“ปิกนิกหน้าหาด” สานฝันเด็กเกาะทุ่งนางดำในวันเด็ก

“ปิกนิกหน้าหาด” สานฝันเด็กเกาะทุ่งนางดำในวันเด็ก

“อยากไปปิกนิก กินส้มตำ ข้าวเหนียวและไก่ทอดที่หน้าหาด” เด็กๆพูด

“ได้นะ แต่ต้องมีเงินก่อน” เราตอบกลับ

“น้าฉ๊ะเมื่อไหร่จะได้ไปกินส้มตำที่หน้าหาดสักที อยากเล่นน้ำทะเล” เด็กๆ ทวง

เราเล่าไปตามความจริง เพราะทุกวันนี้ หมู่มวลเพื่อนมิตรแวะเวียนกันส่งสมุด ปากกา หนังสือมาให้บ้าง แล้วแต่กำลังศรัทธา พวกเราเรียนรู้ตามต้นทุนและทรัพยากรในบ้านที่มี เพราะเราอยากให้เด็กตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญและความหมายของทรัพยากรในบ้าน เราอยากเห็นคุณค่าของสิ่งที่ได้รับ เพื่อให้เขาตระหนักรู้ว่า ไม่มีอะไรได้มาแบบง่ายๆ เสียทุกอย่าง เด็กๆอาจจะบ่นบ้างเวลาเราเดินไปเรียนรู้ที่ชายหาด ระหว่างเดินก็แวะกันไปตลอดทาง การไปชายหาดแต่ละครั้ง ทุกคนจะต้องถือน้ำไปดื่มคนละขวด สมุด ดินสอ เพื่อบันทึกรูปและสมุนไพรในป่าระหว่างทางเดิน เราแวะชิมผลไม้ที่เกิดขึ้นในบ้านของเรา เช่น ลูกโท๊ะ ลูกเหม็ดชุน ลูกเขาคัน ลูกมังเคร พืชผักเช่น ยอดกาหยี (มะม่วงหิมพานต์) ยอดผักหวาน ยอดมันปู เมื่อผ่านวังหอยขมก็จะแวะดูหอยขม เก็บพากลับบ้านบ้าง เก็บให้น้าฉ๊ะบ้าง แวะไปดูดงต้นงิ้ว เพื่อสำรวจว่า มีต้นงิ้วเกิดใหม่กี่ต้น หลังจากเล่นทราย หาหอยเสียบกันสักพัก เราก็กลับมาสรุปว่า เด็กๆ รู้จักสมุนไพรกี่ต้น ผักกี่ชนิด ผลไม้ป่ากี่อย่าง ทุกวันนี้ถ้ามีเพื่อนๆ ของเรามา เด็กๆ จะเป็นคนทำหน้าที่แนะนำสมุนไพรและบอกสรรพคุณตามที่พวกเขาจำได้ เรารู้สึกดีมาก มั่นใจว่า การเรียนรู้ท่ามกลางทรัพยากรที่มี ธรรมชาติรังสรรค์ ทำให้เด็กๆ จดจำและไปใช้ต่อได้เป็นประโยชน์ และก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ 3 วัน เราตัดสินใจว่า จะสานฝันเด็กด้วยการพากันไปกินอาหารตามเมนูที่เด็กๆ เรียกร้อง และบอกเล่าเรื่องนี้ให้พี่ ป้า น้า อา หลายคนในชุมชนรับรู้ว่า เราอยากทำความฝันเด็กให้เป็นจริง เป็นของขวัญในวันเด็กแห่งชาติ เรามีงบประมาณบางส่วน แต่เราไม่มีแรงมาก ต้องขอความร่วมมือจากทุกคนในชุมชน สักพักเสียงไลน์กรุ๊ปของหมู่บ้านดังขึ้น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ทำงาน บอกเล่าถึงสิ่งที่เราจะทำ มีผู้ใหญ่หลายคนสมทบเงิน สมทบน้ำดื่ม อาหารและของขวัญ รวมถึงกัลยาณมิตรและเพื่อนๆ ของเราช่วยสมทบทุนทำให้ฝันของเด็กๆ เป็นจริง เราให้ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรม โดยยึดเมนูอาหารตามที่เด็กๆ บอกมา ทุกกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกคนในชุมชน ทั้งออกแบบ ออกแรง ออกเหงื่อ เรามองเห็นพฤติกรรมของเด็กๆ ที่มาเรียนรู้และทำกิจกรรมกับเรา พวกเขาเป็นเด็กที่ขี้เกรงใจ ไม่เคยร้องขออะไร ถ้าไม่ให้ก็ไม่ขอ ถ้าไม่หิวมากๆ จะไม่รบกวน ถ้าขึ้นไปร่วมงานบนฝั่งไม่มีทางที่เด็กๆ เหล่านี้จะไปแย่งชิงของขวัญหรืออาหารจากใคร ถ้าไม่ประสงค์ให้เอง เด็กๆ ยอมอด ถึงจะเป็นเด็กเกาะ แต่เรื่องมารยาททางสังคมพวกเขามีเปี่ยมล้น ไม่เคยขออะไรที่มีราคาแพง ถ้าบอกว่า ไม่มีเงิน พวกเขาก็ไม่รบเร้าอะไร มาร่วมกิจกรรมตามปกติ

