“เราอุตส่าห์สร้างคนดี แล้วคุณมาทำลาย เราเสียใจ” กลายเป็นข้อความภาพที่หลายคนในพื้นที่ชายแดนใต้ ใช้เป็นภาพโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก เพื่อแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์วิสามัญฆาตรกรรมที่ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี
จากกรณี เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2558 ซึ่งมีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความผิดปกติในพื้นที่ ม.6 บ.โต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และได้มีการจับกุมประชาชนจำนวน 22 คน รวมทั้งได้วิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ 4 คน โดย 2 คนในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
ภายหลังจากเหตุการณ์ 3 วัน (27 มี.ค. 2558) ผศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนีได้ร่วมละหมาดวันศุกร์ ที่มัสยิดดารุลฮูดา ต.ปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังจากละหมาด (เวลาประมาณ 13.00 น.) มีลูกศิษย์คนหนึ่งถามความรู้สึกของอธิการบดีฯ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านอธิการบดีฯ กล่าวประโยคหนึ่งความว่า “เราอุตส่าห์สร้างคนดี แล้วคุณมาทำลาย เราเสียใจ” ลูกศิษย์คนดังกล่าวได้อัพสเตตัสโดยใช้ user name facebook ของตนเอง “Muhammad A-meen Hajihama”
หลังจากนั้นไม่นานสเตตัสดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อๆ กัน กระทั่งถูกนำมาใช้เป็นภาพโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กของหลายคนในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยทางมหาวิทยาลัยฟาฏอนีเป็นผู้เผยแพร่ข้อความภาพเป็นฉบับภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อใช้เป็นสื่อสัญลักษณ์ในแนวทางสันติวิธีเพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์วิสามัญฆาตรกรรมดังกล่าว ขณะที่มีฉบับภาษามลายู และฉบับภาษาอาหรับ ตามมาในภายหลังแต่ไม่ใช่ข้อความภาพที่มาจากทางมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
ในวันเดียวกัน (27 มี.ค. 2558 ในเวลา 15.00 น.) อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้อ่านคำแถลงการณ์ (คลิกอ่านแถลงการณ์) เผย 5 ข้อเท็จจริงจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ระบุยืนยันว่านักศึกษาทั้ง 2 เป็นผู้บริสุทธิ์ และยังยืนยันที่จะแก้ปัญหาโดยสันติวิธี และเชื่อว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่มีความยุติธรรม ปราศจากอคติ และผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ โดยขอให้มีการตั้งกรรมการกลางขึ้นสอบสวนหาข้อเท็จจริงร่วมกันโดยมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีผู้เแทนมหาวิทยาลัยฟาฏอนีเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกลางฯ
อีกทั้ง เรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข่าวอย่างเป็นธรรมด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพก่อนนำเสนอ และงดการนำเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวผู้เสียหายและมหาวิทยาลัยในระหว่างที่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