หลายคนอาจสงสัยว่าเด็กสื่อใหม่ไม่อ่านหนังสือสอบกันเหรอ มันดูเหมือนจะดีนะ แต่อย่าเพิ่งดีใจไป มาดูกันว่าเด็กสื่อใหม่เขาหมกหมุ่นทำอะไรกัน
ดูจากรูปภาพก็หน้าจะเดาออก ว่ามันคือ ละครเวทีนั้นเอง แล้วไม่ใช่ละครเวทีธรรมดา แต่เป็นละครเพลง แถมยังพากย์กันสดๆเลยทีเดียว แค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ ไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้วละสิ ไปดูกันว่าเราทำอะไรกันบ้าง
เริ่มจากทุกคนแบ่งหน้าที่เป็นฝ่ายๆ ว่าฝ่ายไหนทำอะไรบ้าง โดยจะมีการร่วมกันระหว่างปี2และปี3 ในส่วนของปี2มีหน้าที่ผลิตงานละครเวทีทั้งหมด ในด้านของพี่ปี3จะเป็นฝ่ายโปรดักชั่น ขอพูดในส่วนของปี2 เริ่มจาก ต้องแบ่งเป็นฝ่ายย่อยๆไปอีกหลายฝ่ายเลยทีเดียว เช่น นักแสดง คนเขียนบท โปรดิวเซอร์ ฝ่ายฉาก ฝ่ายเสียง และอื่นๆ อีก ทุกฝ่ายมีความสำคัญที่สุด หากขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปงานไม่อาจสำเร็จ
เมื่อแบ่งหน้าที่กันทุกฝ่ายแล้ว คนเขียนบทจะเริ่มเขียนบทที่มาจาก ละครวิทยุที่เคยทำมาในชั้นเรียน เมื่อได้เค้าโครงบทมาแล้ว ก็ได้เวลา วางตัวนักแสดงต่างๆ แล้วฝ่ายฉากก็ต้องเริ่มทำฉากที่จะต้องใประกอบการแสดง แล้วเนื่องจากละครเวทีเป็นละครเพลง จึงต้องมีการทำเพลง ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาหรือไม่ได้กล่าว เด็กสื่อใหม่ต้องทำเองทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลาซ้อม ก็จะมีการวางบล็อกกิ้งของนักแสดงว่าจะอยู่จุดไหนบนเวทีหรือฉาก นักแสดงจะต้องทำการซ้อมบท พร้อมกับการซ้อมในส่วนของนักพากย์ด้วย เนื่องจาก2ฝ่ายนี้จะต้องมีเสียงภาพที่ออกมาตรงกัน ในละครยังมีเพลงที่เด็กสื่อใหม่ได้ทำขึ้นเอง เริ่มจากแต่งเนื้อเพลง ทำดนตรี จนถึงอัดเสียงร้องซึ่งคนร้องนั้นคือนักพากย์ของเรานั้นเอง ส่วนคนทำเพลงก็เป็นฝ่ายเสียง เมื่อได้เพลงออกมาตามที่ต้องการแล้ว นักแสดงต้องคิดท่าเต้นที่จะใช้แสดงในเพลงและลิปซิ้ง ทั้งยังมีเสียงโฟอี้ ที่จะทำให้ละครเวทีมีความสมจริง มีอารมณ์ และเพิ่มอรรรสกับผู้ชมเพิ่มขึ้นได้อย่างมากเลยทีเดียว ฝ่ายโฟอี้ จะต้องจัดหาอุปกรณ์ที่จะใช้ทำเสียงประกอบให้เหมือนจริงกับที่นักแสดงมากที่สุด
เราซ้อมกันทุกวันตื่นเช้าเพื่อไปซ้อมเตรียมความพร้อมทุกอย่างจนว่าจะถึงวันแสดงจริง เด็กสื่อใหม่ต้องขึ้นมอทุกวันด้วยรถเมล์มอในช่วงระยะเวลาซ้อม เมื่อทุกอย่างพร้อม น้องปี2ก็จะต้องมีการซ้อมกับพี่ปี3 ในเรื่องของมุมกล้องต่างๆ แสง ฉาก ไฟ คิว
และอย่าลืมว่าเราจะต้องมีโปสเตอร์เพื่อสำหรับโปรโมทละครเวทีของเรา ฝ่ายคอสตูมจะต้องจัดหาเสื้อผ้า และออกแบบหน้าผมให้กับนักแสดงให้เข้ากับคาแรคเตอร์ในเรื่อง หลังจากนั้นนักแสดงจะต้องไปถ่ายรูปเพื่อทำโปสเตอร์โปรโมท นักแสดงจะต้องถ่ายรูปที่แสดงออกถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครให้ออกมาได้มากที่สุด
ท้ายที่สุดงานนี้ก็เสริมสร้างประการณ์ได้มากเลยทีเดียวเนื่องจากได้ลงมือทำจริงทุกอย่าง เป็นการฝึกการทำงานเป็นกลุ่มใหญ่ การทำงานกับคนหมู่มาก ได้ฝึกความสามัคคีความรับผิดชอบ ได้อะไรหลายอย่างจากการทำละครเวทีนี้จริงๆ ขอเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไปค่ะ