เด็กๆบอกว่า “มีก็กิน ไม่มีก็อดไปก่อนนะน้าฉ๊ะ” ถ้าอาทิตย์ไหนเราไม่มีเงิน เด็กๆ จะเอาผัก ไข่ไก่ และอาหารสดจากบ้านตัวเองมาคนละ 1 อย่าง เพื่อมาทำอาหารกินร่วมกัน เราทำหน้าที่แค่นั่งเฝ้ามองและระวังอันตรายจากการใช้ไฟ ที่นี่เราใช้เตาถ่านในการทำอาหาร เด็กๆ ไม่เคยบ่น เรากินอาหารที่เด็กๆ ทำ เด็กกินอะไรเราก็กินแบบเดียวกัน หลังจากแบ่งหน้าที่กันแล้ว เราทุกคนต่างแยกย้ายทำภารกิจ เพราะทุกคนเป็นเจ้าของการร่วมกัน ทุกคนล้วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน เมื่อถึงวันจัดงาน ทั้งผู้ใหญ่และเด็กช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เมื่อทุกคนเห็นของขวัญเด็กๆ ตื่นเต้น ผู้ใหญ่หลายคนรวมถึงเด็กๆถามว่า “ทำไมน้าฉ๊ะซื้อของขวัญมาดีจัง แพงไหม?” เราตอบว่า แพงก็ไม่เป็นไรหรอกปีละครั้งเองนะ เด็กๆ มักช่วยเราประหยัดเสมอ อะไรที่แพงมากเด็กๆจะบอกว่า ไม่ต้องซื้อหรอก เรามีเงินค่อยซื้อ หรือผักบางอย่างก็บอกว่า เราไปช่วยกันเก็บก็ได้บ้านเรามีเยอะ ในวันเด็ก เด็กทุกคนได้กินอาหารตามเมนูที่พวกเขาเสนอกันมา ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่กินอาหารร่วมกัน อิ่มหนำ สำราญ สนุกสนาน และเด็กๆ ชอบมากที่ได้เล่นน้ำทะเล ทุกคนพูดว่า ปีหน้าจัดแบบนี้อีกนะ สนุกมาก ชอบมาก ผู้ใหญ่หลายคนอวยพรเราว่า ขอให้ประสบความสำเร็จ ปีหน้าได้จัดกิจกรรมดีดีแบบนี้อีก งานครั้งนี้มีผู้ใหญ่เกือบทุกครอบครังมาร่วมด้วย รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นที่หลายคนบอกว่า ไม่ค่อยไปร่วมกิจกรรมที่ไหนถ้าไม่ถูกใจจริงๆ และมี สจ.ลงมาแจกของขวัญให้เด็กๆ เรารู้สึกว่า การกิจกรรมครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากในเรื่องของกระบวนการมีส่วนร่วมและความร่วมมือ ร่วมใจของคนในเกาะ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทุกคนต่างบอกว่า มีความสุขมาก

