ปัญหายังไม่ได้รับการคลี่คลาย ล่าสุดเมื่อ 23 เม.ย.58 เดินทางเข้าร่วมปักหลักทวงถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาต่างๆ จากภาครัฐ 

ภายหลังประเทศไทยเกิดการรัฐประหาร 22 พ.ค.57 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นอกจากปัญหาทางการเมือง ยังนำมาสู่ผลกระทบต่อชาวบ้านในกรณีป่าไม้ ที่ดินทำกิน โดย คสช. ได้มีแผนแม่บทป่าไม้ในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของรัฐ มีเป้าหมายทวงคืนผืนป่าอย่างเข้มข้น นโยบายดังกล่าวได้ก่อให้เกิดส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนคนจนและผู้ยากไร้ไปทั่วทุกภูมิภาค 

20152704230807.jpg

มาร์ติน เผย โดยผ่านล่ามแปลว่า ส่วนตัวทำงานสื่อด้านสิทธิมนุษยชน และได้รับทราบข้อมูลจากผลกระทบด้านสิทธิในที่ดินทำกินของชุมชนโคกยาว ทั้งการดำเนินคดีกับชาวบ้านทำให้บางคนต้องไปนอนในเรือนจำ ท้ายสุดก็เข้าสู่ยุคทวงคืนผืนป่า ฉะนั้นด้วยความสนใจต้องการรับรู้ถึงสถานการณ์และสภาพของชาวบ้านว่า พวกเขาใช้ชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร จึงต้องการมาทำความรู้จัก และสำคัญที่สุดคือการลงมาพื้นที่ด้วยตนเองจะทำให้มองเห็นความเป็นไปของชีวิตและชุมชนได้จากในอีกแง่มุมหนึ่ง 

มาร์ติน ระบุว่า สิ่งที่ได้สัมผัสกับชาวบ้านชุมชนโคกยาวนั้น แม้จะถูกปิดประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 64/57 เมื่อวันที่ 25 ส.ค.57 และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.พ.58 เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาปิดประกาศไล่รื้อ ทำให้การดำเนินชีวิตขาดความสุข เกิดความหวั่นเกรงภัยจะถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาไล่รื้อ การทำมาหากินขาดช่วง แต่อย่างไรก็ตามรู้สึกยินดีที่ชาวบ้านได้ร่วมต่อสู้มาถึงวันนี้ ทั้งที่ความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็ลำบากอยู่แล้ว ต้องทำทุกอย่างทั้งเอกสาร เดินทางไปยื่นหนังสือชี้แจ้งข้อเท็จจริงต่อภาครัฐ เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งไล่รื้อ และขอคืนสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดิน 

ชาวบ้านบอกว่านับแต่ 25 ส.ค.57 ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดประกาศไล่รื้อครั้งแรก ได้รวบรวมเงินกันเป็นค่าเดินทางไปยื่นหนังสือหลายครั้ง และมีการร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐ โดยทุกครั้งมีมติให้ชะลอการไล่รื้อชุมชนที่ได้รับผลกระทบออกไปก่อน ก็ไม่เคยเป็นที่ยุติ เจ้าหน้าที่มักฉวยโอกาส หาจังหวะเข้ามาพยายามให้ออกจากพื้นที่อยู่เสมอ

20152704230837.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 26 เม.ย.58 มาติน พร้อมกับช่างภาพ (โจนัท) และล่ามแปลภาษาได้ร่วมเดินลัดเลาะไปตามลำน้ำพรมหาเก็บของป่าตามวิถีชีวิตของคนอยู่กับป่า ซึ่งชาวบ้านถือเป็นเส้นเลือดเส้นใหญ่ เพราะตลอดตามลำน้ำทั้งสองฟากฝั่งมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งของสัตว์น้ำต่างๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ทั้งพืชผักท้องถิ่น และสมุนไพรให้ชาวบ้านได้เก็บหากินกันตามช่วงฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าฝนจะหาเก็บเห็ด หน่อไม้ พื้นที่นี้ถือเป็นโรงครัวใหญ่ของชาวบ้านที่ถือปฎิบัติและรักษากันมาหลายชั่วคน ในรูปแบบป่าชุมชน

มาติน กล่าวว่า แม้ชุมชนจะมีหลักฐานพร้อมข้อเท็จจริงในสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินมาก่อนการประกาศเขตป่าฯ  และแม้จะมีมติจากที่ประชุมให้ชะลอการไล่รื้อ จนกว่าจะมีกระบวนการแก้ไขที่ถูกต้อง แต่ตามที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยน และได้นอนอยู่บนที่พักอยู่บนโคกยาวในช่วงกลางคืน ตัวเขาเองก็หวั่นตามที่ชาวบ้านบอกว่า ด้วยสภาพพื้นที่แวดล้อมไปด้วยป่า ตั้งอยู่บนเชิงเขา ที่มืดสนิท ไฟฟ้าไม่มี ยามดึกแม้จะเกิดเสียงอะไรดังขึ้นก็ตาม จะก่อให้เกิดความกังวลใจ หวาดผวาขึ้นมาได้เสมอ โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์แบบนี้ เพราะชาวบ้านก็กลัวถูกจู่โจม คุกคาม 

20152704230904.jpg

มาติน บอกกับชาวบ้านว่า ด้วยความตั้งใจในการเป็นกระบอกเสียงในเรื่องของการถูกคุกคามสิทธิ ตนเองจะสื่อถึงความเป็นวิถีชีวิตในชุมชนโคกยาว รวมทั้งผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับ ให้ได้รับการส่งผ่านความคิดให้กับสังคมได้รับรู้ จึงควรยิ่งที่เป็นเรื่องต้องไปรับการเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสวีเดน ประเทศที่เขาอาศัยอยู่โดยกำเนิด เพราะสื่อต่างประเทศส่วนมากจะไม่ได้รับข้อมูลในด้านนี้

