“ชาวจะนะ”กำหนดบ้านของตัวเอง
ทะเลคือความมั่นคงแห่งชีวิต
ในช่วงที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่จะนะ จ.สงขลา เริ่มทำฐานข้อมูลทรัพยากรในบ้านของตัวเอง เพื่อให้ให้ทุกคนได้รู้ว่าที่นี่มีความสมบูรณ์มากแค่ไหน บังรุ่งอรุณ หมัดเจริญ ชาวประมง บ้านสวนกงเคยบอกกับเราว่า “ออกไปไม่ไกล วันนึงได้เเล้ว 2,000 บ้าง 3,000 บ้าง ทำงานไม่กี่ชั่วโมง แล้วแต่ ได้มากดีใจ งานบายๆ งานอิสระ” รายได้แต่ละวันในหลักพัน พอเฉลี่ยเป็นรายเดือน รายปีเเล้ว เยอะจนน่าตกใจ ก็อย่างที่ชาวบ้านบอกไว้ว่า ความสมบูรณ์ของทะเลที่นี่สามารถเลี้ยงคนในชุมชนและเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ให้คนในประเทศและต่างประเทศ
มูลค่าเศรษฐกิจบ้านสวนกง คำนวนมาจากเส้นทางเศรษฐกิจที่มาจากการประมงใน 3 ตำบล 7 หมู่บ้านของอำเภอจะนะ พบรายได้ 1,341,500 บาท/วัน 26,830,000 บาท/เดือน 352,900,000 บาท/ปี
มีการสำรวจข้อมูลจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และภาคประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลน่าสนใจจากทรัพยากรทะเล พบว่า มีสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งในทะเลและริมชายหาด รวมกว่า 172 ชนิด เป็นปลาเศรษฐกิจที่ขายในท้องตลาดกว่า 120 ชนิด พบข้อมูลน่าสนใจ ชาวบ้านบอกว่า ก่อนหน้านี้ ปลาหลายชนิดหายไปแล้ว จากการเข้ามาของเรือประมงพาณิชย์เมื่อปี 2534 หลังจากร่วมกันอนุรักษ์ วันนี้ปลาหลายชนิดเริ่มกลับมาทะเลจะนะอีกครั้ง อย่างเช่น ปลาอีคุด ปลาเนื้อละมุนกว่าปลากะพง ปลาทูน่า ที่ปกติแล้วจะชอบอยู่ในทะเลน้ำลึก ก็แวะเวียนมาใกล้ๆ ทะเลจะนะ
เเม้ปลาหลายชนิดเริ่มกลับมา เเต่ชาวจะนะตระหนักดีถึงปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง จากภาวะโลกร้อนกำลังก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนและระบบนิเวศ เเน่นอนว่าทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนในอำเภอจะนะ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมไปถึงตอนนี้ชาวบ้านยังต้องเผชิญกับปัญหา ราคาพืชผลทางการเกษตรผันผวนตกต่ำ การขาดแรงงานภาคเกษตร ปัญหาเรื่องการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและเยาวชน และปัญหามลพิษทางน้ำและอากาศ ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนาน
จึงได้มีความพยายามในการร่วมกันหาทางออก โดยได้ร่วมกับ นักวิชาการ ประชาชน ประชาสังคม ผู้นำศาสนา และสภาองค์กรชุมชนอำเภอจะนะ โดยใช้หลักการทำข้อมูลชุมชน การมีส่วนร่วม และประสานองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแก้ปัญหา ซึ่งอยู่บนฐานทรัพยากร ภูมิปัญญา ศาสนา ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมของคนจะนะ รวมถึงการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มายกระดับให้มีการพัฒนาต่อยอด เพิ่มคุณค่าและมูลค่าไปด้วยกัน
เครือข่ายฯจึงได้ทำการเก็บรวบรวมข้อเสนอของชุมชนและร่วมกันร่างยุทธศาสตร์จะนะยั่งยืน บนพื้นฐานการเก็บข้อมูลศักยภาพของชุมชนเเละลงมือผลักดันให้เกิดความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น
ไทยพีบีเอส โดยทีมเเลต๊ะเเลใต้ ได้ใช้ข้อมูล 14 ยุทธศาสตร์ ที่ชาวบ้านร่วมกันเขียน เปิดพื้นที่ออนกราวด์ ผ่านงานอะโบ้ยหมะ จ. สงขลา ชวนคนทั่วและคนในพื้นที่จะนะ จินตนาการหย่อนเงินภาษีของเรา เพื่อจัดลำดับความสำคัญในสิ่งที่อยากต่อยอด ผ่าน เกมส์ 14 ยุทธศาสตร์จะนะ ยั่งยืน อนาคตที่อยากกำหนดใช้เวลาเพียงสั้นๆ ผลปรากฎว่า
“ชาวจะนะ”ออกเเบบได้
จากข้อมูลคนจะนะและคนที่มาร่วมงานกว่า 160 คน เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมกันออกแบบการพัฒนาด้วยตัวเอง ซึ่งในกิจกรรมนี้จะให้ลูกบอลที่แยกสีตามช่วงวัยและกลุ่มคน เพื่อให้นำลูกบอลที่ได้คนละ 5 ลูก ไปหย่อนในถุงตาข่ายตามยุทธศาสตร์ที่ต้องการให้มีการนำมาพัฒนาในพื้นที่ตามลำดับความสำคัญ
โจทย์ที่คนจะนะเลือกเยอะที่สุด
1.ความมั่นคงทางอาหาร
2.การแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง
3.การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
