ผ่านมาแล้ว 1 ปี 7 เดือน สำหรับเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหล กลางทะเลอ่าวไทย และไหลลามเป็นบริเวณกว้างที่จังหวัดระยอง ซึ่งยังคงมีผลต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้
16 ม.ค. 2558 ศาลจังหวัดระยองมีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นครั้งแรก ระหว่างชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ กับบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) โดยชาวประมงพื้นบ้านรวมถึงผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้มีการพูดคุยถึงแนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรทะเลให้กลับมาสมบูรณ์ ก่อนจะคุยเรื่องชดใช้ค่าเสียหายรายบุคคล
กลุ่มชาวบ้านได้แสดงข้อเสนอถึงแนวทางในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ต่อบริษัทพีทีทีฯ ว่าควรสำรวจและเก็บตะกอนน้ำมันดิบที่ยังตกค้างอยู่ ลดกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูทะเล รวมทั้งเสนอให้ปิดอ่าวเพื่อไม่ให้เครื่องมือประมงลากตะกอนน้ำมันให้กระจาย และเสนอให้ประกาศพื้นที่ห่างจากชายฝั่ง 20 ไมล์ทะเลเป็นเขตควบคุมพิเศษทางมลพิษก่อนการฟื้นฟูสภาพทะเล แล้วจึงค่อยเจรจาเรื่องค่าเสียหายของชาวบ้าน
อุดมศักดิ์ หลอดทอง หนึ่งในเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว บอกถึงความคาดหวังในกระบวนการช่วยเหลือต่อจากนี้ว่า “ต้องให้ทางจังหวัดเป็นคนจัด เป็นคนกลาง แล้วก็ถามว่าชาวบ้านเอาแบบไหน โรงงานเอายังไง แต่ถ้าถามความคาดหวังเราก็ไม่อยากจะคาดหวังอะไรมาก เพราะเราก็รู้อยู่ว่าการต่อสู้แบบนี้มันเป็นเรื่องยาก เพียงแต่ว่าชาวบ้านไม่อยากให้เกิดเหตุการแบบนี้อีกซ้ำสอง เพราะปัจจุบันนี้มันแย่ แย่สุดๆ เลย บางคงก็ขายเรือ บางคนก็ไปรับจ้าง บางคนก็ไปทาสี สารพัดเลยตอนนี้ สัตว์น้ำก็หายาก แตกต่างจากตอนยังไม่มีเหตุการณ์น้ำมันรั่ว ถ้าคิดๆ ดูน่าสัตว์น้ำก็น่าจะหายไปกว่าครึ่งค่อน”
อย่างไรก็ตาม ศาลจังหวัดระยองจะนัดไกล่เกลี่ยครั้งที่ 2 ในวันศุกร์ที่ 13 มี.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีชาวบ้านกว่า 400 คนไปรับฟังในครั้งนี้ด้วย
ติดตามข้อสรุปจากการไกล่เกลี่ยครั้งที่ 2 ได้ในนักข่าวพลเมือง ค่ำที่ 13 มี.ค.นี้ หลังข่าวพระราชสำนัก ไทยพีบีเอส
author