ด้านเด่น คำแหล้ ชาวบ้านชุมชนโคกยาว กล่าวว่า ชาวบ้านถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บุกรุกมาโดยตลอด ขณะเดียวกันภาครัฐกลับไม่เคยเข้าใจว่าชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไรบ้าง ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชุมชน ตลอดจนครอบครัว และญาติพี่น้อง ทั้งในเรื่องชีวิตและทรัพย์สิน ถูกละเมิดสิทธิชุมชน ถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพียงฝ่ายเดียวมาโดยตลอด การแก้ไขปัญหาก็ยังไม่มีท่าทีจะดำเนินการต่อ 

20152704230929.jpg

เด่น ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2558 ตนและตัวแทนพี่น้องบางคน รวมทั้งตัวแทนภาคประชาชนจากทั่วภูมิภาค จำนวนกว่า 1,000 คน ในนามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ได้เดินทางเข้าไปร่วมปักหลักเข้าไปบริเวณลานกว้างพื้นที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน  (ก.พ.) ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล นับแต่ช่วงเช้า 08.00 -18.00 น.เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาต่างๆ จากภาครัฐ เพื่อให้แก้ปัญหาที่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากสัญญาของรัฐบาลที่เคยให้ไว้ อาทิ กรณีพื้นที่พิพาทที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ปัญหาผลกระทบจากเหมืองแร่ ผลกระทบจากการสร้างเขื่อน เป็นต้น

20152704231010.jpg

ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น.ช่วงขณะที่ต่างผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาอภิปรายถึงผลกระทบในแต่ละพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้ามาสั่งให้ยุติการชุมนุม ทำให้เกิดการเจรจากันระหว่างเจ้าหน้าที่กับตัวแทนของ พีมูฟ ถึงความชอบธรรมว่า พวกเราเป็นผู้ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนในสิทธิที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย หาได้มาชุมนุมทางการเมือง และครั้งนี้เป็นการมาใช้สิทธิเพื่อติดตามความคืบหน้าในการให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหา กระทั่งเจ้าหน้าที่ยอมให้ผู้เดือดร้อนได้ผลัดเปลี่ยนอธิบายถึงปัญหาของแต่ละพื้นที่ได้ โดยห้ามไม่ให้ใช้เครื่องขยายเสียงตัวใหญ่และให้ลดเสียงลง

20152704230954.jpg

เด่น บอกต่ออีกว่า เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกรัฐบาล เป็นตัวแทนรัฐบาลมารับหนังสือจากทุกกลุ่มที่ชุมนุมอยู่บริเวณลานด้านหน้า ก.พ. พร้อมรับปากว่า จะเร่งรัดการแก้ไขปัญหาของ พีมูฟ โดยจะประสานให้นายกฯ เร่งรัดการดำเนินงานอีกทางหนึ่ง จากนั้นประมาณ 13.00 – 18.00 น.ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกับนายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมกันติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหากับตัวแทน พีมูฟ ที่ชั้น 2 อาคาร ก.พ.

20152704231034.jpg

เด่น กล่าวว่า แม้ครั้งนี้จะถือว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีกว่าที่ผ่านๆ มา เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทหารที่เป็นถึงโฆษกรัฐบาล และเป็นผู้ที่สามารถติดต่อกับนายกรัฐมนตรีได้โดยตรงเข้าร่วมประชุมด้วย โดยพล.ต.สรรเสริญ เน้นย้ำในที่ประชุมว่า จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และจะให้รัฐบาลทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติในการคุ้มครองพื้นที่สมาชิกพีมูฟทั่วประเทศ และให้สำนักงานที่ดินจังหวัดให้เร่งรัดเรื่องการทำเอกสารอย่างเป็นทางการให้ชาวบ้านเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างปกติสุขและยั่งยืน 

นอกจากนี้ยังระบุจะเร่งเดินหน้าส่งมอบพื้นที่โฉนดชุมชนตามแต่ละพื้นที่ที่ได้มีมติรับรองไว้แล้ว รวมทั้งเรื่องคำสั่งแต่งตั้งกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาพีมูฟและอนุกรรมการอีก 8 ชุด โดยที่ประชุมมีมติให้คณะอนุกรรมการใหญ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น คณะอนุกรรมการโฉนดชุมชน จัดประชุมให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม และการประชุมกรรมการอำนวยการต้องแล้วเสร็จไม่เกิน 10 มิ.ย. 2558 นี้

“คำสัญญาที่เคยให้จะเป็นเพียงแค่ลมปากเป่าดังที่เคยปรากฏขึ้นมาแล้วในหลายยุครัฐบาลอีกหรือไม่ ยังคงต้องคอยติดตามความคืบหน้าต่อไป ตราบใดที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาให้เป็นที่ยุติ อย่างถูกต้องและเป็นธรรมต่อประชาชนคนจนๆ ธรรมดา พวกเราก็ยังไม่คลายความกังวลใจ เพราะปัญหาการถูกข่มขู่ คุกคาม เช่นนี้ มีมาหลายครั้งแล้ว” เด่น กล่าว

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

Prev

June 2025

Next

Mon

Tue

Wed

Thu

Fri

Sat

Sun

26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
1
2
3
4
5
6

9 June 2025

Nothing to show.

เข้าสู่ระบบ