4.พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ
5.เมืองการศึกษา (อุลามาอฺ)
ส่วนสำหรับคนทั่วไปที่ไปร่วมงานมองว่า
1.ความมั่นคงทางอาหาร
2.พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ
3.การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
4.การพัฒนาเด็ก และเยาวชน
5.เมืองการศึกษา (อุลามาอฺ)
น่าสนใจ คำตอบทั้งสองกลุ่มคล้ายกัน ในอันดับแรกๆ สะท้อนถึงการต้องมี ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ที่รักษาและเพิ่มพื้นที่แหล่งผลิตอาหารทั้งพื้นที่ทางด้านการเกษตรและพื้นที่ทำการประมง ที่สามารถผลิตอาหารที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยโดยชุมชน ก็จะสามารถขยายผลไปยังการพัฒนาเศรษฐกิจ และการให้ความสำคัญส่งเสริมและพัฒนาให้จะนะเป็นเมืองแห่งการศึกษาและการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับฐานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและศาสนา ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่หลายคนให้ความสนใจ
กิตติภพ สุทธิสว่าง เครือข่ายฅนรักษ์จะนะ กล่าว่า วิกฤติของโลกร้อน ประชาชนจะเดือนร้อน ฉะนั้นต้องรักษาแหล่งผลิตอาหาร ที่อยู่กับธรรมชาติ เกษตรเกษตรต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น ทรัพยากรถ้าปกป้องไว้ได้ก็จะทำเกิดเศรษฐกิจชุมชน ถ้าสัมผัสความจริง เขาเลือกในสิ่งที่เขาต้องการ เป็นทิศทางที่ดีที่เราต้องประสานความร่วมมือทั้งรัฐ เอกชน และหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ด้านผู้เข้าร่วมงาน เล่าให้ฟังว่า มาจะนะด้วยความบังเอิญ เราเข้ามาเเล้วได้พูดคุยกับชาวบ้านเราเห็นว่า อาหารทะเลจะนะมีความสมบูรณ์ อย่างกุ้ง ปู ปลา ตัวใหญ่ๆ เเต่เราเข้าไม่ถึงอาหารทะเลเหล่านี้ พอเราได้คุยกับชาวบ้านเห็นว่าชุมชนมีความมุ่งมั่นในการรวมกลุ่มกัน เเปรรูป มีสินค้า ชาวบ้านมีศักยภาพ มีความตั้งใจ เเละถ้าเราพูดถึงจะนะเราจะนึกถึงนกเขา เเต่ตอนนี้เรานึกถึงอาหารทะเล สมุนไพร ภูมิปัญญาท้องถิ่น
สิ่งที่พี่เลือกคือความมั่นคงทางด้านอาหาร เพราะสิ่งนี้สามารถต่อยอดเศรษฐกิจชุมชนก็จะมีเม็ดเงินกลับมาตอบเเทนชุมชน
สินาด ตรีวรรณไชย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า จากที่ดูลูกบอลและจำนวนยุทธศาสตร์แสดงถึงความสนใจและความต้องการ ถ้าจำนวนมากอาจจะสนใจเรื่องนั้นเยอะ ซึ่งพบว่าประเด็นความมั่นคงทางอาหารมีคนให้ความสนใจเยอะ ต้องการที่ต่อยอดจากฐานทรัพยากรที่มีในชุมชนไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เป็นประเด็นค่อนข้างสำคัญพื้นที่จะนะ
เเละการที่ชุมชนสกัดข้อมูลออกมาเป็นยุทธศาสตร์ จริงเล้วเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้อนนี้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กำลังดำเนินการในขั้นตอนของการทำSEA สงขลา-ปัตตานี(การจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทรศาสตร์สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี) เราอยากให้ทุกกลุ่มที่มีความต้องการ เเละมีความสนใจ ที่อยากต่อยอดบนฐานทรัพยากรของตัวเอง สามารถใช้กิจกรรมลักษณะนี้ในการสกัดความต้องการของชุมชน เเละกระบวนการSEA เราก็มีช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นโดยตรงหรือมีการเปิดเวที
อาจารย์สินาดกล่าวต่ออีกว่า ในการทำSEA สงขลา-ปัตตานี จำเป็น ต้องฟังเสียงของเเต่ละชุมชนซึ่งในส่วนนี้ เป็นความต้องการของชุมชน ซึ่งยุทธศาสตร์เหล่านี้จะถูกนำไปวิเคราะห์ร่วมกับเเผนต่างๆของรัฐ เอกชน กลุ่มอื่นๆ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์เเน่นอน จะทำให้เราสามารถกำหน้าเป้าหมายของการพัฒนาหรือยุทธศาสตร์ร่วมของทั้งจังหวัด เพื่อให้ทุกกลุ่มเห็นว่าเป็นยุทธศาสตร์ร่วมจริงๆ ในอนาคตยังมีประโยชน์ในเเง่ของการทำข้อมูล ทางเลือก เเบบไหนที่จะเหมาะกับฐานทรัพยากร ทางเลือกเเบบไหนที่จะเป้นทางเลือกเเบบใหม่ที่อิงกับฐานทรัพยากร
ถ้าดูจากความต้องการเหล่านี้คิดว่า คนจะนะเเละคนนอกพื้นที่คิดคล้ายๆกัน อยากต่อยอดทรัพยากรที่มีในชุมชน
ชมคลิป ยุทธศาสตร์จะนะยั่งยืน ชาวบ้านขอกำหนดอนาคตตัวเอง