แอมเนสตี้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ไทย แสดงข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนก่อนลงประชามติ 7 ส.ค.นี้ พร้อมเผยแพร่รายงานการจำกัดเสรีภาพนับตั้งแต่รัฐประหาร 2557
30 ก.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2559 เว็บไซต์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานข้อมูลว่า สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย แสดงความกังวลต่อการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนช่วงก่อนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. 2559 ที่จะถึงนี้
ซาลิล เช็ตตี้ เลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุในจดหมายว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ทหารอ้างว่าเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุม ซึ่งล้วนแต่เป็นสิทธิที่ประเทศไทยมีต้องเคารพและคุ้มครองตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
ซาลิล เช็ตตี้ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีของไทยประกันว่าประชาชนจะสามารถใช้สิทธิของตนได้อย่างสงบและเสรี สามารถรับและเผยแพร่ข้อมูลได้อย่างเสรี สามารถเข้าร่วมการอภิปรายสาธารณะและการรณรงค์ที่เกี่ยวข้องกับร่างรัฐธรรมนูญ และสามารถแสดงความเห็นที่ขัดแย้งกับรัฐบาลได้โดยไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกคุกคาม จับกุม หรือดำเนินคดี
เลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ยังกระตุ้นให้ทางการไทยยกเลิกการดำเนินคดีต่อประชาชนและนักข่าวอย่างน้อย 113 คนที่ถูกจับเพียงเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือการรณรงค์เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น
นอกจากนี้ แอมเนสตี้ยังได้ออกรายงานเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพในประเทศไทยช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ซึ่งครอบคลุมข้อมูลเกี่ยวกับประกาศคำสั่งและกฎหมายที่จำกัดสิทธิ การจับกุม การควบคุมตัว การดำเนินคดี การขัดขวางการอภิปรายสาธารณะและการตรวจสอบการออกเสียงประชามติ และพันธกรณีของไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ
คลิกอ่าน
รายงาน : ประเทศไทย : ยกเลิกการจำกัดสิทธิ ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
จดหมายเปิดผนึกฉบับเต็มภาษาไทย : ข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนก่อนจะถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
รายงานและจดหมายเปิดผนึกฉบับเต็มภาษาอังกฤษ : THAILAND: Lift Rights Restrictions During Political Transition