การกลับมาอยู่บ้านในฐานะอาสาคืนถิ่น คนรุ่น ใหม่กลับบ้าน ระยะเวลาล่วงเลยมา 7 เดือนแล้ว เราไม่ใช่แค่อยู่รอด อยู่ร่วม แต่เราอยู่อย่างมีคุณค่าและความหมาย “Space เล้าเต้งมุมบายใจ” พื้นที่ชีวิต จากรากเหง้าสู่อนาคตของเรา มีทั้งชีวิต ความฝัน ความหมายและคุณค่าของวัยวัน เราขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่ร่วมกันสานต่อฝันเล็กที่ยิ่งใหญ่ของเด็กให้เป็นจริงๆ จากคำถามที่เราถามตัวเองว่า ถ้าจบโครงการเราจะอยู่ชุมชนต่ออย่างไร จะหาเงินจากไหน จะไหวหรือเปล่า ณ วันนี้เรามีความหวังที่จะสร้างพื้นที่ชีวิตของเราต่อไป เราแกล้งหยอกเด็กๆ ว่า อยู่จะครบหนึ่งปีอีกไม่กี่เดือนแล้ว ถ้าครบหนึ่งปี เราไม่รู้ว่าจะอยู่ที่เกาะไหม? สงสัยต้องไปหางานทำเลี้ยงครอบครัวบนฝั่งแล้ว เด็กๆ บอกว่า ไม่ให้ไป น้าฉ๊ะ จูฉ๊ะต้องอยู่กับพวกเรา ต้องสอนหนังสือให้พวกเรา ต้องพาพวกเราทำกิจกรรม เราเลยพูดต่อว่า แล้วมีอะไรมีสร้างแรงบันดาลใจในการอยู่ที่เกาะต่อ ที่เกาะมีของดีอะไร? เด็กๆ ตอบว่า มีภูเขา มีทะเล มีต้นไม้ มีชายหาด และมีพวกเรา เราเลยแกล้งทำตกใจว่า อะไรนะ มีอะไรดีนะ เด็กๆ ตอบว่า ก็มีเด็กๆ อย่างพวกเราไง ของดีทุ่งนางดำ เด็กๆ ช่วยฮีลใจเรามาก อาการป่วยซึมเศร้าเราดีขึ้น พวกเขาคือพลังงานที่ดีสำหรับเรา ใครมันจะไปไหนได้ เมื่อวานเราเล่นน้ำ กินอาหาร จับของขวัญ ทุกคนแฮปปี้ เด็กๆ อิ่มท้อง เราอิ่มใจ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสานฝันของเด็กๆ และสานความฝันของเรากับการสร้าง “Space เล้าเต้งมุมบายใจ” พื้นที่ชีวิต จากรากเหง้าสู่อนาคตของเราร่วมกัน พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรู้ ความรัก ความฝัน อนาคตและความรุ่มรวยทางจิตวิญญาณ

“ความฝันของเราอย่าให้ใครขโมยไปนะ” เราบอกเด็กๆ แบบนั้น

“คนเราทุกคนมีความสามารถไม่เหมือนกัน เหมือนกับมือคนเรามีนิ้วที่ยาวสั้นไม่เท่ากัน โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย ซึ่งมีค่าทั้งนั้น ทุกนิ้วล้วนมีความสำคัญ มันต่างกันแค่สั้นยาว” เวลาเด็กๆ ทะเลาะกัน เราบอกพวกเขาด้วยความรัก ความเข้าใจ

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